Internal Coordination of Activities

Internal Coordination of Activities in Athletic Departments
Meyer and Rowan (2001) noted that instruction in institutionalized educational systems is less closely inspected or coordinated than key activities in other organizations such as armies or businesses. Social relationships in athletic departments are somewhat different from other bureaucratic organizations. In fact, athletic practices usually happen in isolated fields, courts, or swimming pools over coaches‘ command. In this sense, coaching is highly similar to instruction, as athletic practices are activities conducted by coaches almost in isolation from peers and supervisors. They work directly with athletes and their coaching staff. But, in their essential activities, they have rare contacts with supervisors and no contact whatsoever with coaches of other sports. This isolation is based on the logic of confidence: Coaches know what is supposed to be done (Meyer & Rowan, 1978). This process empowers coaches, who basically determine what rules they want to follow and what they do not want to follow.
Naturally, the process is not so simple. Coaches cannot simply break rules and pursue their own interests. There has to be an agreement about which rules should be completely followed and which should be only partially followed. The lack of inspection by managers and athletic directors is part of the game (Burawoy, 1979). Supervisors loosely control the job of coaches because this strategy permits the organization to achieve some goals that would not be achieved if they closely inspected and enforced total rule compliance.
12
Given the autonomy of coaches to conduct their work, their personal perceptions about institutional rules are fundamental to describe patterns of bureaucracy inside athletic departments. The legendary coach Bear Bryant, of University of Alabama, linked the autonomy of coaches with their dealings with rules: ―When the cheating starts, look to the head coach. He‘s the chairman of the board‖ (quoted from Knight Foundation, 2001, p. 25). The Knight Foundation Report (2001) simply summed up this idea asserting that the coaches ―set the tone‖. In empirical investigations, coaches have been described as ―the most important contributor to overall effectiveness‖ of athletic departments (MacLean & Chelladurai, 1995, p. 195). Trail and Chelladurai (2002) considered coaches as one the most influential stakeholders in college athletic departments. These authors asserted that coaches‘ opinions have a central importance to assess goals and processes of athletic departments. In this fashion, coaches‘ perceptions about what kind of coupling between institutional rules and actual activities is present in their athletic departments have a great potential to represent the bureaucratic orientation of these organizations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประสานงานภายในของกิจกรรมในแผนกกีฬาMeyer และ Rowan (2001) กล่าวว่า ในระบบการศึกษา institutionalized น้อยอย่างใกล้ชิดตรวจสอบ หรือประสานงานมากกว่ากิจกรรมหลักในองค์กรอื่นเช่นกองทัพหรือธุรกิจ ความสัมพันธ์ทางสังคมในแผนกกีฬาค่อนข้างแตกต่างจากองค์กรราชการอื่น ๆ ได้ ในความเป็นจริง ปฏิบัติกีฬามักจะเกิดขึ้น ในฟิลด์แยก สนาม สระว่ายน้ำมากกว่าคำสั่งของโค้ช ในความรู้สึกนี้ ฝึกได้สูงคล้ายกับคำสั่ง เป็นกีฬาปฏิบัติ กิจกรรมที่ดำเนินการ โดยผู้สอนเกือบในแยกจากเพื่อนและผู้บังคับบัญชา พวกเขาทำงานโดยตรงกับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมของพวกเขา แต่ ในกิจกรรมสำคัญของพวกเขา พวกเขาได้ติดต่อหายากกับผู้บังคับบัญชาและไม่ติดต่อใด ๆ กับโค้ชกีฬาอื่น ๆ แยกนี้เป็นไปตามตรรกะของความเชื่อมั่น: โค้ชรู้อะไรควรจะทำ (Meyer & Rowan, 1978) กระบวนการนี้อำนาจโค้ช ผู้กำหนดว่าพวกเขาต้องทำตามกฎโดยทั่วไปและพวกเขาไม่ต้องการอะไรตามธรรมชาติ กระบวนการไม่ได้เพื่อให้ง่าย โค้ชไม่เพียงทำลายกฎ และไล่ตามผลประโยชน์ของตน จะต้องมี ข้อตกลงเกี่ยวกับกฎที่สมบูรณ์ควรมีและที่เพียงบางส่วนควรมีการ ขาดการตรวจสอบโดยผู้บริหารและกรรมการกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของเกม (Burawoy, 1979) ผู้บังคับบัญชาซึ่งควบคุมงานของผู้สอนเนื่องจากกลยุทธ์นี้ช่วยให้องค์กรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางอย่างที่จะได้รับหากพวกเขาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามกฎทั้งหมดในการบังคับใช้ไม่12ให้อิสระของผู้สอนการทำงานของพวกเขา ความเข้าใจส่วนบุคคลเกี่ยวกับสถาบันกฎเป็นพื้นฐานเพื่ออธิบายรูปแบบของระบบราชการภายในแผนกกีฬา รถตำนานหมีไบรอันท์ ของมหาวิทยาลัยของอลาบามา อิสระของโค้ชมีการติดต่อกับกฎที่เชื่อมโยง: ―When โกงเริ่มต้น ดู รถใหญ่ เขาเป็นประธานของ board‖ (ยกมาจากอัศวินมูลนิธิ 2001, p. 25) รายงานมูลนิธิอัศวิน (2001) ก็รวมค่าความคิดนี้กรรมสิทธิ์ที่ ―set โค้ช tone‖ ในการตรวจสอบผล โค้ชมีการอธิบายเป็นผู้บริจาคสำคัญ ―the effectiveness‖ โดยรวมของแผนกกีฬา (MacLean & Chelladurai, 1995, p. 195) เส้นทางและ Chelladurai (2002) พิจารณาที่ coaches เป็นหนึ่งเสียมีอิทธิพลสูงสุดในแผนกกีฬาของวิทยาลัย ผู้เขียนเหล่านี้คนที่ ความคิดเห็นของผู้สอนมีความสำคัญกลางเพื่อประเมินเป้าหมายและกระบวนการของแผนกกีฬา ในแฟชั่นนี้ โค้ชเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของคลัประหว่างกฎของสถาบันและกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริงอยู่ในแผนกกีฬามีศักยภาพดีถึงแนวราชการขององค์กรเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประสานงานภายในของกิจกรรมในแผนกแอ ธ เลติก
และโรเมเยอร์ (2001) ตั้งข้อสังเกตว่าการเรียนการสอนในระบบการศึกษาสถาบันมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดหรือน้อยกว่าการประสานงานกิจกรรมที่สำคัญในองค์กรอื่น ๆ เช่นกองทัพหรือธุรกิจ ความสัมพันธ์ทางสังคมในแผนกกีฬาที่ค่อนข้างแตกต่างจากองค์กรอื่น ๆ ของระบบราชการ ในความเป็นจริงการปฏิบัติที่แข็งแรงมักจะเกิดขึ้นในสาขาที่แยกศาลหรือสระว่ายน้ำมากกว่าคำสั่งของโค้ช ในแง่นี้การฝึกเป็นอย่างสูงที่คล้ายกับการเรียนการสอนการปฏิบัติที่เป็นกีฬาเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยโค้ชเกือบในการแยกจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา พวกเขาทำงานโดยตรงกับนักกีฬาและฝึกพนักงานของพวกเขา แต่ในกิจกรรมที่สำคัญของพวกเขามีการติดต่อกับผู้บังคับบัญชาที่หายากและไม่มีการติดต่อใด ๆ กับโค้ชของกีฬาอื่น ๆ แยกนี้จะขึ้นอยู่กับตรรกะของความเชื่อมั่น: โค้ชรู้ว่าสิ่งที่ควรจะทำ (เมเยอร์และโร, 1978) กระบวนการนี้จะช่วยให้โค้ชที่พื้นตรวจสอบสิ่งที่กฎที่พวกเขาต้องการที่จะปฏิบัติตามและสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการที่จะทำตาม.
ธรรมชาติกระบวนการไม่ง่ายดังนั้น โค้ชไม่สามารถเพียงแค่ทำลายกฎและไล่ตามความสนใจของตัวเอง จะต้องมีข้อตกลงเกี่ยวกับการที่กฎควรจะปฏิบัติตามอย่างสมบูรณ์และที่ควรจะใช้เพียงบางส่วน ขาดการตรวจสอบโดยผู้บริหารและกรรมการกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของเกม (Burawoy, 1979) ผู้บังคับบัญชาอย่างอิสระควบคุมการทำงานของโค้ชเพราะกลยุทธ์นี้ช่วยให้องค์กรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางอย่างที่จะไม่สามารถทำได้ถ้าพวกเขาอย่างใกล้ชิดตรวจสอบและบังคับใช้กฎทั้งหมดปฏิบัติตาม.
