PM study plan In the sophomore yea

PM study plan
In the sophomore year, every students must take the pm course as their major subject. Initially, I did not know anything about this class before such as the lesson, time, and number of classes I need to attend. Therefore, I need to set up the study plan that suit me, in order to succeed studying this subject.

To begin with, in the very beginning I thought this curriculum will be as easy as the introduction to business class that I used to take when I was in the freshmen year. In contrast, in the very first class when I met with Aj.jongpit and she handed us the course sellbus we were so shock with the number of chapters that we need to cover before taking the midterm exam.

I had to admit that when I got the cross sellbus, I did not care what it wrote on that paper at all, actually I did not even read it to be honest, because I do not think I will read the book in advance anyway. However, that was the terrible idea because I found out that I need to read all seven chapter, which is 250 pages, in 2 weeks. At that time when I noticed that, I was going to cry because I do not know if I can finished it on time or not. Since that day, I started to realize more about how cucial it is to set up a plan for my study.

There are several methods that I utilize in my study plan. Firstly, I start with reading through the course cellbus in every details in order to know what direction I need to go when reading a textbook. After reading the course sellbus, I will note down the member of pages in each chapter that I need to read, in an intention to stimulate myself to read a textbook all the time. Well, that is work for me, I start to read a book more since then. Secondly, i will always remind myself to pay attention in the class, and try to understand it all when Aj give the lecture so that I do not have to do a lot of reading before the exam. For example, I usually get distracted by my cell phone a lot during the lecture, sometimes I cannot control myself to go on Facebook or the internet. Thereby, I will always thinki about my parents when I will play on my phone or talk to others during studying, in order to remind myself that my parents have hope on me and they need me to be success. As a result, I become more responsible and enthusiastic than ever before.

I try to create a time chart of my current activities so that I can see a big picture of what I will do in each time period such as doing sports, hanging out with friends or studying. Once I have noted all the activities down, I will find the time which I can devote to review the lesson. I usually spend an hour a day or even thirty mintues to reviewing what I have learnt today in the class, and sometimes take a short note to make it more precise. After I find an available time to study, I will note in the carlendar so that I will not forget to do it. However, when I have the pop-up quiz or any activities during a week, I may alter my reviewing sechdual in order to do those activities secessfully without worrying about the reading that I need to do. It seems like this method help me a lot when I have to take the exam because I do not need to spend much time too read the whole things again. Then I will determine my study goals by asking myself a questions for instance, Why do I need to study this subject?, Am I preparing for the exam? Or Do I want to improve my grade? So that I can be more active.
The most importantly thing is to stick to the schedule because study plan will work best when I follow it a consistent basis.




