IntroductionThe exploitation of new

Introduction
The exploitation of new catalysts in an environmentally benign
manner has become crucially important in recent years [1].
Nature is an extraordinary chemist who evolves its catalysts over
millions of years [2]. Such catalysts are models of energy-efficient,
environmentally benign chemical agents, as virtually all do their
work under mild conditions and generate few waste products [3].
However, the development and use of these natural catalysts in
organic chemistry are very limited. To date, the most common
biocatalytic methods use either whole-cells or isolated enzymes for
a given chemical transformation. Each method has advantages
and challenges for both laboratory-scale and industrial-scale
chemistry [4]. The use of whole-cell systems benefits from the
ability to use low-cost and renewable feedstocks, and co-factor
addition and regeneration are not necessary. However, whole-cell
systems require expensive equipment and tedious work-up because
of large volumes, and have low productivity. More importantly,
the accumulation of products and by-products may be toxic to the
cell. Besides, the cell membrane may act as a mass transport
barrier between the substrates and the enzymes [5]. Compared to
whole cells, isolated enzymes offer several benefits, including
simpler reaction apparatus, higher productivity owing to higher
catalyst concentration, and simpler product purification [6]. Thus,
isolated enzymes are usually more efficient in bioconversion than
whole cells. However, enzyme purification involves expensive
strategies, usually employing costly and polluting chemicals, being
also laborious and time-consuming, which restricts the use of
isolated enzymes, making it difficult to scale-up [7]. Therefore, it is
obligatory to find easy methods to supply the gaps.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำแสวงหาสิ่งใหม่ที่ส่งเสริมในสิ่งแวดล้อมอ่อนโยนลักษณะได้กลายเป็นสิ่งสำคัญสามารถในปีล่าสุด [1]ธรรมชาติเป็นเคมีพิเศษที่วิวัฒนาการสิ่งของผ่านล้านปี [2] สิ่งดังกล่าวเป็นรุ่นที่ประหยัดพลังงานทำตัวแทนสารเคมีอ่อนโยนต่อสิ่งแวดล้อม เป็นแทบทั้งหมดของพวกเขาทำงานภายใต้สภาวะที่ไม่รุนแรง และสร้างขยะน้อย [3]อย่างไรก็ตาม การพัฒนาและการใช้สิ่งเหล่านี้ธรรมชาติในเคมีอินทรีย์มีจำกัดมาก วัน ทั่วไปมากที่สุดใช้วิธีการ biocatalytic เซลล์ทั้งหมดหรือแยกเอนไซม์สำหรับแปลงทางเคมีแบบกำหนด แต่ละวิธีมีข้อดีและความท้าทายสำหรับระดับห้องปฏิบัติการและระดับอุตสาหกรรมเคมี [4] ใช้ระบบเซลล์ทั้งหมดได้รับประโยชน์จากการความสามารถในการใช้ทดแทน และต้น ทุนต่ำวมวล และปัจจัยร่วมนอกจากนี้และฟื้นฟูไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม เซลล์ทั้งหมดระบบต้องมีอุปกรณ์ราคาแพงและแต่งงานที่น่าเบื่อเพราะในปริมาณมาก และมีผลผลิตต่ำ สำคัญอาจเป็นพิษสะสมของผลิตภัณฑ์และผลพลอยได้จากการเซลล์ เยื่อหุ้มเซลล์อาจทำหน้าที่เป็นขนส่งมวลชนอุปสรรคระหว่างพื้นผิวและเอนไซม์ [5] เมื่อเทียบกับเซลล์ทั้งหมด แยกเอนไซม์มีประโยชน์หลายประการ รวมทั้งง่ายกว่าปฏิกิริยาเครื่อง ประสิทธิภาพที่สูงกว่าเนื่องจากการสูงขึ้นความเข้มข้นเศษ และผลิตภัณฑ์ฟอกง่าย [6] ดังนั้นโดยปกติประสิทธิภาพใน bioconversion กว่าที่แยกเอนไซม์เซลล์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทำให้บริสุทธิ์ของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับราคาแพงกลยุทธ์ มักจะใช้สารเคมี polluting และค่าใช้จ่าย การยังลำบาก และใช้เวลา นาน ซึ่งจำกัดการใช้แยกเอนไซม์ ทำยากค่าสเกล [7] ดังนั้น จึงบังคับให้หาวิธีที่ง่ายในการจัดหาช่องว่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำการแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่ในเป็นพิษเป็นภัยกับสิ่งแวดล้อมลักษณะที่มีความสำคัญอย่างมากในปีที่ผ่านมา[1]. ธรรมชาติเป็นนักเคมีพิเศษที่วิวัฒนาการตัวเร่งปฏิกิริยาของมันมากกว่าล้านปี [2] ตัวเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวเป็นรูปแบบของพลังงานที่มีประสิทธิภาพสารเคมีเป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมขณะที่แทบทุกคนทำของพวกเขาทำงานภายใต้ภาวะที่ไม่รุนแรงและสร้างเสียไม่กี่[3]. อย่างไรก็ตามการพัฒนาและการใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาทางธรรมชาติเหล่านี้ในเคมีอินทรีย์มี จำกัด มาก ในวันที่พบมากที่สุดวิธีการ biocatalytic ใช้เซลล์ทั้งหมดหรือแยกเอนไซม์สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ได้รับ แต่ละวิธีมีข้อดีและความท้าทายทั้งในห้องปฏิบัติการขนาดและระดับอุตสาหกรรมเคมี[4] การใช้ระบบมือถือทั้งผลประโยชน์จากความสามารถในการใช้ต้นทุนต่ำและวัตถุดิบทดแทนและปัจจัยร่วมนอกจากนี้การฟื้นฟูและไม่จำเป็นต้องมี อย่างไรก็ตามทั้งมือถือระบบต้องใช้อุปกรณ์ที่มีราคาแพงและน่าเบื่อการทำงานขึ้นเพราะปริมาณมากและมีผลผลิตต่ำ ที่สำคัญการสะสมของผลิตภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อาจจะเป็นพิษต่อเซลล์ นอกจากนี้เยื่อหุ้มเซลล์อาจทำหน้าที่เป็นขนส่งมวลชนกำแพงกั้นระหว่างพื้นผิวและเอนไซม์ที่ [5] เมื่อเทียบกับเซลล์ทั้งเอนไซม์ที่แยกมีประโยชน์หลายประการรวมถึงอุปกรณ์ปฏิกิริยาง่ายผลผลิตที่สูงขึ้นเนื่องจากการที่สูงกว่าความเข้มข้นของตัวเร่งปฏิกิริยาและการทำให้บริสุทธิ์ผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่าย[6] ดังนั้นเอนไซม์ที่แยกมักจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการใช้กระบวนการทางชีวภาพกว่าทั้งเซลล์ แต่การทำให้บริสุทธิ์ของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการมีราคาแพงกลยุทธ์มักจะจ้างค่าใช้จ่ายสารเคมีที่ก่อให้เกิดมลพิษและเป็นยังลำบากและใช้เวลานานที่จำกัด การใช้งานของเอนไซม์ที่แยกทำให้มันยากที่จะไต่ขึ้น[7] ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ที่จะหาวิธีการที่ง่ายในการจัดหาช่องว่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอนหลับฝันดีฝันถึงฉันบ้างน่ะ