Firm can increase the profitability

Firm can increase the profitability by creating more value for the consumer. The more value customers place on the firm’s products the higher price the firm can charge for those products.
Value creation is measured by the difference between V (Value of product to an average customer) and C (the costs of producing that product). A company can create more value (V-C) either by lowering production costs, C, or by making the product more attractive through superior design, styling, functionality, features, reliability, after sales service, so that consumers place a greater value on it and, consequently, are willing to pay a higher price.
The two basic strategies for creating value are:
A) Low-cost strategy: which is strategy that focuses primarily on lowering production costs
B) Differentiation strategy: which is strategy that focuses primarily on increasing the attractiveness of a product.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริษัทสามารถเพิ่มผลกำไร ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มเติมสำหรับผู้บริโภค วางลูกค้าค่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทราคาสูงกว่าที่บริษัทสามารถคิดค่าบริการสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวค่าสร้างวัด โดยความแตกต่างระหว่าง V (มูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าเฉลี่ย) และ C (ต้นทุนการผลิตสินค้านั้น) บริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น (V-C) โดยการลดต้นทุนการผลิต C หรือทำให้สินค้าน่าสนใจมากขึ้นผ่านการออกแบบ superior จัดแต่งทรงผม ทำงาน คุณลักษณะ ความน่าเชื่อ ถือ บริการหลังการขาย เพื่อให้ผู้บริโภควางค่ามากกว่านั้น และ จึง ยินดีที่จะจ่ายราคาสูงกลยุทธ์พื้นฐาน 2 การสร้างมูลค่าจะ: A) กลยุทธ์ต้นทุนต่ำ: ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นเป็นหลักในการลดต้นทุนการผลิต ข) สร้างความแตกต่างกลยุทธ์: ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นเป็นหลักในการเพิ่มความเท่ของผลิตภัณฑ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริษัท สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นโดยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภค ลูกค้าค่ามากขึ้นวางบนผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ที่ราคาที่สูงขึ้น บริษัท สามารถเรียกเก็บเงินสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น.
การสร้างมูลค่าที่วัดโดยความแตกต่างระหว่างวี (มูลค่าของสินค้าไปยังลูกค้าโดยเฉลี่ย) และ C (ค่าใช้จ่ายในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่) บริษัท สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม (VC) อย่างใดอย่างหนึ่งโดยการลดต้นทุนการผลิต, C, หรือโดยการทำผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากขึ้นผ่านการออกแบบที่เหนือกว่า, จัดแต่งทรงผมการทำงานคุณสมบัติความน่าเชื่อถือบริการหลังการขายเพื่อให้ผู้บริโภควางมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับมันและ จึงยินดีที่จะจ่ายราคาที่สูงขึ้น.
ทั้งสองกลยุทธ์ขั้นพื้นฐานสำหรับการสร้างมูลค่าคือ:
A) กลยุทธ์ต้นทุนต่ำ: ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นหลักในการลดต้นทุนการผลิต
B) กลยุทธ์ความแตกต่าง: ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นหลักในการที่เพิ่มขึ้น ความน่าดึงดูดใจของผลิตภัณฑ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริษัทสามารถเพิ่มกำไรโดยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภค สถานที่ลูกค้าค่ามากกว่าผลิตภัณฑ์ในราคาที่สูงขึ้น บริษัทสามารถคิดค่าบริการสำหรับผลิตภัณฑ์ของ บริษัท .
ค่าสร้างวัดจากความแตกต่างระหว่าง V ( คุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเฉลี่ย ) และ C ( ต้นทุนสินค้า )บริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ( v-c ) อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยลดต้นทุนการผลิต , C , หรือโดยการทำให้ผลิตภัณฑ์น่าสนใจ ผ่านการออกแบบที่เหนือกว่า , จัดแต่งทรงผม , การทำงาน , คุณสมบัติ , ความน่าเชื่อถือ บริการหลังการขาย เพื่อให้ผู้บริโภคที่ค่ามากกว่านั้น และ จากนั้น เต็มใจที่จะจ่ายราคาที่สูงขึ้น .
2 กลยุทธ์พื้นฐานสำหรับการสร้างคุณค่า :
) กลยุทธ์ต้นทุนต่ำซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นหลักในการลดต้นทุนการผลิต
b ) กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นหลักในการเพิ่มความน่าดึงดูดใจของผลิตภัณฑ์