Extinction is a fact. Ever since or

Extinction is a fact. Ever since organic life fi rst evolved on this planet, life forms have been changing. New species have arisen and old ones have gone extinct (Raup 1992). Speciation, the birth of new species, and extinction, the death of species, are as natural events in evolution as birth and death of individuals in demography. Seen over the entire history of organic life on Earth, biodiversity has generally increased. There has been a build up of life forms. However, fi ve times in the evolutionary past of the planet have mass extinction events taken place. The so-called big fi ve are periods when the rate of extinction of species has become vastly elevated and have outnumbered the level of new species form- ing (Raup 1994). It is now established that some of the elevated levels of mass extinction coincide with major celestial impacts on the Earth’s surface and their climatic consequences, although some workers advocate more complex scenarios that include a number of factors that may explain mass extinction (Erwin 2006). Today we are witnessing a sixth major mass extinction event and this time celes- tial impact has nothing to do with it. It is beyond doubt that this event is caused by the activities of one of the species inhabiting the Earth: modern humans. I can think of no other scientifi c activity more important than trying to understand the causes and consequences of this contemporary mass extinction. This book is therefore concerned with a proposition put forward some years ago that extinc- tion of species is somehow related to loss of genetic variation. It has been suggested that genetic variation is crucial for the persistence of populations (Soulé 1980, 1986, 1987, Frankel and Soulé 1981, Gilpin and Soulé 1986). Two reasons have been given. In the short term, inbreeding and gen- etic drift leads to lower fi tness of individuals and increased extinction risk of populations. In the long term, populations that lose genetic variation cannot evolve since evolution cannot proceed without genetic variation. In a world of rapid environmental change, any population that is unable to adapt to changing conditions will go extinct (Spielman et al. 2004).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดับเป็นความจริง ตั้งแต่ rst ไร้ชีวิตอินทรีย์พัฒนาในโลกนี้ รูปแบบของชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง มีเกิดสปีชีส์ใหม่ และคนเก่าได้ไปสูญ (Raup 1992) การเกิดสปีชีส์ใหม่ และดับ ตาย พันธุ์ การเกิดสปีชีส์ใหม่เป็นเหตุการณ์ธรรมชาติในวิวัฒนาการเกิดและตายของแต่ละบุคคลเฟนฮอว์ เห็นผ่านประวัติศาสตร์ทั้งหมดของชีวิตอินทรีย์ในโลก ความหลากหลายทางชีวภาพโดยทั่วไปขึ้น ได้มีการสร้างขึ้นของรูปแบบของชีวิต อย่างไรก็ตาม เวลา ve ไร้สายในผ่านมาวิวัฒนาการของดาวเคราะห์มีเหตุการณ์สูญพันธุ์จำนวนมากที่เกิดขึ้น Ve ไร้สายขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเป็นระยะเมื่ออัตราสูญพันธุ์ของชนิดได้กลายเป็นเสมือนยก และมีปล้นสะดมระดับของใหม่ชนิดแบบฟอร์ม-ing (Raup 1994) คือตอนนี้ก่อตั้งบางระดับสูงสูญพันธุ์จำนวนมากสอดคล้องกับผลกระทบต่อคนสำคัญบนพื้นผิวของโลกและผลกระทบของ climatic ถึงแม้ว่าบางคนสนับสนุนสถานการณ์ซับซ้อนขึ้นที่รวมถึงปัจจัยที่อาจอธิบายการสูญพันธุ์ใหญ่ (แอร์ 2006) วันนี้เรามีพยานที่หกหลักเหตุการณ์การสูญพันธุ์จำนวนมาก และนี้เวลา celes tial ผลกระทบมีอะไรบ้าง เป็นรัฐบาลที่เกิดนี้ โดยกิจกรรมหนึ่งของสปีชีส์ที่อาศัยอยู่โลก: มนุษย์สมัยใหม่ ผมสามารถคิดได้ไม่ scientifi c กิจกรรมอื่น ๆ สำคัญกว่าการพยายามทำความเข้าใจสาเหตุและผลของการสูญพันธุ์โดยรวมนี้ร่วมสมัย หนังสือเล่มนี้จึงเกี่ยวข้องกับข้อเสนอที่นำปีผ่านมาที่ extinc-สเตรชันพันธุ์อย่างใดเกี่ยวข้องกับสูญเสียการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม มันได้ถูกแนะนำว่า การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในการคงอยู่ของประชากร (Soulé 1980, 1986, 1987, Frankel และ Soulé 1981 กิลพินลอดจ์ และ Soulé 1986) รับสองประการ ในระยะสั้น ดริฟท์ etic inbreeding และ gen - เป้าหมายต่ำไร้สาย tness บุคคลและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เพิ่มขึ้นของประชากร ในระยะยาว ประชากรที่สูญเสียการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมไม่สามารถวิวัฒนาการ เพราะวิวัฒนาการไม่สามารถดำเนินการ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ในโลกของการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว มีประชากรที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขจะไปสูญ (Spielman et al. 