แผนในอนาคต
ถ้าเราจะกล่าวถึงนักเรียนชั้นม.6 คงจะนึกถึงการอ่านหนังสืออย่าหนัก การเรียนพิเศษ การติวสอบและเกร็งข้อสอบที่ต่าง ๆ เพราะม.6เป็นช่วงเวลาที่จะต้องคิดถึงเรื่องการสอบเข้ามหาลัยเพื่อนเข้าศึกษาต่อในคณะที่ตนเองมีความสนใจ ถ้าทำคะแนนสอบได้ไม่ดีก็จะยื่นคณะที่อยากเข้าเรียนไม่ได้ และอาจจะทำให้ชีวิตพลิกผันได้ เพราะมหาลัยเป็นที่สอนการเริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่เรา ถ้าเราได้คณะที่ไม่ชอบหรือไม่อยากเรียนก็อาจจะทำให้การเรียนในมหาลัยไม่ประสบผลสำเร็จได้
ปัจจุบันฉันกำลังเรียนอยู่ชั้นม.6 ที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ซึ่งเป็นภาคเรียนที่ 2 อีกไม่นานก็จะจบจกโรงเรียนนี้และเข้ามหาลัย ดังนั้นจึงต้องวางแผนอนาคตของตนเองและต้องมีแผนสำรองด้วย เป้าหมายของฉันก็คือ คณะ ICT นิเทศศาสตร์ มาลัยศิลปากร ซึ่งต้องเข้าเรียนโดยการสอบแอดมิชชั่นเท่านั้น แต่การแอดมิชชั่นนี้เป็นการสอบแข่งขันกันทั่วประเทศจึงมีคู่แข่งเยอะพอสมควร และในสมัยนี้คณะนิเทศศาสตร์เป็นคณะฮิต เพราะเป็นคณะที่เรียนแล้วสนุก ไม่เครียด จะเน้นการทำกิจกรรมต่าง ๆ การปฏิบัติจริงมากกว่าการเรียนทฤษฎี งานที่รองรับก็เยอะ จึงทำให้คะแนนแอดมิชชั่นของคณะนี้สูง ส่วนแผนสำรองของฉันก็คือคณะเดียวกันในมหาลัยมช.และ มอ. และสำรองที่สุดเป็นมหาลัยเอกชน คือม.กรุงเทพ และ ม.อัสสัมชัน แต่มุ่งหวังไว้ที่มหาลัยศิลปากรจึงต้องทำคะแนนให้ดี คะแนนส่วนนี้รวมเกรดเฉลี่ยรวม คะแนนGAT และคะแนนโอเน็ต GPAของฉันอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ไม่ได้ดีมาก ส่วนคะแนนแกทอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เพราะฉะนั้นฉันจึงต้อทำคะแนนโอเน็ตให้ดี ถ้าฉันติดคณะนี้ก็ต้องไปเรียนที่เพชรบุรี จะได้เจอเพื่อนใหม่ ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ ชีวิตช่วงมหาลัยคงสนุก พอจบจากมหาลัยฉันจะทดลองงานในบริษัทภาพยนต์หรือบริษัทโฆษณาต่าง ๆ ในกรุงเทพ เพราะกรุงเทพเป็นศูนย์รวมของบริษัทเหล่านี้ ฉันอยากจะทำงานเป็นช่างภาพ ผู้กำกับศิลป์ หรือไม่ก็นักพากย์เสียง ทั้งสามงานนี้เป็นงานที่น่าสนใจ และหวังว่าจะได้ทำงานเหล่านี้สักวัน
หลาย ๆ คนบอกมาว่า อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่ถ้าเราวางแผนอนาคตไว้อย่างแน่นอนและเดินตามแผนที่วางไว้ก็จะทำให้อนาคตเรามั่นคง ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแต่ก็มีหลักยึดไว้ให้เดินไปในทางที่คิด การวางแผนอนาคตดีก็จะทำให้ชีวิตเราดีไปด้วย