ในยุคปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโ

ในยุคปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน (smartphone) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น รวมไปถึงการเปิดตัวสมาร์ทโฟนหลากหลายยี่ห้อ ทำให้จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากรายงานในปี ค.ศ. 2012 พบว่าวัยรุ่นอเมริกัน ร้อยละ 37 ครอบครองโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ.2011 กว่าร้อยละ 23 และมีถึงร้อยละ 95 ใช้บริการอินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือของตน เช่นเดียวกันกับประเทศเกาหลี การใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ในเด็กและวัยรุ่น เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 7.5 ในปี ค.ศ.2009 เป็นร้อยละ 67 ในปี ค.ศ.2012

Dr. Lee และคณะ ผู้ทำการศึกษาผลของการติดโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในเด็กวัยรุ่นเกาหลี กล่าวว่า โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ทำให้เกิดความสะดวกและเพลิดเพลินแก่ผู้ใช้ ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ที่มากเกินไปได้ ในการศึกษาที่ได้ทำในเด็กวัยรุ่น 195 คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน โดยให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ทำแบบทดสอบพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 2010 Smart-phone Addiction Rating Scale (SARS) และ The Young Internet Addiction Scale (YIAS) และแบบทดสอบ Youth Self Report (K-YSR) เพื่อประเมินอาการทางจิตและปัญหาด้านพฤติกรรม จากผลการทดสอบพบว่าในวัยรุ่นแต่ละราย มีคะแนนจากแบบทดสอบทั้งสามไปในทิศทางเดียวกัน จากนั้นได้ทำการแบ่งกลุ่มวัยรุ่นออกเป็นสี่กลุ่มตามพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ดังนี้ 1) low Internet/low smartphone (low-low) users 2) high Internet/high smartphone (high-high) users 3) low Internet/high smartphone (low-high) users และ 4) high Internet/low smartphone (high-low) users

ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนต่ำ มีคะแนนจากแบบทดสอบทั้งสามต่ำกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในทางตรงกันข้ามกลุ่มที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนสูง มีคะแนนจากแบบทดสอบสูงกว่ากลุ่มอื่น จากแบบทดสอบยังพบว่าในกลุ่มนี้มีอาการผิดปกติ เช่น อาการลงแดงหากไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ต/โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน มีปัญหาทางการคิด มีอาการซึมเศร้าหรือกระวนกระวาย สมาธิสั้น และมีอารมณ์ฉุนเฉียวมากกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งมีโอกาสส่งผลต่อการเข้าสังคมและพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็กได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในยุคปัจจุบันโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน (สมาร์ทโฟน) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นรวมไปถึงการเปิดตัวสมาร์ทโฟนหลากหลายยี่ห้อทำให้จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากรายงานในปีค.ศ. 2012 พบว่าวัยรุ่นอเมริกันร้อยละ 37 ครอบครองโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ.2011 กว่าร้อยละ 23 และมีถึงร้อยละ 95 ใช้บริการอินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือของตนเช่นเดียวกันกับประเทศเกาหลีการใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในเด็กและวัยรุ่นเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 7.5 ในปี ค.ศ.2009 เป็นร้อยละ 67 ในปี ค.ศ.2012ดร.ลีและคณะผู้ทำการศึกษาผลของการติดโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในเด็กวัยรุ่นเกาหลีกล่าวว่าโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายทำให้เกิดความสะดวกและเพลิดเพลินแก่ผู้ใช้ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ที่มากเกินไปได้ในการศึกษาที่ได้ทำในเด็กวัยรุ่น 195 คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนโดยให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ทำแบบทดสอบพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 2010 สมาร์ทโทรศัพท์ติดอันดับมาตรา (SARS) และอินเทอร์เน็ตยังติดสเกล (YIAS) และแบบทดสอบรายงานตนเองของเยาวชน (K-YSR) เพื่อประเมินอาการทางจิตและปัญหาด้านพฤติกรรมจากผลการทดสอบพบว่าในวัยรุ่นแต่ละรายมีคะแนนจากแบบทดสอบทั้งสามไปในทิศทางเดียวกันจากนั้นได้ทำการแบ่งกลุ่มวัยรุ่นออกเป็นสี่กลุ่มตามพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนดังนี้ 1) ต่ำอินเทอร์เน็ต/ต่ำสมาร์ทโฟน (ต่ำต่ำ) ผู้ 2) สูง/สูงอินเทอร์เน็ตผู้ใช้สมาร์ทโฟน (สูงสูง) 3) ต่ำอินเทอร์เน็ต/สูงสมาร์ทโฟน (ต่ำสูง) ผู้ใช้และ 4) สูงอินเทอร์เน็ต/ต่ำ (high-low) สมาร์ทโฟนผู้ใช้ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนต่ำมีคะแนนจากแบบทดสอบทั้งสามต่ำกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในทางตรงกันข้ามกลุ่มที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนสูงมีคะแนนจากแบบทดสอบสูงกว่ากลุ่มอื่นจากแบบทดสอบยังพบว่าในกลุ่มนี้มีอาการผิดปกติเช่นอาการลงแดงหากไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ต/โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนมีปัญหาทางการคิดมีอาการซึมเศร้าหรือกระวนกระวายสมาธิสั้นและมีอารมณ์ฉุนเฉียวมากกว่ากลุ่มอื่นซึ่งมีโอกาสส่งผลต่อการเข้าสังคมและพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็กได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในยุคปัจจุบันโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน (Smartphone) จากรายงานในปี ค.ศ. 2012 พบว่าวัยรุ่นอเมริกันร้อยละ 37 ครอบครองโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 2011 กว่าร้อยละ 23 และมีถึงร้อยละ 95 เช่นเดียวกันกับประเทศเกาหลีการใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในเด็กและวัยรุ่นเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 7.5 ในปี ค.ศ. 2009 เป็นร้อยละ 67 ในปี ค.ศ. 2012 ดร. ลีและคณะ กล่าวว่า ในการศึกษาที่ได้ทำในเด็กวัยรุ่น 195 คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 2010 สมาร์ทโฟนแบบประเมินติดยาเสพติด (โรคซาร์ส) และหนุ่มเสพติดอินเทอร์เน็ตสเกล (YIAS) และแบบทดสอบเยาวชนรายงานด้วยตนเอง (K-YSR) ดังนี้ 1) อินเทอร์เน็ตต่ำ / มาร์ทโฟนในระดับต่ำ (ต่ำต่ำ) ผู้ใช้ 2) อินเทอร์เน็ตสูง / มาร์ทโฟนสูงสูง (สูง) ผู้ใช้ 3) อินเทอร์เน็ตต่ำ / มาร์ทโฟนสูง (ต่ำสูง) ผู้ใช้และ 4) อินเตอร์เน็ตสูง / ต่ำมาร์ทโฟน (สูง ต่ำ) เช่น มีปัญหาทางการคิดมีอาการซึมเศร้าหรือกระวนกระวายสมาธิสั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในยุคปัจจุบันโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ( มาร์ทโฟน ) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นรวมไปถึงการเปิดตัวสมาร์ทโฟนหลากหลายยี่ห้อทำให้จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากรายงานในปีศ . 2012 พบว่าวัยรุ่นอเมริกันร้อยละ 37 ครอบครองโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีค . ศ .2011 กว่าร้อยละ 23 และมีถึงร้อยละ 95 ใช้บริการอินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือของตนเช่นเดียวกันกับประเทศเกาหลีการใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในเด็กและวัยรุ่นเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 7.5 สามารถค . ศ 2009 เป็นร้อยละ 67 สามารถค . ศ .2012

ดร.ลี และคณะผู้ทำการศึกษาผลของการติดโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในเด็กวัยรุ่นเกาหลีกล่าวว่าโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายทำให้เกิดความสะดวกและเพลิดเพลินแก่ผู้ใช้ในการศึกษาที่ได้ทำในเด็กวัยรุ่น 195 คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนโดยให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ทำแบบทดสอบพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 2010 สมาร์ทโทรศัพท์ติดระดับ ( SARS ) และอินเทอร์เน็ตหนุ่มติดระดับ ( yias เยาวชนและแบบทดสอบ ) ด้วยตนเอง( k-ysr ) เพื่อประเมินอาการทางจิตและปัญหาด้านพฤติกรรมจากผลการทดสอบพบว่าในวัยรุ่นแต่ละรายมีคะแนนจากแบบทดสอบทั้งสามไปในทิศทางเดียวกัน1 ) ดังนี้ต่ำ / ต่ำอินเทอร์เน็ตมาร์ทโฟน ( 2 ) สูงต่ำต่ำ ) ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมาร์ทโฟน / สูง ( สูง ) 3 ) ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่ำ / สูงมาร์ทโฟน ( สูงต่ำ ) ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและ 4 ) สูง / ต่ำ ( สูง - ต่ำ )
ผู้ใช้มาร์ทโฟน
ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนต่ำมีคะแนนจากแบบทดสอบทั้งสามต่ำกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติมีคะแนนจากแบบทดสอบสูงกว่ากลุ่มอื่นจากแบบทดสอบยังพบว่าในกลุ่มนี้มีอาการผิดปกติเช่นอาการลงแดงหากไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ต / โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนมีปัญหาทางการคิดมีอาการซึมเศร้าหรือกระวนกระวายสมาธิสั้นซึ่งมีโอกาสส่งผลต่อการเข้าสังคมและพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็กได้