In another 35 years, or in 2050, ah

In another 35 years, or in 2050, ahead of the world's most advanced technology, this could be greatly improved. Some diseases will be treated with the vaccine. Robotic technology will play a role in our lives more and more. We could use more environmentally friendly energy. At the time I thought I had a stable job could be working in Thailand or abroad. Salaries have enough to feed myself and my families. Build a new home for myself and my parents live. There is boyfriend has mature thoughts and when there is a problem he will not leave me alone but he's always ready to help when I have a problem. In my free time I will open a small cafe or dessert to relieve stress from everything. This is a quiet restaurant. Children can read books because there's little room beside the shop to a reading room in particular. I think that if in the future don't have parents, how do I live?. And if I can't, I have to do?. Parents said if I grown, I must do by myself, parents don't help because at that time have a family of my own. They teach me about lifestyle , cooking, taking care of yourself. Solutions in various fields because I'm not good at decisions but at that time I must be brave and strong for parents to be.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในอีก 35 ปี หรือ ใน 2050 ไปข้างหน้าในโลกเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด นี้สามารถมากมาก บางโรคจะได้รับวัคซีน เทคโนโลยีหุ่นยนต์จะมีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น เราสามารถใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในเวลาที่ฉันคิดว่า ฉันมีงานที่มั่นคงสามารถทำงานในไทยหรือต่างประเทศ เงินเดือนพอเลี้ยงตัวเองและครอบครัวของฉัน สร้างบ้านใหม่สำหรับตัวเอง และพ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ มีแฟนมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ และเมื่อมีปัญหา เขาจะไม่ปล่อยให้ฉันคนเดียว แต่เขาอยู่เสมอพร้อมที่จะช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา ในเวลาว่างของฉัน ฉันจะเปิดร้านกาแฟขนาดเล็กหรือขนมเพื่อบรรเทาความเครียดทำ นี่คือร้านอาหารเงียบสงบ เด็กสามารถอ่านหนังสือได้เนื่องจากมีห้องเล็ก ๆ ข้างร้านห้องอ่านหนังสือโดยเฉพาะ คิดว่า ถ้าในอนาคตไม่มีพ่อแม่ วิธีทำฉันอยู่ และถ้าฉันไม่ ฉันต้องทำ ผู้ปกครองกล่าวว่า ถ้า โต ฉันต้องทำ ด้วยตัวเอง พ่อแม่ไม่ช่วยได้เนื่องจากในเวลานั้นมีครอบครัวของตัวเอง พวกเขาสอนฉันเกี่ยวกับชีวิต ทำอาหาร ดูแลตัวเอง แก้ไขปัญหาในเขตข้อมูลต่าง ๆ เนื่องจากฉันไม่ดีที่ตัดสินใจ แต่ในเวลาที่ ฉันต้องกล้าหาญ และแข็งแรงสำหรับผู้ปกครองจะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในอีก 35 ปีหรือในปี 2050 หน้าของเทคโนโลยีที่ทันสมัย​​ที่สุดของโลกนี้อาจจะดีขึ้นอย่างมาก โรคบางอย่างจะได้รับการรักษาด้วยการฉีดวัคซีน เทคโนโลยีหุ่นยนต์จะมีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น เราสามารถใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะที่ฉันคิดว่าฉันมีงานที่มั่นคงอาจจะทำงานในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ มีเงินเดือนพอที่จะเลี้ยงตัวเองและครอบครัวของฉัน สร้างบ้านใหม่ให้กับตัวเองและพ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ มีแฟนจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่และเมื่อมีปัญหาคือเขาจะไม่ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว แต่เขาก็พร้อมเสมอที่จะช่วยให้เมื่อฉันมีปัญหา ในเวลาว่างของฉันฉันจะเปิดร้านกาแฟขนาดเล็กหรือขนมเพื่อบรรเทาความเครียดจากทุกสิ่ง นี้เป็นร้านอาหารที่เงียบสงบ เด็กสามารถอ่านหนังสือเพราะมีห้องเล็ก ๆ ข้างร้านเพื่อห้องอ่านหนังสือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมคิดว่าถ้าในอนาคตไม่ได้มีพ่อแม่ของฉันจะมีชีวิตอยู่ ?. และถ้าผมไม่สามารถที่ฉันต้องทำ ?. พ่อแม่บอกว่าถ้าผมปลูกผมต้องทำด้วยตัวเอง, พ่อแม่ไม่ช่วยเพราะในเวลานั้นมีครอบครัวเป็นของตัวเอง พวกเขาสอนฉันเกี่ยวกับวิถีการดำเนินชีวิต, การทำอาหาร, การดูแลตัวเอง การแก้ปัญหาในด้านต่าง ๆ เพราะฉันไม่ดีที่การตัดสินใจ แต่ในเวลาที่ฉันจะต้องกล้าหาญและแข็งแกร่งสำหรับผู้ปกครองที่จะเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในอีก 3 ปี หรือภายในปี 2050 ล่วงหน้าของเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของโลกนี้จะดีขึ้นมาก โรคบางอย่างจะถูกรักษาด้วยวัคซีน เทคโนโลยีหุ่นยนต์จะมีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น เราสามารถใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในเวลาที่ฉันคิดว่าฉันมีงานที่มั่นคง สามารถทำงานในไทยหรือต่างประเทศเงินเดือนไม่พอที่จะเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวของฉัน สร้างบ้านใหม่ให้ตัวเองและพ่อแม่ของฉันอยู่ มีแฟน มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ และ เมื่อมีปัญหาเขาจะไม่ทิ้งฉันไว้คนเดียว แต่เขาก็พร้อมเสมอที่จะช่วยให้เมื่อฉันมีปัญหา เวลาว่างผมจะเปิดเป็นคาเฟ่เล็ก ๆหรือของหวานเพื่อบรรเทาความเครียดจากทุกสิ่ง นี่คือร้านอาหารที่เงียบสงบเด็กสามารถอ่านหนังสือ เพราะมีห้อง ข้างๆร้านจะเป็นห้องอ่านหนังสือ โดยเฉพาะ ฉันคิดว่าถ้าในอนาคตก็ไม่มีพ่อแม่ ฉันจะมีชีวิตอยู่อย่างไร ? และถ้าผมทำไม่ได้ ผมต้องทำ พ่อแม่บอกว่า ถ้าหนูโตขึ้น หนูต้องทำคนเดียว พ่อแม่ไม่ช่วย เพราะตอนนั้นมีครอบครัวของตัวเอง พวกเขาสอนฉันเกี่ยวกับชีวิต , อาหาร , ดูแลตัวเองโซลูชั่นในด้านต่าง ๆ เพราะผมไม่เก่งในการตัดสินใจ แต่เวลาที่ผมจะต้องเข้มแข็งและกล้าหาญของพ่อแม่ได้