12
ได้รับเอกราชของโค้ชที่จะดำเนินการทำงานของพวกเขารับรู้ส่วนบุคคลของพวกเขาเกี่ยวกับกฎระเบียบของสถาบันมี พื้นฐานในการอธิบายรูปแบบของระบบราชการภายในแผนกกีฬา ตำนานโค้ชหมีไบรอันท์ของมหาวิทยาลัยอลาบามาเชื่อมโยงกับความเป็นอิสระของโค้ชที่มีการติดต่อกับกฎ: เมื่อมีการโกงเริ่มมองไปที่หัวหน้าโค้ช เขาเป็นประธานของboard‖ (ยกมาจากอัศวินมูลนิธิ, 2001, น. 25) รายงานอัศวินมูลนิธิ (2001) ก็สรุปได้ความคิดนี้อ้างว่าโค้ชตั้งค่าการtone‖ ในการสืบสวนเชิงประจักษ์โค้ชได้รับการอธิบายว่า -The สนับสนุนที่สำคัญที่สุดในการeffectiveness‖โดยรวมของแผนกกีฬา (คลีนแอนด์ Chelladurai, 1995, น. 195) เส้นทางและ Chelladurai (2002) ถือเป็นหนึ่งในโค้ชผู้มีส่วนได้เสียที่มีอิทธิพลมากที่สุดในแผนกกีฬาวิทยาลัย ผู้เขียนเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่ามีความคิดเห็นที่โค้ชมีความสำคัญกลางในการประเมินเป้าหมายและกระบวนการของการแผนกกีฬา แบบนี้การรับรู้โค้ชเกี่ยวกับชนิดของการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างกฎสถาบันและกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริงมีอยู่ในแผนกกีฬาของพวกเขามีศักยภาพที่จะเป็นตัวแทนของการปฐมนิเทศข้าราชการขององค์กรเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประสานงานภายในแผนกต่างๆแข็งแรง
เมเยอร์และโรแวน ( 2001 ) กล่าวว่า การสอนในสถาบันการศึกษาระบบน้อยอย่างใกล้ชิดตรวจสอบหรือประสานงานมากกว่ากิจกรรมหลักในองค์กรอื่น เช่น กองทัพ หรือ ธุรกิจ ความสัมพันธ์ทางสังคมในแผนกแข็งแรงจะค่อนข้างแตกต่างจากคนอื่น ๆในองค์กรราชการ . ในความเป็นจริงแข็งแรงปฏิบัติมักจะเกิดขึ้นในแยกเขต , ศาล , หรือสระว่ายน้ำกว่าโค้ชสั่ง ในความรู้สึกนี้ , การฝึกเป็นอย่างสูงที่คล้ายกับการเป็นนักกีฬา การจัดกิจกรรม โดยโค้ชเกือบแยกจากเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน พวกเขาทำงานโดยตรงกับนักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชของพวกเขา แต่ในกิจกรรมที่จำเป็นของพวกเขาพวกเขามีรายชื่อที่หายากกับหัวหน้างาน และไม่มีการติดต่อใดๆ กับโค้ชของกีฬาอื่น ๆ แยกนี้อยู่บนพื้นฐานของตรรกะของความเชื่อมั่น : โค้ชรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ควรจะทำ ( Meyer & Rowan , 1978 ) กระบวนการนี้ช่วยให้โค้ช ซึ่งโดยทั่วไปกำหนดกฎอะไรที่พวกเขาต้องการที่จะปฏิบัติตามและสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการที่จะปฏิบัติตาม .
ธรรมชาติ กระบวนการไม่ได้ง่ายดังนั้นโค้ชไม่สามารถฝ่าฝืนกฎ ตามความสนใจของตนเอง จะต้องมีข้อตกลงเกี่ยวกับกฎที่ควรจะเสร็จสมบูรณ์ตามและที่ควรเพียงบางส่วนตาม ขาดการตรวจสอบโดยผู้จัดการและผู้อำนวยการกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของเกม ( burawoy , 1979 )หัวหน้างานควบคุมงานของโค้ชอย่างหลวมๆ เพราะกลยุทธ์นี้ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายบางอย่างที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าพวกเขาอย่างใกล้ชิดตรวจสอบและบังคับใช้กฎปฏิบัติรวม 12 .

ให้ความเป็นอิสระของโค้ชเพื่อดำเนินการงานของพวกเขาส่วนบุคคล การรับรู้เกี่ยวกับกฎของสถาบันหลักเพื่ออธิบายรูปแบบของระบบราชการภายในแผนกกีฬาตำนานโค้ชหมี ไบรอัน แห่งมหาวิทยาลัยอลาบามา , เชื่อมโยงความเป็นอิสระของโค้ชด้วยการติดต่อกับกฎ : ผมอยากเมื่อโกงเริ่มมองไปที่ตัวหัวหน้าโค้ช เขาเป็นประธานของคณะกรรมการ‖ ( ยกมาจากอัศวินมูลนิธิ , 2544 , หน้า 25 ) รายงานของมูลนิธิอัศวิน ( 2001 ) ก็สรุปความคิดนี้ยืนยันว่าโค้ชผมอยากตั้งค่าเสียง‖ . ในการสืบสวนเชิงประจักษ์โค้ชได้รับการอธิบายเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญที่สุดผมอยากจะ‖ประสิทธิผลโดยรวมของแผนกแข็งแรง ( คลีน& chelladurai , 2538 , หน้า 195 ) และเส้นทางที่ chelladurai ( 2002 ) ถือเป็นโค้ชเป็นหนึ่งที่มีอิทธิพลมากที่สุดที่ผู้มีส่วนได้เสียในวิทยาลัยแผนกกีฬาผู้เขียนเหล่านี้อ้างว่า ความคิดเห็นของโค้ชมีความสำคัญกลางเพื่อประเมินเป้าหมายและกระบวนการของแผนกกีฬา ในแฟชั่นนี้ โค้ช การรับรู้ เกี่ยวกับชนิดของการเชื่อมต่อระหว่างกฎของสถาบันและกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริงเป็นปัจจุบันในแข็งแรงแผนกมีศักยภาพมากในการปฐมนิเทศข้าราชการเป็นตัวแทนขององค์กรเหล่านี้