After a while, I can notice that there are an abundance of advatages of making a study plan for studying. Firstly, I become more responsible and organize. For instance, before I think about making the study plan I had never had the specific time to read. On the other hand, when I set up the sechdual to review the lesson, I need to find and organize time when I am available for the reading. Secondly, enhance knowledge,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แผนการศึกษาน. ในปี sophomore นักเรียนทุกคนต้องใช้น.หลักสูตรเป็นเรื่องสำคัญของพวกเขา เริ่มแรก ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการเรียนก่อนเรียน เวลา และจำนวนชั้นที่ต้องเข้าร่วมด้วย จึง ฉันต้องการตั้งค่าแผนการศึกษาที่เหมาะกับฉัน การศึกษาเรื่องนี้ประสบความสำเร็จจะเริ่มต้นด้วย ในการเริ่มต้น ผมคิดว่า หลักสูตรนี้จะง่ายเหมือนการแนะนำการเรียนธุรกิจที่เคยใช้เมื่อปีเฟรชเมน ในทางตรงกันข้าม ในชั้นมาก เมื่อผมได้พบกับ Aj.jongpit เธอมอบเรา sellbus หลักสูตร ได้ช็อกให้กับหมายเลขของบทที่เราต้องการก่อนการสอบกลางภาค ผมยอมรับที่ว่าเมื่อผม sellbus ไขว้ ฉันไม่ได้ดูแลอะไรมันเขียนบนกระดาษนั้นเลย จริง ผมไม่ได้อ่านไม่ออกแม้จะซื่อสัตย์ เนื่องจากไม่คิดจะอ่านหนังสือล่วงหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่มีความคิดน่ากลัว เพราะฉันพบว่า ฉันจำเป็นต้องอ่านทั้งหมดเจ็ดบท ที่หน้า 250 สัปดาห์ที่ 2 ในขณะที่เมื่อฉันสังเกตเห็นว่า ฉันกำลัง ร้อง เพราะฉันไม่รู้ว่าถ้าฉันสามารถเสร็จสิ้นก็เวลา หรือไม่ ตั้งแต่วันนั้น ผมเริ่มตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับวิธี cucial จะตั้งค่าแผนการศึกษามีหลายวิธีที่ผมใช้ในการวางแผนการศึกษาของฉัน ประการแรก ฉันเริ่มต้น ด้วยการอ่านผ่าน cellbus หลักสูตรในทุกรายละเอียดเพื่อทราบทิศทางอะไรต้องไปอ่านหนังสือ หลังจากอ่าน sellbus หลักสูตร ฉันจะทราบลงหนึ่งหน้าในแต่ละบทที่ต้องอ่าน ในความตั้งใจเพื่อกระตุ้นตัวเองให้อ่านหนังสือเป็นเวลาทั้งหมด ดี ที่จะทำงานสำหรับฉัน ฉันเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่นั้น ประการที่สอง ฉันจะเสมอเตือนตัวเองให้ความสนใจในชั้นเรียน และพยายามที่จะเข้าใจมันทั้งหมดเมื่อ Aj ให้การบรรยายเพื่อให้ได้ต้องอ่านก่อนสอบมากมาย ตัวอย่าง ฉันมักจะได้รับฟุ้งซ่าน โดยโทรศัพท์ของฉันมากในระหว่างการบรรยาย บางครั้งฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองไปบน Facebook หรืออินเทอร์เน็ต จึง ฉันจะ thinki เกี่ยวกับพ่อเมื่อจะเล่นบนโทรศัพท์ของฉัน หรือพูดคุยกับผู้อื่นในระหว่างเรียน เพื่อเตือนตัวเองว่า พ่อมีความหวังกับฉัน และพวกเขาต้องการฉันให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น ฉันกลายเป็นรับผิดชอบ และกระตือรือร้นกว่าเดิมมาก พยายามสร้างแผนภูมิเวลาของกิจกรรมปัจจุบันของฉันเพื่อให้สามารถเห็นภาพใหญ่ของฉันจะทำอะไรในแต่ละช่วงเวลาเช่นทำกีฬา ห้อยออกกับเพื่อน หรือเรียน เมื่อฉันได้บันทึกกิจกรรมทั้งหมดลง ผมจะหาเวลาที่ฉันสามารถอุทิศเพื่อทบทวนบทเรียน ฉันมักจะใช้เวลาชั่วโมงวันหรือมากมายแม้สิบทานอะไรผมมีเรียนวันนี้ในชั้นเรียน และบางครั้งใช้บันทึกย่อสั้น ๆ เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากหาเวลาว่างศึกษา ฉันจะทราบใน carlendar ให้ว่าฉันจะไม่ลืมที่ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำถามผุดขึ้นหรือกิจกรรมใด ๆ ในระหว่างสัปดาห์ ฉันอาจเปลี่ยน sechdual ของฉันตรวจทานไม่ secessfully กิจกรรมเหล่านั้นโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการอ่านที่ต้องการ ดูเหมือนว่าวิธีการนี้ช่วยผมมากเมื่อมีการสอบเนื่องจากไม่ต้องใช้เวลามากเกินไป อ่านสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดอีกครั้ง แล้วฉันจะกำหนดเป้าหมายการศึกษาของฉัน โดยการถามตัวเองเป็นคำถามเช่น ทำไมต้องศึกษาเรื่องนี้หรือไม่ ฉันกำลังเตรียมสอบได้ที่นี่ หรือฉันต้องการเพิ่มเกรดของฉัน เพื่อให้ฉันสามารถอยู่ ที่สำคัญสิ่งที่ได้ติดกำหนดการเนื่องจากแผนการศึกษาจะทำงานดีที่สุดเมื่อฉันทำตามพื้นฐานสอดคล้องหลัง ฉันสามารถพบว่า มีความอุดมสมบูรณ์ของ advatages ของการทำแผนการศึกษาสำหรับการศึกษา ประการแรก ฉันกลายเป็นรับผิดชอบมากขึ้น และจัดระเบียบ ตัวอย่าง ก่อนคิดเกี่ยวกับการทำแผนการศึกษา ผมเคยไม่มีเวลาเฉพาะเจาะจงในการอ่าน บนมืออื่น ๆ เมื่อตั้ง sechdual การทบทวนบทเรียน ฉันได้ค้นหา และจัดระเบียบเวลาเมื่อฉันพร้อมสำหรับการอ่าน ประการที่สอง เสริมสร้างความรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

