Overall, Novartis was the world's s

Overall, Novartis was the world's second largest pharmaceutical company in 2011, and was projected to take first place in 2018.[7] An IMS Health report ranked Novartis as the biggest pharma company in 2012.[8]

Alcon: Alcon was already the world's largest and most profitable eye care company when Novartis bought it, with 2009 annual sales of $6.5 billion and net income of $2 billion. At that time, Novartis stated that it believed the two companies could generate approximately $200 million of potential annual pre-tax cost synergies.[9]

Sandoz: As of 2013, Sandoz was the world's second largest generic drug company, contributing US$1.09 billion to Novartis' operating profit on US$8.70 billion in revenue in 2012.[10] Sandoz' biosimilars leads its field, getting the first biosimilar approvals in the EU.[11][12]

Vaccines and Diagnostics: As of 2013 Novartis was considering selling this division off. While "sales in the unit were up 14% for the first half of 2013, it reported an operating loss of $240 million in the first half of 2013 after a $250 million loss for all 2012.... Vaccine revenue was $1.4 billion in 2012 and has been forecast to more than double to $3.14 billion by 2018."[13]

Consumer: Novartis is not a leader in the over the counter or animal health segments; its leading OTC brands are Excedrin and Theraflu, but sales have been slowed by problems at its key US manufacturing plant.[14]

In 2012, Novartis ranked 7th on the Access to Medicine Index,[15]:88 which "ranks companies on how readily they make their products available to the world’s poor."[16] In 2010, Novartis was in the top three pharma companies (as it was in 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยรวม โนวาร์ติสบริษัทยาใหญ่เป็นอันดับสองของโลกใน 2011 และถูกคาดว่าจะใช้สถานที่แรกใน 2018[7] รายงาน IMS สุขภาพการจัดอันดับโนวาร์ติสเป็นบริษัทฟาร์มาใหญ่ที่สุดในปี 2012[8]

น้ำตาเทียมอัล: น้ำตาเทียมอัลถูกแล้วบริษัทดูแลตาที่ใหญ่ที่สุด และกำไรมากที่สุดในโลกเมื่อโนวาร์ติสซื้อ ยอดขายประจำปี 2009 ของ 6.5 พันล้านเหรียญและรายได้สุทธิของ $2 พันล้าน ในขณะนั้น โนวาร์ติสกล่าวว่า ก็เชื่อว่า บริษัททั้งสองสามารถสร้างประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ของแยบยลต้นทุนก่อนภาษีประจำปีเป็นไปได้[9]

Sandoz: ณ 2013, Sandoz เป็นโลกใหญ่เป็นอันดับสองยาสามัญบริษัท สนับสนุน 1.09 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อดำเนินงานกำไรของโนวาร์ติสบน 8.70 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในรายได้ใน 2012[10] Sandoz' biosimilars นำของฟิลด์ ได้รับการอนุมัติ biosimilar แรกในสหภาพยุโรป[11][12]

รู้และวินิจฉัย: ณ 2013 โนวาร์ติสได้พิจารณาขายส่วนนี้ออก ขณะที่ "ขายในหน่วยถูกขึ้น 14% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 จะรายงานขาดทุนดำเนินการของ $240 ล้านบาทในครึ่งแรกของปี 2013 หลังจากสูญเสีย $250 ล้านสำหรับ 2012 ทั้งหมด... วัคซีนรายได้ $1 ได้4 พันล้านในปี 2555 และมีการคาดการณ์มากกว่า สองเท่ากับ 3.14 พันล้านเหรียญ โดย 2018 "[13]

ผู้บริโภค: โนวาร์ติสไม่ได้เป็นผู้นำมากกว่าเคาน์เตอร์หรือสัตว์ส่วน ชเข้ากับกลุ่มของแบรนด์จะ Excedrin และ Theraflu แต่ขายมีการชะลอตัวจากปัญหาในโรงงานผลิตสหรัฐสำคัญ[14]

