The government of Thailand has been

The government of Thailand has been focusing on the social and economic development of the country for the past 35 years. However, since Thailand introduced the Seventh Economic and Social development plan (1992-1996),[1] protecting the environment has become one of the top priorities for the Thailand government. Seventh Economic and Social development plan seeks to maintain economic growth and achieve sustainable growth and stability, especially in the petrochemical,engineering,electronics and basic industries.[2]

Over the past few decades, Thailand's dramatic economic growth brought about new environmental challenges in the once-agrarian economy. The country presently faces problems with air and water pollution, declining wildlife populations, deforestation, soil erosion, water scarcity, and hazardous waste issues. According to the 2004 indicator, cost of air and water pollution for the country scales up to approximately 1.6% - 2.6% of her GDP per year.[3] As such, Thailand's economic growth has come at great cost in damage to its people and environment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รัฐบาลไทยมีการเน้นในการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจของประเทศในปี 35 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไทยนำเจ็ดทางเศรษฐกิจและแผนพัฒนาสังคม (1992-1996), [1] การปกป้องสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นหนึ่งของระดับความสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจเจ็ดและสังคมพยายามที่จะรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืนและความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปิโตรเคมี วิศวกรรม อิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมพื้นฐาน[2]

ทศวรรษผ่านมาไม่กี่ การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมากของประเทศไทยมาเกี่ยวกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ในระบบเศรษฐกิจหนึ่งเก็บ ประเทศปัจจุบันเผชิญปัญหามลพิษอากาศและน้ำ การคำนวณประชากรสัตว์ป่า ทำลายป่า การพังทลายของดิน การขาดแคลนน้ำ และปัญหาของเสียอันตราย ตามตัวบ่งชี้ปี 2004 ต้นทุนของมลพิษทางอากาศและน้ำในประเทศปรับขนาดขึ้นไปประมาณ 1.6-2.6% ของ GDP ต่อปีของเธอ[3] เช่น เติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมาที่ต้นทุนที่ดีในความเสียหายของผู้คนและสิ่งแวดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รัฐบาลไทยได้รับการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศสำหรับที่ผ่านมา 35 ปี แต่เนื่องจากประเทศไทยนำแผนพัฒนาเจ็ดเศรษฐกิจและสังคม (1992-1996) [1] การปกป้องสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นหนึ่งในความสำคัญสูงสุดสำหรับรัฐบาลไทย เจ็ดเศรษฐกิจและแผนพัฒนาสังคมพยายามที่จะรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเติบโตที่ยั่งยืนและความมั่นคงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และพื้นฐาน. [2] ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอย่างมากนำมาเกี่ยวกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ใน เศรษฐกิจครั้งหนึ่งกร ประเทศในปัจจุบันประสบปัญหากับมลพิษทางอากาศและน้ำลดลงประชากรสัตว์ป่าตัดไม้ทำลายป่าพังทลายของดินการขาดแคลนน้ำและปัญหาของเสียอันตราย ตามตัวบ่งชี้ที่ปี 2004 ค่าใช้จ่ายของมลพิษทางอากาศและน้ำของประเทศชั่งได้ถึงประมาณ 1.6%. - 2.6% ของ GDP ของเธอต่อปี [3] เช่นการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่มีมาในราคาที่ดีในการสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและ สภาพแวดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รัฐบาลไทยได้เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสำหรับที่ผ่านมา 35 ปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ ( พ.ศ. 2535-2539 ) [ 1 ] การปกป้องสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นหนึ่งในความสำคัญสูงสุดสำหรับประเทศไทยได้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่พยายามที่จะรักษาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้บรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจปิโตรเคมี วิศวกรรม อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมพื้นฐาน [ 2 ]

กว่าทศวรรษที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอย่างมากนำเกี่ยวกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ ในเมื่อเศรษฐกิจของเกษตรกรประเทศปัจจุบันยังคงมีปัญหากับอากาศและมลพิษลดลง สัตว์ป่า ประชากร การทำลายป่า ดินพังทลาย ปัญหาความขาดแคลนน้ำและของเสียอันตราย ตามการสำรวจบ่งชี้ ต้นทุนของอากาศและมลพิษทางน้ำสำหรับประเทศที่ชั่งได้ถึงประมาณร้อยละ 1.6 - 2.6% ของจีดีพีต่อปี [ 3 ] เช่นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ในราคาที่ดีในความเสียหายของผู้คนและสภาพแวดล้อม