PM
แผนการศึกษาในปีปีนักเรียนทุกคนจะต้องใช้หลักสูตรนเป็นเรื่องสำคัญของพวกเขา ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับระดับนี้มาก่อนเช่นบทเรียนเวลาและจำนวนของชั้นเรียนที่ฉันต้องการที่จะเข้าร่วม ดังนั้นผมจึงจำเป็นต้องตั้งค่าแผนการศึกษาที่เหมาะกับผมในการที่จะประสบความสำเร็จในการศึกษาเรื่องนี้. เริ่มต้นด้วยในจุดเริ่มต้นมากผมคิดว่าหลักสูตรนี้จะเป็นเรื่องง่ายเหมือนการแนะนำให้รู้จักกับชั้นธุรกิจที่ผมเคยใช้เมื่อ ผมอยู่ในปีนักศึกษา ในทางตรงกันข้ามในชั้นแรกมากเมื่อฉันได้พบกับ Aj.jongpit และเธอก็ส่งเรา sellbus การเรียนการสอนเพื่อให้เราได้ช็อตที่มีจำนวนของบทที่เราต้องให้ครอบคลุมถึงก่อนการสอบกลางภาค. ผมต้องยอมรับว่าเมื่อผมกลับมา sellbus ข้ามผมไม่ได้ดูแลสิ่งที่เขียนบนกระดาษที่ทุกที่จริงผมไม่ได้อ่านมันจะซื่อสัตย์เพราะฉันไม่คิดว่าฉันจะอ่านหนังสือล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่ที่เป็นความคิดที่น่ากลัวเพราะผมพบว่าผมต้องอ่านทุกบทที่เจ็ดซึ่งเป็น 250 หน้าใน 2 สัปดาห์ ครั้งนั้นเมื่อผมสังเกตเห็นว่าผมจะร้องไห้เพราะผมไม่ทราบว่าผมสามารถเสร็จได้ในเวลาหรือไม่ ตั้งแต่วันนั้นผมก็เริ่มที่จะตระหนักถึงเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธี cucial มันคือการตั้งค่าแผนสำหรับการศึกษาของฉัน. มีหลายวิธีที่ผมใช้ในการวางแผนการศึกษาของฉัน ประการแรกผมเริ่มต้นด้วยการอ่านผ่าน cellbus แน่นอนในทุกรายละเอียดเพื่อที่จะรู้ว่าสิ่งที่ทิศทางที่ฉันต้องการที่จะไปเมื่ออ่านตำราเรียน หลังจากที่ได้อ่าน sellbus แน่นอนผมจะจดสมาชิกของหน้าในแต่ละบทที่ฉันต้องการที่จะอ่านในความตั้งใจที่จะกระตุ้นตัวเองให้อ่านตำราตลอดเวลา ดีที่เป็นงานสำหรับฉันฉันเริ่มที่จะอ่านหนังสือมากขึ้นตั้งแต่นั้นมา ประการที่สองผมจะเตือนตัวเองให้ความสนใจในการเรียนและพยายามที่จะเข้าใจมันทั้งหมดเมื่อ Aj ให้การบรรยายเพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องทำมากของการอ่านหนังสือก่อนสอบ ตัวอย่างเช่นผมมักจะได้รับการรบกวนจากโทรศัพท์มือถือของฉันมากในระหว่างการบรรยายบางครั้งฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองที่จะไปบน Facebook หรืออินเทอร์เน็ต ดังนั้นฉันมักจะ thinki เกี่ยวกับพ่อแม่ของฉันเมื่อฉันจะเล่นบนโทรศัพท์มือถือของฉันหรือพูดคุยกับคนอื่น ๆ ในระหว่างการศึกษาเพื่อที่จะเตือนตัวเองว่าพ่อแม่ของฉันมีความหวังกับฉันและพวกเขาต้องการฉันจะประสบความสำเร็จ เป็นผลให้ผมกลายเป็นความรับผิดชอบมากขึ้นและมีความกระตือรือร้นมากขึ้นกว่าเดิม. ฉันพยายามที่จะสร้างแผนภูมิเวลาของกิจกรรมปัจจุบันของฉันเพื่อที่ฉันสามารถเห็นภาพใหญ่ของสิ่งที่ผมจะทำในแต่ละช่วงเวลาเช่นการทำกีฬาห้อยออกกับ เพื่อนหรือเรียน เมื่อฉันได้ตั้งข้อสังเกตกิจกรรมทั้งหมดลงผมจะหาเวลาที่ฉันสามารถอุทิศเพื่อทบทวนบทเรียน ฉันมักจะใช้จ่ายชั่วโมงต่อวันหรือแม้กระทั่งสามสิบนาทีเพื่อตรวจสอบสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ในวันนี้ในชั้นเรียนและบางครั้งใช้เวลาบันทึกสั้นที่จะทำให้มันแม่นยำมากขึ้น หลังจากที่ผมได้พบกับเวลาที่มีอยู่ในการศึกษาผมจะทราบในปฏิทินเพื่อที่ฉันจะไม่ลืมที่จะทำมัน แต่เมื่อผมมีการตอบคำถามผุดขึ้นหรือกิจกรรมใด ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผมอาจเปลี่ยนแปลง sechdual การตรวจสอบของฉันเพื่อที่จะทำกิจกรรมเหล่านั้น secessfully โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการอ่านที่ผมต้องทำ ดูเหมือนว่าวิธีนี้ช่วยให้ฉันมากเมื่อฉันต้องใช้เวลาสอบเพราะผมไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากเกินไปสิ่งที่ทั้งอ่านอีกครั้ง แล้วฉันจะกำหนดเป้าหมายการศึกษาของฉันโดยการถามตัวเองคำถามเช่นทำไมฉันต้องศึกษาเรื่องนี้ ?, ฉันเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบหรือไม่ หรือฉันต้องการที่จะปรับปรุงเกรดของฉันได้อย่างไร เพื่อที่จะสามารถใช้งานได้มากขึ้น. สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการติดตารางเพราะแผนการศึกษาจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อฉันทำตามพื้นฐานที่สอดคล้องกัน. หลังจากที่ในขณะที่ฉันสามารถสังเกตเห็นว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของ advatages ในการทำการศึกษาแห่งหนึ่ง วางแผนการศึกษา ประการแรกผมกลายเป็นความรับผิดชอบมากขึ้นและการจัดระเบียบ ยกตัวอย่างเช่นก่อนที่ผมจะคิดเกี่ยวกับการทำแผนการศึกษาที่ฉันไม่เคยมีเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการอ่าน ในทางกลับกันเมื่อฉันจะตั้งค่า sechdual เพื่อทบทวนบทเรียนที่ฉันจำเป็นต้องค้นหาและจัดระเบียบเวลาที่ผมมีอยู่สำหรับการอ่าน ประการที่สองเพิ่มความรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น. ศึกษาแผนการ
ในปี 2 นักเรียนทุกคนต้องใช้ PM ของหลักสูตรวิชาเอกของตน ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับชั้นนี้มาก่อน เช่น บทเรียน เวลาและจำนวนของชั้นเรียนที่ฉันต้องการที่จะเข้าร่วม ดังนั้น ผมต้องตั้งค่าแผนการศึกษาที่เหมาะกับผม เพื่อที่จะได้เรียนเรื่องนี้

