Past[edit]Safeguard International F

Past[edit]
Safeguard International Fund, L.P.

In 1997, Schimmelbusch, in cooperation with Michael R. Holly and Arthur R. Spector formed Safeguard International Fund, L.P. (SIF), a private equity fund which had US$305 million of equity capital under management. It was formed to make acquisitions of technologically oriented metallurgical businesses in North America and Western Europe.[4] SIF made 10 principal investments, including Metallurg Holdings, Inc., ALD Vacuum Technologies GmbH and Sudamin Holdings LLC. These businesses were eventually merged to form AMG Advanced Metallurgical Group N.V.

SIF also invested in PFW Aerospace AG and Scan Wafer AS, which was eventually merged into Renewable Energy Corp AS. SIF has returned over US$625 million in cash and shares to its investors to date.[5]

Schimmelbusch is also a member of the executive committee of the general partner of SIF. In November 2002, he was appointed chief executive officer of Metallurg. He also served as chairman of the board of Metallurg and Metallurg Holdings.[4]

Metallgesellschaft

Schimmelbusch began his career at Metallgesellschaft AG (MG AG), also known as MG, in 1973. Schimmelbusch was the Chief Executive Officer (1989 to 1993) of Metallgesellschaft, a German industrial conglomerate.[1] Metallgesellschaft AG based in Frankfurt was one of Germany's largest industrial conglomerates. It had over 250 subsidiaries specializing in mining, specialty chemicals (Chemetall), commodity trading, financial services and engineering (Lurgi). Under the leadership of CEO Schimmelbusch, Metallgesellschaft entered the oil business by selling fuel to customers (such as gasoline stations) via its American subsidiary, MG Refining and Marketing in the form of fixed price long term contracts (up to 10 years).[6] Metallgesellschaft attempted to hedge its exposure to rising oil prices on the futures market.[1] Unfortunately, in 1993, oil prices began to drop and Metallgesellschaft's derivatives strategy turned into extensive paper losses.[6] The company's largest shareholder, Deutsche Bank found out and responded by ousting Schimmelbusch and liquidating Metallgesellschaft's positions which turned the virtual losses into real losses.[6] The decision by the MG AG supervisory board to end MG Refining and Marketing (MGRM)'s marketing program early - against loud protests from Schimmelbusch and the management board - precipitated massive international controversy. Metallgesellschaft almost went bankrupt after losing an estimated $1.3 billion on speculative bets in oil future markets.

Among the many who analyzed the MGRM debacle were the late Nobel laureate Merton Miller and Christopher Culp. Together they wrote seven articles and co-edited one book attempting to explain what was really going on at MGRM. It is fair to say in retrospect that Miller and Culp were highly sympathetic to Schimmelbusch and his team. This is not, of course, why they were written. In fact, Professor Miller and Christopher Culp resolved early in their analysis of MGRM that to preserve credibility in the face of growing controversy, they would neither accept any payment for any of that work nor would they communicate with any of the principal players at MGRM or MG AG. Professor Miller and Christopher Culp were merely analyzing the facts and the economics of the case. That this proved to be a defense of Schimmelbusch's actions was a consequence of the facts, not a deliberate effort on their parts.[7] MG and Schimmelbusch settled the lawsuit with MG even helping to pay his legal fees.[1]

Past Directorships

Schimmelbusch's directorships have also included MMC Norilsk Nickel, Allianz Versicherung AG, Mobil Oil AG, Teck Cominco Limited, and Methanex Corporation.[4]

