บทที่2เอกสารและวิจัยที่เกี่ยวข้องกา

บทที่2
เอกสารและวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การวิจัยเรื่องการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งกายของนักศึกษาตามระเบียบของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ผู้วิจัยได้ศึกษารวบรวมแนวคิด ทฤษฎี เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังรายละเอียดต่อไปนี้
2.1ปัญหาการแต่งกายของนักศึกษา
ปัญหาของนักศึกษามีหลายอย่างแต่มีปัญหาที่คนพูดถึงและออกสื่อสาธารณะคือเรื่องการแต่งกายของนักศึกษา คิดว่ามีประมาณร้อยละ10-20ที่แต่งตัวถูกต้องตามประกาศของมหาวิทยาลัย
ส่วนร้อยละ80เน้นแต่งตัวถูกตามแฟชั่นนิยมหรือฉบับนิยม นักศึกษาที่แต่งกายไม่ถูกระเบียบมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นทุกมหาวิทยาลัย เรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตก ที่บอกว่าเป็นปัญหาโลกแตกเพราะแฟชั่นในสังคมปัจจุบันชุดนักศึกษาเสื้อขาวกระโปรงดำ คาดเข็มขัดจะถูกประยุกต์ให้เข้ากับการแต่งตัวในยุคนั้นๆต้องอินเทรนด์ สมัยก่อนนิยมเสื้อตัวใหญ่
มาช่วงฮิตกระโปรงหางปลา ชายกระโปรงลากพื้น กลายเป็นเงือกกันหมด จนเวลานั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซด์ชายกระโปรงพันกับล้อรถเคยได้ยิน แต่ตอนนั้นปัญหาการแต่งกายยังไม่รุนแรงมาก เพราะถึงเสื้อตัวใหญ่กระโปรงยาวแต่พอแต่งออกมาแล้วรัดกุมมิดชิดไม่เปิดเผยเนื้อหนังมาก เลยไม่มีใครให้ความสนใจมากนัก
แต่พอมายุคนี้กระโปรงสั้นและแหกข้าง แหกหลังบ้าง เวลานั่งบางทีนักศึกษาเผอเรอไม่เอาเสื้อมาคลุมตักไว้ บางทีมันก็เปิดเผยส่วนที่ควรปกปิด
2.2ผลกระทบที่เกิดจากปัญหาการแต่งกายไม่เหมาะสมของนักศึกษา
1.แฟชั่นชุดนักศึกษายุคใหม่ที่เน้นตามกระแสแฟชั่นได้รับความนิยมสูง ขายดีทั้งชุดของผู้ชายและผู้หญิงเพราะราคาถูก ดูทันสมัย แต่ความจริงแล้วการใส่เสื้อผ้าเล็กเกินไป นอกจากจะดูไม่งามแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกด้วย
2.ปัญหาอาชญากรรม การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืน การถูกล่อลวงไปกระทำอนาจารส่งผลต่อวัฒนธรรมการแต่งกายที่ดีงามของนักศึกษาที่เป็นปัญญาชนกลับถูกมองในด้านลบเสื่อมเสียไปถึงสถาบันศึกษา
3.เป็นการตามกระแสนิยมที่ผิดๆทำให้เกิดการเลียนแบบการแต่งกายของเด็กตามผู้ใหญ่ ทำให้สิ้นเปลืองเงินของผู้ปกครองโดยใช่เหตุ และยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมแก่คนรุ่นหลังที่ผิดๆ
การแต่งกายแต่ละครั้งย่อมมีความสัมพันธ์ต่อสังคมไทย สมัยก่อนเวลาไปวัดต้องแต่งกายเรียบร้อย แต่นักศึกษาสมัยใหม่อาจจะแต่งตัวไม่สุภาพไปวัด แทนที่จะสำรวมกายและให้เกียรติสถานที่
2.3แนวทางแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาการแต่งเครื่องแบบนักศึกษาที่ในปัจจุบันเป็นไปตามกระแสแฟชั่นจนดูไม่เหมาะสม ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)และกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)จึงร่วมกันรณรงค์การแต่งกายให้เหมาสม โดยจะดำเนินการเพื่อให้เป็นวาระระดับชาติโดย รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รมช.ศึกษาธิการกล่าวภายหลังการหารือกับผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการรณรงค์การแต่งกายชุดนักศึกษา เห็นว่าปัจจุบัน นักศึกษาแต่งกายไม่ค่อยเหมาะสม เช่น นักศึกษาใส่กระโปรงสั้นเกินไป เสื้อรัดเกินไป บางเกินไป เป็นต้น อีกทั้งการแต่งกายลักษณะเช่นนี้ค่อนข้างโป๊และยั่วยุเกินไป จึงเห็นว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะร่วมกันจัดโครงการรณรงค์เรื่องการแต่งกายโดยทำให้เป็นวาระระดับชาติหาทางกระตุ้นนักศึกษาให้เห็นถึงอันตรายจากลักษณะการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม และทำให้เด็กรู้จักคิดไตร่ตรองรวมถึงปรับปรุงการแต่งกายให้เหมาะสมมากขึ้น