ใน 2012 โนวาร์ติสอันดับ 7 ในการเข้าถึงยาดัชนี, [15]:88 ซึ่ง "อันดับบริษัทบนว่าพร้อมจะให้ผลิตภัณฑ์ของตนยากจนของโลก"[16] ใน 2010 โนวาร์ติสได้ในบริษัท pharma สามชั้น (ก็ในปี 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยรวมติสเป็น บริษัท ยาที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกในปี 2011 และได้รับการคาดว่าจะใช้สถานที่แรกในปี 2018 [7] รายงาน IMS Health อันดับติสเป็น บริษัท ยาที่ใหญ่ที่สุดในปี 2012 [8] Alcon: Alcon อยู่แล้วโลกของ บริษัท ดูแลสุขภาพตาที่ใหญ่ที่สุดและทำกำไรได้มากที่สุดเมื่อซื้อมันติสมียอดขายประจำปี 2009 ของ $ 6500000000 และกำไรสุทธิ 2 พันล้านดอลลาร์ ในเวลานั้นติสระบุว่าเชื่อว่าทั้งสอง บริษัท สามารถสร้างประมาณ $ 200,000,000 ของการทำงานร่วมกันค่าใช้จ่ายก่อนหักภาษีประจำปีที่อาจเกิดขึ้น [9]. Sandoz: ณ วันที่ 2013, แซนดอสเป็น บริษัท ยาที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกส่วนสหรัฐ 1090000000 $ ไป 'กำไรจากการดำเนินสหรัฐ $ 8.70 พันล้านในรายได้ในปี 2012 [10] แซนดอส' ติส biosimilars นำข้อมูลที่ได้รับการรับรองจาก biosimilar แรกในสหภาพยุโรปของตน [11] [12]. วัคซีนและการวินิจฉัย ณ 2013 ติสกำลังพิจารณาการขายนี้ แบ่งออก ขณะที่ "ยอดขายในหน่วยเพิ่มขึ้น 14% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 ก็มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานจาก 240 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 หลังจาก $ 250,000,000 การสูญเสียทั้งหมด 2012 .... รายได้วัคซีนเป็น 1400000000 $ ในปี 2012 และได้รับการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเพื่อ 3140000000 $ โดย 2018 "[13]. ผู้บริโภค: ติสไม่ได้เป็นผู้นำในการผ่านเคาน์เตอร์หรือสัตว์ส่วนสุขภาพ แบรนด์ชั้นนำของ OTC เป็น Excedrin และ Theraflu แต่ยอดขายที่ได้รับการชะลอตัวจากปัญหาที่สำคัญโรงงานผลิตในสหรัฐ [14]. ใน 2012, ติสอันดับ 7 ในการเข้าถึงยาดัชนี [15]: 88 ที่ "อันดับ บริษัท ในการ พวกเขาพร้อมที่จะให้ผลิตภัณฑ์ของตนที่มีอยู่เพื่อโลกที่น่าสงสาร ". [16] ใน 2010, ติสอยู่ในสามอันดับแรกของ บริษัท ฟาร์มา (ที่มันเป็นในปี 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยโนวาติส เป็นบริษัทเภสัชกรรมที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในปี 2011 และถูกคาดว่าจะเกิดขึ้นครั้งแรก ในปี 2018 [ 7 ] การสุขภาพ IMS รายงานอันดับโนวาเป็นบริษัทฟาร์มาที่ใหญ่ที่สุดในปี 2012 [ 8 ]

Alcon : Alcon อยู่แล้วของโลกที่ใหญ่ที่สุดและทำกำไรมากที่สุดการดูแลสายตาเมื่อซื้อบริษัทโนวาร์ทิส มันมีการขายประจำปีของ $ 6.5 พันล้านบาท และกำไรสุทธิของ $ 2 พันล้านตอนนั้น โนวาร์ทิส กล่าวว่า เชื่อว่าทั้งสอง บริษัท สามารถสร้างประมาณ $ 200 ล้านบาทจากปีก่อนที่มีต้นทุนด้านภาษี [ 9 ]

: เป็น 2013 , Sandoz แซนดอสยังที่สองของโลกที่ใหญ่ที่สุด บริษัท ยาทั่วไป สาเหตุที่ US $ 1.09 พันล้านโนวา ' ปฏิบัติการกำไร $ 8.70 พันล้านใน ในปี 2012 [ 10 ] แซนดอส ' biosimilars นำเขตข้อมูลของได้รับการอนุมัติ biosimilar แรกในสหภาพยุโรป . [ 11 ] [ 12 ]

วัคซีนและการวินิจฉัย : 2013 โนวาพิจารณาขายส่วนนี้ออก ในขณะที่ " การขายในหน่วยเพิ่มขึ้น 14% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2013 ก็รายงานผลประกอบการขาดทุน $ 240 ล้านบาทในครึ่งแรกของปี 2013 หลังจาก $ 250 ล้านบาท สำหรับปี 2012 . . . . . . . วัคซีนจาก $ 14 พันล้านใน 2012 และถูกคาดว่าจะมากกว่าสองเท่าถึง $ 3.14 พันล้านโดย 2018 . " [ 13 ]

ผู้บริโภค : โนวาไม่ได้เป็นผู้นำทาง ส่วนเคาน์เตอร์หรือสุขภาพสัตว์ ของบริษัท OTC และยี่ห้อ excedrin theraflu แต่ขายได้ถูกลง โดยปัญหาที่สำคัญเราผลิตพืช [ 14 ]

ใน 2012 , โนวา อันดับ 7 ในการเข้าถึงดัชนียา , [ 15 ] :88 ซึ่ง " อันดับบริษัทที่พร้อมจะให้ผลิตภัณฑ์ของตนที่มีต่อโลกที่ยากจน . " [ 16 ] ใน 2010 , โนวาอยู่ในด้านบนสามบริษัทยา ( เหมือน 2551 )