Schimmelbusch served as a member of the Presidency of the Federation of German Industries (BDI) and the Presidency of the International Chamber of Commerce (ICC).[2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[แก้] ที่ผ่านมาปกป้องกองทุนระหว่างประเทศ L.P.ในปี 1997, Schimmelbusch ร่วมกับฮอลลี่ R. Michael และ Arthur R. Spector เกิดกองทุนป้องกันระหว่างประเทศ L.P. (SIF), กองทุนเอกชนซึ่งมี 305 ล้านดอลลาร์ของหุ้นทุนภายใต้การจัดการ มันก่อให้ซื้อของธุรกิจมุ่งเน้นเทคโนโลยีทางโลหะวิทยาในอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก [4] SIF ทำลงทุนหลัก 10, Metallurg Holdings, Inc., ALD สูญญากาศเทคโนโลยี GmbH และ Sudamin Holdings LLC ธุรกิจเหล่านี้ในที่สุดผสานฟอร์ม AMG ขั้นสูงโลหะกลุ่ม N.V.SIF ยังลงทุนใน PFW บิน AG และสแกนแผ่นเวเฟอร์ เป็น ซึ่งในที่สุดถูกผสานเข้า Corp พลังงานทดแทน AS. SIF ได้ส่งคืนกว่า 625 ล้านดอลลาร์สหรัฐเงินสดและหุ้นลงทุนของบริษัทวันที่ [5]Schimmelbusch ยังเป็นสมาชิกของคณะกรรมการบริหารพันธมิตรทั่วไปของ SIF ในเดือนพฤศจิกายน เขาถูกแต่งตั้งประธานกรรมการบริหารของ Metallurg เขาทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการคณะ Metallurg และโฮลดิ้งส์ Metallurg [4]MetallgesellschaftSchimmelbusch เริ่มอาชีพ Metallgesellschaft AG (MG AG), รู้จักกันมก. 1973 Schimmelbusch เป็นประธาน (1989 ถึง 1993) ของธุรกิจอุตสาหกรรมในเยอรมัน Metallgesellschaft [1] Metallgesellschaft AG ในแฟรงค์เฟิร์ตเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี มันมีมากกว่า 250 บริษัทนริศในเหมืองแร่ เคมี (Chemetall), บริการทางการเงิน ซื้อขายสินค้า และวิศวกรรม (Lurgi) ภายใต้การนำของซีอีโอ Schimmelbusch, Metallgesellschaft ป้อนธุรกิจน้ำมัน โดยการขายน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ลูกค้า (เช่นสถานีบริการน้ำมัน) ผ่านทางบริษัทย่อยอเมริกัน MG การกลั่นและการตลาดในรูปแบบของราคาคงสัญญาระยะยาว (10 ปี) [6] Metallgesellschaft พยายามที่จะป้องกันความเสี่ยงการขึ้นราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้า [1] แต่น่าเสียดาย 1993 ราคาน้ำมันเริ่มลดลง และกลยุทธ์อนุพันธ์ของ Metallgesellschaft กลายเป็นขาดทุนกระดาษครอบ [6 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท] ธนาคารดอยซ์แบงก์พบ และตอบ โดยประเทศ Schimmelbusch และ liquidating ตำแหน่งของ Metallgesellschaft ซึ่งเปิดขาดทุนเสมือนจริงขาดทุน [6] การตัดสินใจคณะกรรมการกำกับ MG AG ไปกลั่นมิลลิกรัมการตลาด (MGRM) ของโปรแกรมการตลาดต้น- กับเสียงประท้วงจาก Schimmelbusch และคณะกรรมการบริหาร - ตกตะกอนขนาดใหญ่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ Metallgesellschaft เกือบไปล้มละลายหลังจากสูญเสียมีประมาณ 1.3 พันล้านเหรียญบนเดิมพันการเก็งกำไรในน้ำมันตลาดในอนาคตในหมู่คนที่วิเคราะห์ MGRM debacle ได้โนเบลปลายฮอลโลเวย์มิลเลอร์และคริสโตเฟอร์ Culp เครือลอรีเอท ร่วมกันพวกเขาเขียนบทความที่ 7 และร่วมแก้ไขเล่มเดียวที่พยายามอธิบายว่า จริง ๆ ชีวิตใน MGRM มันเป็นธรรมกล่าวว่า มิลเลอร์และ Culp กี่สูง Schimmelbusch และทีมของเขาในการหวนกลับ จึงไม่ได้ แน่นอน พวกเขาเขียน ในความเป็นจริง ศาสตราจารย์มิลเลอร์และคริสโตเฟอร์ Culp แก้ไขใน MGRM ของพวกเขาวิเคราะห์ว่า เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือในการเผชิญกับความขัดแย้งในการเจริญเติบโต พวกเขาจะไม่ยอมรับการชำระเงินสำหรับที่ทำงาน หรือพวกเขาจะสื่อสารกับใด ๆ ของผู้เล่นหลักที่ MGRM หรือ MG AG ศาสตราจารย์มิลเลอร์และคริสโตเฟอร์ Culp ได้เพียงวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและเศรษฐศาสตร์ของกรณี ว่า นี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการป้องกันการดำเนินการของ Schimmelbusch ได้เป็นผลมาจากข้อเท็จจริง ไม่พยายามกระทำบนชิ้นส่วนของพวกเขา [7] มก.และ Schimmelbusch ตัดสินคดีมิลลิกรัมแม้กระทั่งช่วยในการชำระค่าธรรมเนียมตามกฎหมายของเขา [1]ตำแหน่งกรรมการที่ผ่านมาตำแหน่งกรรมการของ Schimmelbusch ยังได้รวม MMC แฟรงก์เฟิร์ตนิกเกิล อลิอันซ์ Versicherung AG, AG น้ำมันโมบิล เต็ก Cominco จำกัด และ บริษัท Methanex [4]Schimmelbusch ให้บริการเป็นสมาชิกของสหพันธ์ของเยอรมันอุตสาหกรรม (BDI) ประธานาธิบดีและประธานาธิบดีของหอการค้านานาชาติ (ICC) [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ผ่านมา [แก้ไข]
Safeguard กองทุนระหว่างประเทศ, LP ในปี 1997 Schimmelbusch ในความร่วมมือกับไมเคิลอาฮอลลี่และอาเธอร์อาร์สเปคเตอร์ที่เกิดขึ้น Safeguard กองทุนระหว่างประเทศ, LP (SIF) เป็นกองทุนหุ้นเอกชนที่มีสหรัฐ 305 $ ล้านทุนภายใต้การบริหาร . มันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้การเข้าซื้อกิจการของธุรกิจที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีโลหะในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก. [4] SIF ทำ 10 เงินลงทุนหลักรวมทั้ง Metallurg โฮลดิ้งอิงค์มรกตเครื่องดูดฝุ่นและเทคโนโลยี GmbH Sudamin Holdings LLC ธุรกิจเหล่านี้ในที่สุดก็รวมถึงรูปแบบ AMG ขั้นสูงโลหการกลุ่ม NV SIF ยังลงทุนในการบินและอวกาศ PFW เอจีและการสแกนเวเฟอร์ AS ซึ่งในที่สุดก็ถูกรวมเข้าเป็นพลังงานทดแทนคอร์ป AS SIF ได้กลับกว่า US $ 625 ล้านบาทในเงินสดและหุ้นให้กับนักลงทุนถึงวันที่. [5] Schimmelbusch ยังเป็นสมาชิกของคณะกรรมการบริหารของหุ้นส่วนทั่วไปของ SIF ในเดือนพฤศจิกายนปี 2002 เขาได้รับการแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Metallurg นอกจากนี้เขายังทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการของ Metallurg และ Metallurg โฮลดิ้ง. [4] Metallgesellschaft Schimmelbusch เริ่มอาชีพของเขาที่ Metallgesellschaft เอจี (MG เอจี) ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม MG, ในปี 1973 Schimmelbusch เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (1989-1993) ของ Metallgesellschaft เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเยอรมัน. [1] Metallgesellschaft AG อยู่ในแฟรงค์เฟิร์ตเป็นหนึ่งในที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีกลุ่ม บริษัท อุตสาหกรรม มันมีมากกว่า 250 บริษัท ย่อยมีความเชี่ยวชาญในการทำเหมืองแร่, สารเคมีชนิดพิเศษ (CHEMETALL) การซื้อขายสินค้าบริการทางการเงินและวิศวกรรม (Lurgi) ภายใต้การนำของซีอีโอ Schimmelbusch ที่ Metallgesellschaft ป้อนธุรกิจน้ำมันที่ได้จากการขายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับลูกค้า (เช่นสถานีน้ำมัน) ผ่าน บริษัท ย่อยอเมริกัน, MG การกลั่นและการตลาดในรูปแบบของราคาคงที่สัญญาระยะยาว (10 ปีขึ้นไป) ได้. [6 ] Metallgesellschaft