ด้าน ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษาการแต่งกายไม่เหมาะสม จากที่ผมได้ศึกษาไม่ใช่แค่เพียงนักศึกษาเท่านั้น แต่ปัจจุบันลามไปถึงเด็กในระดับมัธยมศึกษาแล้ว ซึ่งนักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีค่านิยมแฟชั่นเหล่านั้น ที่แท้จริงแล้วการแต่งกายรัดเกินไป นอกจากจะดูไม่งามแล้วยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กเองด้วย หากวันนี้เราเริ่มรณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ ช่วยสร้างค่านิยมที่เหมาะสมใหม่ ต่อไปปัญหากราแต่งกายเช่นนี้คงลดลง รมช.ศธ.และ”คุณหญิงไขศรี”ร่วมหารือกับรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาถึงทางแก้ไขเรื่องการแต่งชุด นิสิต-นักศึกษา
คุณหญิงไขศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายวรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)การประชุมรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต-นักศึกษา กำหนดกลยุทธในการรณรงค์การแก้ปัญหาการแต่งกายของนักศึกษา ทั้งนี้คุณหญิงไขศรีกล่าวว่า”ปัญหานี้ได้เคยหารือกันแล้ว
แต่วันนี้จะเป็นการหารือกันอย่างกว้างขวางขึ้น โดยจะขอให้มหาวิทยาลัยกว่า 30 แห่งได้พูดถึงปัญหาของตนเอง ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นพ้องว่าการบังคับให้นักศึกษาที่แต่งตัวไม่เหมาะสมและล่อแหลมนั้นไม่ควรใช้กับปัญญาชน เนื่องจากระเบียบของแต่ละมหาวิทยาลัยแตกต่างกัน แต่จะเป็นการร่วมกันให้นักศึกษาบางรายที่แต่งกายไม่เหมาะสมให้ตระหนักในการรับผิดชอบต่อสังคมว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ
ทางมหาวิทยาลัยมีบทบาทในการดูแลการแต่งกายของนักศึกษา โดยเฉพาะอาจารย์ประจำห้องที่สามารถดูแลนักศึกษาได้โดยตรงและผู้นำนักศึกษา หรือองค์การนักศึกษา ต้องมีบทบาทในการดูแลนักศึกษากันเองด้วย”คุณหญิงไขศรีกล่าว
ส่วนนายวรากรณ์กล่าวว่า การแต่งกายของนักศึกษาที่นุ่งกระโปรงสั้น เสื้อรัดรูป เป็นเรื่องที่นักศึกษาเองรู้ว่าผิดระเบียบ แต่ไม่อยากตกเทรนด์ ซึ่งการแต่งกายลักษณะนี้จะส่งผลถึงความปลอดภัยแก่ตัวเองและยังเกี่ยวพันถึงเรื่องวัฒนธรรม ดังนั้น ในการประชุมครั้งนี้จะได้ร่วมกันหาทางดูแลแก้ไข โดยจะผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติเพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาร่วมกันแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ความเห็นในการประชุมทั้งหมดจะรวบรวมให้นายกสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเพื่อให้กฎระเบียบเกี่ยวกับการแต่งกายนักศึกษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อเสนอแนะ
1.ปัจจุบันนี้ทุกท่านคงจะสังเกตเห็นแล้วว่ามหาวิทยาลัยมีปัญหานักศึกษาแต่งกายไม่ถูกต้องตามระเบียบ หรือไม่สุภาพมากขึ้น จุดนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เราพบเห็นได้ ประกอบกับทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาขอให้ช่วยกันสอดส่อง กวดขัน ดูแล และกำหนดวิธีการในการแก้ไขเรื่องการแต่งกายของนักศึกษาให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นด้วย
