ชื่อวิทยาศาสตร์: Canna spp. and hyb

ชื่อวิทยาศาสตร์: Canna spp. and hybrid
ชื่อวงศ์: Cannaceae
ชื่อสามัญ: Indian shot, Canna
ชื่อพื้นเมือง: พุทธศร ดอกบัวละวง
ลักษณะทั่วไป:
ต้น เป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อน อวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร
ใบ ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ่งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตรยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร
ดอก สีแดง แสด เหลือง ชมพู ขาว ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่ง ทยอยบานทีละ 1-3 ดอก ช่อดอกยาว 15- 20 เซนติเมตร ช่อละ 8-10 ดอก กลีบเลี้ยง 3 กลีบ ขนาดเล็กสีเขียวอ่อน กลีบดอก 3 กลีบ ดอกบานเต็มที่กว้าง 8-9 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้ซึ่งเปลี่ยนรูปร่างไปเหมือนกลีบดอกมีขนาดใหญ่
ฝัก/ผล ผลแห้งแตก ทรงกลม
เมล็ด เมล็ดทรงกลม ขนาด 2-6 เซนติเมตร ผิวขรุขระ จำนวนหลายเมล็ด
ฤดูกาลออกดอก: ตลอดปี
การปลูก: ปลูกในแปลงปลูก และปลูกในกระถาง
การดูแลรักษา: ชอบแสงรำไร หรือแสงแดดจัดกลางแจ้ง ชอบดินเหนียวชุ่มชื้นและมีอินทรียวัตถุสูง หรือที่ระดับน้ำ 10-20 เซนติเมตร
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด แยกหน่อ แยกเหง้า
การใช้ประโยชน์:
- ไม้ประดับ
- สมุนไพร
สรรพคุณทางยา:
- ดอก ตำพอกห้ามเลือด รักษาแผลหนอง
- ใบ แก้อาการจุกเสียด แก้ท้องเสีย แก้อาเจียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชื่อวิทยาศาสตร์: โอคันนาและไฮบริดชื่อวงศ์: กลับสู่ชื่อสามัญ: อินเดียยิง คันนาชื่อพื้นเมือง: พุทธศรดอกบัวละวงลักษณะทั่วไป: ต้นเป็นพรรณไม้ล้มลุกเนื้ออ่อนอวบน้ำลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตรมีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่าเหง้ามีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วยลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลมขอบใบเรียบกลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ่งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกันขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตรยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร ดอกสีแดงแสดเหลืองชมพูขาวออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่งทยอยบานทีละ 1-3 ดอกช่อดอกยาว 15-20 เซนติเมตรช่อละ 8-10 ดอกกลีบเลี้ยง 3 กลีบขนาดเล็กสีเขียวอ่อนกลีบดอก 3 กลีบดอกบานเต็มที่กว้าง 8-9 เซนติเมตรมีเกสรตัวผู้ซึ่งเปลี่ยนรูปร่างไปเหมือนกลีบดอกมีขนาดใหญ่ ฝัก/ผลผลแห้งแตกทรงกลม เมล็ดเมล็ดทรงกลมขนาด 2-6 เซนติเมตรผิวขรุขระจำนวนหลายเมล็ดฤดูกาลออกดอก: ตลอดปีการปลูก: ปลูกในแปลงปลูกและปลูกในกระถางการดูแลรักษา: ชอบแสงรำไรหรือแสงแดดจัดกลางแจ้งชอบดินเหนียวชุ่มชื้นและมีอินทรียวัตถุสูงหรือที่ระดับน้ำ 10-20 เซนติเมตรการขยายพันธุ์: เพาะเมล็ดแยกหน่อแยกเหง้าการใช้ประโยชน์: -ไม้ประดับ -สมุนไพรสรรพคุณทางยา: -ดอกตำพอกห้ามเลือดรักษาแผลหนอง -ใบแก้อาการจุกเสียดแก้ท้องเสียแก้อาเจียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชื่อวิทยาศาสตร์: พุทธรักษาเอสพีพี และไฮบริด
ชื่อวงศ์: Cannaceae
ชื่อสามัญ: ยิงอินเดีย, พุทธรักษา
ชื่อพื้นเมือง: พุทธศรดอกบัวละวง
ลักษณะทั่วไป:
ต้นเป็นพรรณไม้ล้มลุกเนื้ออ่อนอวบน้ำลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตรมีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่าเหง้า 2-4 เซนติเมตร
หาคน ขอบใบเรียบ ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตรยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร
ดอกสีแดงแสดเหลืองชมพูขาว ทยอยบานทีละ 1-3 ดอกช่อดอกยาว 15- 20 เซนติเมตรช่อละ 8-10 ดอกกลีบเลี้ยง 3 กลีบขนาดเล็กสีเขียวอ่อนกลีบดอก 3 กลีบดอกบานเต็มที่กว้าง 8-9 เซนติเมตร
ผลแห้งแตกทรงกลม
ยังยังทรงกลมขนาด 2-6 เซนติเมตรผิวขรุขระจำนวนหลายยัง
สายน้ำและศรัทธาออกดอก: ตลอดปี
การปลูก: ปลูกในแปลงปลูกและปลูกในกระถาง
การดูแลรักษา: ชอบแสงรำไรหรือแสงแดดจัดกลางแจ้ง หรือที่ระดับน้ำ 10-20 เซนติเมตร
การขยายพันธุ์: เพาะยังแยกหน่อแยกเหง้า
การใช้ประโยชน์:
- ไม้ประดับ
- สมุนไพร
สรรพคุณทางยา:
- ดอกตำพอกห้ามเลือดรักษาแผลหนอง
- ใบแก้อาการจุกเสียดแก้ท้องเสียแก้อาเจียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชื่อวิทยาศาสตร์ : spp . พุทธรักษา และลูกผสมชื่อวงศ์

: แคนเนซีอีชื่อสามัญ : อินเดียยิงแคน
ชื่อพื้นเมืองพุทธศรดอกบัวละวงลักษณะทั่วไป :

:ต้นเป็นพรรณไม้ล้มลุกเนื้ออ่อนอวบน้ำลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตรมีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่าเหง้ามีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย2-4 เซนติเมตร
ใบใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลมขอบใบเรียบกลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ่งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกันขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตรยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร
ดอกสีแดงแสดเหลืองชมพูขาวออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่งทยอยบานทีละ 1-3 ดอกช่อดอกยาว 15 - 20 เซนติเมตรช่อละ 8-10 ดอกกลีบเลี้ยง 3 กลีบขนาดเล็กสีเขียวอ่อนกลีบดอก 3 กลีบดอกบานเต็มที่กว้าง 8-9 เซนติเมตรฝัก / way back ผลแห้งแตกทรงกลม
เมล็ดเมล็ดทรงกลม Friday ' 2-6 เซนติเมตรผิวขรุขระจำนวนหลายเมล็ด
ฤดูกาลออกดอก : ตลอดปี
การปลูก : ปลูกในแปลงปลูกและปลูกในกระถาง
การดูแลรักษา :ชอบแสงรำไรหรือแสงแดดจัดกลางแจ้งชอบดินเหนียวชุ่มชื้นและมีอินทรียวัตถุสูงหรือที่ระดับน้ำ 10-20 เซนติเมตร
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ดแยกหน่อแยกเหง้าการใช้ประโยชน์ :
-

- ไม้ประดับสมุนไพร

สรรพคุณทางยา :- ดอกตำพอกห้ามเลือดรักษาแผลหนอง
- ใบแก้อาการจุกเสียดแก้ท้องเสียแก้อาเจียน