พยายามที่จะป้องกันความเสี่ยงของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในตลาดฟิวเจอร์ส. [1] แต่น่าเสียดายที่ในปี 1993 ราคาน้ำมันเริ่มลดลงและกลยุทธ์อนุพันธ์ Metallgesellschaft กลายเป็นความสูญเสียกระดาษกว้างขวาง. [6] ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท ฯ , ธนาคารดอยซ์แบงก์พบ ออกมาและตอบสนองโดยการเบียด Schimmelbusch และชำระบัญชีตำแหน่ง Metallgesellschaft ซึ่งเปิดการสูญเสียเสมือนได้เข้าไปความสูญเสียจริง [6] การตัดสินใจโดยคณะกรรมการกำกับ MG เอจีที่จะจบโปรแกรม MG การกลั่นและการตลาด (MGRM) 's ตลาดในช่วงต้น -. กับการประท้วงดังมาจาก Schimmelbusch และคณะกรรมการบริหารจัดการ - ตกตะกอนความขัดแย้งระหว่างประเทศขนาดใหญ่ Metallgesellschaft เกือบล้มละลายหลังจากที่สูญเสียประมาณ $ 1.3 พันล้านในการเดิมพันเก็งกำไรในตลาดน้ำมันในอนาคต. ในบรรดาหลายคนวิเคราะห์น้ำท่วม MGRM เป็นช่วงปลายรางวัลโนเบลเมอร์ตันมิลเลอร์และคริส Culp พวกเขาช่วยกันเขียนบทความและเจ็ดร่วมแก้ไขหนังสือเล่มหนึ่งในความพยายามที่จะอธิบายสิ่งที่เป็นจริงที่เกิดขึ้นที่ MGRM มันเป็นความยุติธรรมที่จะบอกว่าในการหวนกลับมิลเลอร์และ Culp เป็นอย่างสูงที่เห็นอกเห็นใจต่อ Schimmelbusch และทีมงานของเขา นี้ไม่ได้เป็นของหลักสูตรว่าทำไมพวกเขาเขียน ในความเป็นจริงศาสตราจารย์มิลเลอร์และคริส Culp มติต้นในการวิเคราะห์ของพวกเขา MGRM ที่จะรักษาความน่าเชื่อถือในการเผชิญกับความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นพวกเขาจะไม่ยอมรับการชำระเงินใด ๆ สำหรับการใด ๆ ของการทำงานที่มิได้พวกเขาจะสื่อสารกับใด ๆ ของผู้เล่นหลักที่ MGRM หรือ MG เอจี ศาสตราจารย์มิลเลอร์และคริส Culp ถูกเพียงการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและเศรษฐศาสตร์ของคดี ที่ว่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าการป้องกันการกระทำ Schimmelbusch เป็นผลมาจากข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นความพยายามโดยเจตนาในส่วนของพวกเขา. [7] MG และ Schimmelbusch คดีกับ MG แม้กระทั่งช่วยในการจ่ายค่าธรรมเนียมตามกฎหมายของเขา. [1] ที่ผ่านมาดำรงตำแหน่งกรรมการSchimmelbusch ของ กรรมการยังได้รวม MMC Norilsk นิกเกิลอลิอันซ์ประกันภัยแบงก์น้ำมันโมบิลเอจี Teck Cominco จำกัด และ Methanex คอร์ปอเรชั่น. [4] Schimmelbusch ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของประธานาธิบดีของสหพันธรัฐเยอรมัน Industries (BDI) และประธานของนานาชาติ หอการค้า (ICC). [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อดีต [ แก้ไข ]กองทุนระหว่างประเทศซึ่งป้องกัน ,ในปี 1997 schimmelbusch ร่วมกับ ไมเคิล อาร์ อาร์ อาร์ สเป็กเตอร์ขึ้นฮอลลี่และปกป้องระหว่างประเทศกองทุน Global ( SIF ) , กองทุนหุ้นเอกชนที่ US $ 305 ล้านทุนภายใต้การจัดการ มันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้กิจการของเทคโนโลยีเชิงโลหะธุรกิจในอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก [ 4 ] ซิฟา 10 การลงทุนหลัก รวมทั้งเมตา Holdings , Inc ald เทคโนโลยีสูญญากาศและโฮลดิ้ง GmbH sudamin LLC ธุรกิจเหล่านี้ในที่สุดผสานฟอร์มทีมงานกลุ่มโลหะขั้นสูง AMGเออยังลงทุนใน pfw อวกาศ และสแกน เวเฟอร์เป็น , ซึ่งในที่สุดรวมเข้าพลังงานทดแทน Corp . เออ กลับมาเกิน US $ 625 ล้านในเงินสดและหุ้นให้กับนักลงทุนถึงวันที่ [ 5 ]schimmelbusch ยังเป็นสมาชิกของคณะกรรมการบริหารของ หุ้นส่วนทั่วไปของ ซิฟ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2002 เขาได้รับการแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมตา . นอกจากนี้เขายังทำหน้าที่เป็นประธานของคณะกรรมการและเมตาเมตา ) [ 5 ]เมทัลเกเซลชาฟท์เริ่มอาชีพของเขาที่ schimmelbusch เมทัลเกเซลชาฟท์ เอจี ( มก. AG ) , ที่รู้จักกันเป็นมิลลิกรัม ใน 1973 schimmelbusch เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ( พ.