เริ่มต้นด้วยในตอนแรกฉันคิดว่าหลักสูตรนี้จะเป็นเรื่องง่ายเหมือนการเรียนธุรกิจที่ผมเคยใช้ตอนอยู่ปีหนึ่ง ในทางตรงกันข้าม ในระดับแรก เมื่อเจอกับ aj.jongpit และเธอมือเราแน่นอน sellbus เราก็ตกใจกับจำนวนบทที่เราต้องคลุมก่อนสอบมิดเทอม .

ผมยอมรับว่า เมื่อฉันมาข้าม sellbus ผมไม่ได้ดูแลสิ่งที่เขียนบนกระดาษเลย จริงๆแล้วผมไม่ได้อ่านด้วยซ้ำบอกตามตรง เพราะผมไม่คิดว่า ผมจะอ่านหนังสือล่วงหน้าอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นความคิดที่แย่มาก เพราะผมพบว่าผมต้องอ่านทั้งหมด 7 บท ซึ่งเป็น 250 หน้าใน 2 สัปดาห์ ตอนนั้นผมสังเกตเห็นว่าฉันกำลังจะร้องไห้ เพราะไม่รู้ว่าถ้าฉันสามารถเสร็จสิ้นได้ในเวลาหรือไม่ นับตั้งแต่วันนั้น ผมก็เริ่มตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการที่ cucial ก็คือการวางแผนการศึกษา .