2.กรณีการแต่งกายของนักศึกษาขณะเรียนที่ไม่เหมาะสม เช่น เสื้อเชิ้ตขาวปล่อยชายเสื้อกับกางเกงยีนและสวมรองเท้าแตะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้วิจัยได้ศึกษารวบรวมแนวคิดทฤษฎีเอกสาร เรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตก ชายกระโปรงลากพื้นกลายเป็นเงือกกัน หมด แหกหลังบ้าง ดูทันสมัย นอกจากจะดูไม่งามแล้ว การถูกล่วงละเมิดทางเพศการข่มขืน ดังนั้น รศ. ดร. วรากรณ์สามโกเศศ เห็นว่าปัจจุบันนักศึกษาแต่งกายไม่ค่อยเหมาะสม เช่นนักศึกษาใส่กระโปรงสั้นเกินไปเสื้อรัดเกินไปบางเกินไปเป็นต้น ดร. ปริญญาเทวานฤมิตรกุล ซึ่งนักเรียน ที่แท้จริงแล้วการแต่งกายรัดเกินไป ช่วยสร้างค่านิยมที่เหมาะสมใหม่ต่อ ไปปัญหากราแต่งกายเช่นนี้คงลดลง นิสิต - นักศึกษาเป็นคุณหญิงไขศรีคุณอรุณรัฐมนตรีว่าได้หัวเรื่อง: การกระทรวงวัฒนธรรมและที่คุณนายวรากรณ์สามโกเศศ โดยจะขอให้มหาวิทยาลัยกว่า 30 แห่งได้พูดถึงปัญหาของตนเอง หรือองค์การนักศึกษา เสื้อรัดรูป แต่ไม่อยากตกเทรนด์ ดังนั้น หรือไม่สุภาพมากขึ้น กวดขันดูแล เช่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทที่ 2เอกสารและวิจัยที่เกี่ยวข้องการวิจัยเรื่องการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งกายของนักศึกษาตามระเบียบของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ผู้วิจัยได้ศึกษารวบรวมแนวคิดทฤษฎีเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังรายละเอียดต่อไปนี้2.1 ปัญหาการแต่งกายของนักศึกษาปัญหาของนักศึกษามีหลายอย่างแต่มีปัญหาที่คนพูดถึงและออกสื่อสาธารณะคือเรื่องการแต่งกายของนักศึกษาคิดว่ามีประมาณร้อยละ 10-20 ที่แต่งตัวถูกต้องตามประกาศของมหาวิทยาลัยส่วนร้อยละ 80 เน้นแต่งตัวถูกตามแฟชั่นนิยมหรือฉบับนิยมนักศึกษาที่แต่งกายไม่ถูกระเบียบมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นทุกมหาวิทยาลัยเรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตกที่บอกว่าเป็นปัญหาโลกแตกเพราะแฟชั่นในสังคมปัจจุบันชุดนักศึกษาเสื้อขาวกระโปรงดำคาดเข็มขัดจะถูกประยุกต์ให้เข้ากั บการแต่งตัวในยุคนั้นๆต้องอินเทรนด์สมัยก่อนนิยมเสื้อตัวใหญ่มาช่วงฮิตกระโปรงหางปลาชายกระโปรงลากพื้นกลายเป็นเงือกกันหมดจนเวลานั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซด์ชายกระโปรงพันกับล้อรถเคยได้ยินแต่ตอนนั้นปัญหาการแต่งกายยังไม่รุนแรงมากเพราะถึงเสื้อตัวใหญ่กระโปรงยาวแต่พอแต่งออกมาแล้วรัดกุมมิดชิดไม่เปิดเผยเนื้อหนังมากเลยไม่มีใค รให้ความสนใจมากนักแต่พอมายุคนี้กระโปรงสั้นและแหกข้างแหกหลังบ้างเวลานั่งบางทีนักศึกษาเผอเรอไม่เอาเสื้อมาคลุมตักไว้บางทีมันก็เปิดเผยส่วนที่ควรปกปิด2.2 ผลกระทบที่เกิดจากปัญหาการแต่งกายไม่เหมาะสมของนักศึกษา1 . แฟชั่นชุดนักศึกษายุคใหม่ที่เน้นตามกระแสแฟชั่นได้รับความนิยมสูงขายดีทั้งชุดของผู้ชายและผู้หญิงเพราะราคาถูกดูทันสมัยแต่ความจริงแล้วการใส่เสื้อผ้าเล็กเกินไปนอกจากจะดูไม่งามแล้วยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกด้วย2 . ปัญหาอาชญากรรมการถูกล่วงละเมิดทางเพศการข่มขืนการถูกล่อลวงไปกระทำอนาจารส่งผลต่อวัฒนธรรมการแต่งกายที่ดีงามของนักศึกษาที่เป็นปัญญาชนกลับถูกมองในด้านลบเสื่อมเสียไปถึงสถาบันศึกษา3 . เป็นการตามกระแสนิยมที่ผิดๆทำให้เกิดการเลียนแบบการแต่งกายของเด็กตามผู้ใหญ่ทำให้สิ้นเปลืองเงินของผู้ปกครองโดยใช่เหตุและยังเป