ศ. 2536 ) ของเมทัลเกเซลชาฟท์ เยอรมันกลุ่มอุตสาหกรรม [ 1 ] เมทัลเกเซลชาฟท์ AG อยู่ในแฟรงค์เฟิร์ตเป็นหนึ่งในกลุ่ม บริษัท อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี มันมีมากกว่า 250 บริษัท นริศในเหมืองแร่ , สารเคมีชนิดพิเศษ ( chemetall ) การซื้อขายสินค้า , บริการทางการเงินและวิศวกรรม ( lurgi ) ภายใต้ การนำของ CEO schimmelbusch เมทัลเกเซลชาฟท์ , ป้อนธุรกิจน้ำมัน โดยการขายน้ำมันให้กับลูกค้า ( เช่นสถานีน้ำมันเบนซิน ) ผ่าน บริษัท ย่อยของอเมริกัน , Mg การกลั่นและการตลาดในรูปแบบของการกำหนดราคาสัญญาระยะยาว ( 10 ปี ) [ 6 ] เมทัลเกเซลชาฟท์พยายามที่จะป้องกันความเสี่ยงของการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในอนาคต ตลาด [ 1 ] แต่ในปี 1993 ราคาน้ำมันเริ่มลดลง และเมทัลเกเซลชาฟท์ของอนุพันธ์กลยุทธ์กลายเป็นขาดทุนกระดาษอย่างละเอียด [ 6 ] ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ธนาคารดอยช์แบงก์พบ และตอบสนองด้วยการเบียด schimmelbusch liquidating เมทัลเกเซลชาฟท์และตำแหน่งซึ่งเปลี่ยนขาดทุนเป็นขาดทุนเสมือนจริง [ 6 ] การตัดสินใจโดย มิลลิกรัมโดยคณะกรรมการจะจบม. ก. การกลั่นและการตลาด ( mgrm ) ของโปรแกรมการตลาดต้น - ต่อต้านการประท้วงดังจาก schimmelbusch และกรรมการบริหาร - ตกตะกอนข้อพิพาทระหว่างประเทศขนาดใหญ่ เมทัลเกเซลชาฟท์เกือบจะล้มละลายหลังจากการสูญเสียประมาณ $ 1.3 พันล้านดอลลาร์ในการเดิมพันในตลาดน้ำมันในอนาคตระหว่างมากมายที่วิเคราะห์ mgrm ท่วมเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบล สายเมอร์ตันมิลเลอร์และคริสโตเฟอร์ คัลป์ . พวกเขาร่วมกันเขียนบทความและร่วมแก้ไขเจ็ดเล่มหนึ่งพยายามที่จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นจริงใน mgrm . มันยุติธรรมที่จะกล่าวว่าในการหวนกลับ มิลเลอร์ และ คาลมีสงสาร schimmelbusch และทีมงานของเขา นี่ไม่ใช่แน่นอน ทำไมเขาเขียนไว้ ในความเป็นจริง , ศาสตราจารย์ มิลเลอร์ และ คริสโตเฟอร์ คัลพ์แก้ไขเร็วในการวิเคราะห์ของพวกเขา mgrm ที่จะรักษาความน่าเชื่อถือในหน้าของการถกเถียง พวกเขาจะไม่รับการชำระเงินใด ๆที่ทำงาน หรือพวกเขาจะสื่อสารกับใด ๆของผู้เล่นหลักที่ mgrm หรือมิลลิกรัมรุ่น ศาสตราจารย์ มิลเลอร์ และ คริสโตเฟอร์ คัลพ์เป็นเพียง วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและเศรษฐศาสตร์ของคดี มันพิสูจน์แล้วว่าเป็นการป้องกันการกระทำของ schimmelbusch เป็นเวรของข้อเท็จจริง ไม่ใช่เจตนาความพยายามในส่วนของพวกเขา . [ 7 ] mg และ schimmelbusch ตัดสินคดีความกับ MG จะช่วยจ่ายค่าธรรมเนียมทางกฎหมายของเขา [ 1 ]อดีต directorshipsschimmelbusch เป็น directorships ประกอบด้วย MMC Norilsk Nickel อลิอันซ์ประกันภัยบริษัทน้ำมันเอจี เต็ก cominco เมทาเน็กซ์ จำกัด และ บริษัท . [ 5 ]schimmelbusch ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกของประธานสภาอุตสาหกรรมเยอรมัน ( BDI ) และประธานหอการค้าระหว่างประเทศ ( ICC ) [ 2 ]