มีหลายวิธีที่ใช้ในการวางแผนการศึกษาของฉัน ประการแรก ผมเริ่มต้นด้วยการอ่านผ่านหลักสูตร cellbus ในรายละเอียดต่างๆ เพื่อทราบทิศทางที่ฉันต้องไปอ่านตำราหลังจากอ่าน sellbus แน่นอน ผมจะจดลง สมาชิกของหน้าเว็บในแต่ละบท ที่ผมต้องอ่าน ในความตั้งใจที่จะกระตุ้นตัวเองให้อ่านหนังสือตลอดเวลา เอ่อ คือว่า ทำงาน ให้ ฉัน ฉันเริ่มอ่านหนังสือมากขึ้นตั้งแต่นั้นมา ประการที่สองผมจะเตือนตัวเองให้สนใจในชั้นเรียนและพยายามที่จะเข้าใจมันทั้งหมดเมื่อ AJ ให้บรรยาย ผมไม่ต้องทำอะไรมาก อ่านก่อนสอบ ตัวอย่างเช่น ฉันมักจะได้รับฟุ้งซ่านโดยมือถือมากในระหว่างการบรรยาย บางครั้งฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ไปบน Facebook หรือทางอินเทอร์เน็ต ดังนั้น ผมจะคิดว่าผมกับพ่อแม่ของฉันเมื่อฉันเล่นในโทรศัพท์หรือพูดคุยกับคนอื่น ๆในการเรียนเพื่อเตือนตัวเองว่า พ่อแม่ต้องหวังว่าฉันและพวกเขาต้องการที่จะได้รับความสำเร็จ เป็นผลให้ฉันมากขึ้น รับผิดชอบ และกระตือรือร้นมากกว่าเดิม

ผมลองสร้างแผนภูมิของกิจกรรมปัจจุบันเวลาของฉันเพื่อที่ฉันสามารถดูภาพใหญ่ของสิ่งที่จะทำในแต่ละช่วงเวลา เช่น เล่นกีฬา , ออกไปเที่ยวกับเพื่อน หรืออ่านหนังสือ เมื่อฉันได้บันทึกกิจกรรมทั้งหมดลงผมจะหาเวลาที่ฉันสามารถอุทิศเพื่อทบทวนบทเรียน ฉันมักจะใช้เวลาวันหรือแม้แต่สามสิบนาทีเพื่อทบทวนสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในวันนี้ในคลาส และบางครั้งก็ใช้ข้อความสั้น ๆเพื่อให้มันแม่นยำกว่า หลังจากที่ผมหาเวลามาใช้ในการศึกษา ผมจะจดในคาร์เลนดาร์ ดังนั้น ฉัน จะ ไม่ ลืมที่จะทำมัน อย่างไรก็ตามเมื่อฉันมีคำถามผุดขึ้นหรือกิจกรรมใด ๆ ในระหว่างสัปดาห์ ฉันอาจเปลี่ยนแปลงของฉันทบทวน sechdual เพื่อทำกิจกรรมเหล่านั้น secessfully โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการอ่านที่ข้าต้องทำ ดูเหมือนว่าวิธีนี้ช่วยให้ฉันมาก ตอนที่ผมต้องสอบเพราะไม่ต้องใช้เวลามากเหมือนกัน อ่านเรื่องทั้งหมดอีกครั้งแล้วผมจะกำหนดเป้าหมายการศึกษา ด้วยการถามตัวเองคำถาม เช่น ทำไมผมต้องศึกษาเรื่องนี้ ฉันเตรียมตัวสำหรับการสอบ หรือฉันต้องการที่จะปรับปรุงคะแนนของฉัน ? เพื่อที่ฉันสามารถใช้งานมากขึ้น
ที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือติดกับตารางเวลาเพราะแผนการศึกษาจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อผมติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง




หลังจากนั้นผมสังเกตเห็นว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของ advatages ทำให้แผนการศึกษาสำหรับการเรียน ก่อนอื่น ผมจะรับผิดชอบมากขึ้น และจัดระเบียบ ตัวอย่างเช่น ก่อนที่จะคิดเกี่ยวกับการแผนการเรียน ผมไม่เคยมีเวลาที่เฉพาะเจาะจงที่จะอ่าน บนมืออื่น ๆ , เมื่อฉันตั้ง sechdual ทบทวนบทเรียน ผมต้องค้นหาและจัดระเบียบเวลาเมื่อฉันสามารถอ่าน ประการที่สองเพิ่มความรู้