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสูญพันธุ์เป็นความจริง นับตั้งแต่ Fi ชีวิตอินทรีย์แรกวิวัฒนาการมาบนโลกใบนี้รูปแบบของชีวิตที่ได้รับการเปลี่ยนแปลง สายพันธุ์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นและคนเก่าได้ไปสูญพันธุ์ (Raup 1992) speciation, กำเนิดของสายพันธุ์ใหม่และการสูญเสียการเสียชีวิตของสปีชีส์ที่จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในการวิวัฒนาการการเกิดและการตายของบุคคลในประชากร เห็นในช่วงประวัติศาสตร์ทั้งหมดของชีวิตอินทรีย์บนโลกความหลากหลายทางชีวภาพได้เพิ่มขึ้นโดยทั่วไป ได้มีการสร้างขึ้นของรูปแบบของชีวิต อย่างไรก็ตาม Fi และครั้งในอดีตวิวัฒนาการของโลกได้สูญเสียมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เรียกว่าไฟขนาดใหญ่และช่วงเวลาที่เมื่ออัตราการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์ที่ได้กลายเป็นที่สูงขึ้นอย่างมากมายและได้มากกว่าระดับของสายพันธุ์ใหม่บนเว็บไอเอ็นจี (Raup 1994) จะจัดตั้งขึ้นในขณะนี้ว่าบางส่วนของระดับสูงของการสูญเสียมวลตรงกับผลกระทบสวรรค์สำคัญในพื้นผิวโลกและผลกระทบของสภาพภูมิอากาศของพวกเขาแม้ว่าพนักงานบางส่วนสนับสนุนสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นที่มีหลายปัจจัยที่อาจอธิบายได้ว่าการสูญเสียมวล (เออร์วิน 2006) วันนี้เราจะเป็นพยานมวลที่สำคัญที่หกเหตุการณ์การสูญเสียและในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อ tial celes- มีอะไรจะทำอย่างไรกับมัน มันอยู่นอกเหนือข้อสงสัยว่าเ​​หตุการณ์นี้เกิดจากกิจกรรมของหนึ่งในสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในโลก: มนุษย์สมัยใหม่ ฉันจะคิดว่าไม่มีกิจกรรมค Scientifi อื่น ๆ ที่สำคัญมากกว่าการพยายามที่จะเข้าใจสาเหตุและผลกระทบของการสูญเสียมวลร่วมสมัยนี้ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประกวดราคาหลายปีที่ผ่านมาว่าการ extinc- ของสายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใดกับการสูญเสียของการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม มันได้รับการชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการคงอยู่ของประชากร (Soulé 1980, 1986, 1987, แฟรงเคิลและSouléปี 1981 กิลพินและSoulé 1986) ด้วยเหตุผลสองประการได้รับ ในระยะสั้น, แยะและดริฟท์ gen- Etic นำไปสู่​​การลด Fi tness สุขภาพของบุคคลและความเสี่ยงการสูญเสียที่เพิ่มขึ้นของประชากร ในระยะยาวประชากรที่สูญเสียการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมไม่สามารถพัฒนาตั้งแต่วิวัฒนาการไม่สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ในโลกของการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็วประชากรใด ๆ ที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพจะสูญพันธุ์ไป (Spielman et al. 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสูญพันธุ์คือความจริง ตั้งแต่ RST fi อินทรีย์พัฒนาชีวิตบนโลกใบนี้ รูปแบบของชีวิตที่ได้รับการเปลี่ยนแปลง สายพันธุ์ใหม่ได้เกิดขึ้นและของเก่าได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ( รอป 1992 ) ชนิด , ต้นกำเนิดของสปีชีส์ใหม่ และการสูญเสีย ความตายของสายพันธุ์ เป็นเหตุการณ์ธรรมชาติในวิวัฒนาการเป็นกำเนิดและความตายของบุคคลในเมือง . เห็นผ่านประวัติศาสตร์ทั้งหมดของชีวิตอินทรีย์ในดินความหลากหลายทางชีวภาพได้โดยทั่วไปจะเพิ่มขึ้น ได้มีการสร้างขึ้นของรูปแบบชีวิต อย่างไรก็ตาม ฟีได้หลายครั้งในอดีต วิวัฒนาการของดาวเคราะห์มีเหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เกิดขึ้น ที่เรียกว่าใหญ่ Fi ได้มีรอบระยะเวลาเมื่ออัตราการสูญพันธุ์ของสปีชีส์ได้กลายเป็นอย่างมากสูงและมีจำนวนมากกว่าระดับชนิดรูปแบบใหม่ - ing ( รอป 1994 )คือตอนนี้ขึ้นว่าบางส่วนของระดับสูงของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ตรงกับหลักสวรรค์บนพื้นผิวโลก และผลกระทบของภูมิอากาศที่ตามมา แม้ว่าบางคนสนับสนุนสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นมีหลายปัจจัยที่อาจอธิบายการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ( Erwin 2006 )วันนี้เราเป็นพยาน 6 สาขามวลเหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งนี้เซเลส - ผลกระทบ tial ไม่เกี่ยวกับมัน มันคือไม่ต้องสงสัยว่า เหตุการณ์นี้เกิดจากกิจกรรมของสปีชีส์หนึ่งที่อาศัยอยู่ในแผ่นดิน : มนุษย์ที่ทันสมัย ที่ฉันสามารถคิดไม่ scientifi คกิจกรรม สำคัญกว่าการพยายามที่จะเข้าใจสาเหตุและผลกระทบของมวลร่วมสมัยนี้สูญพันธุ์หนังสือเล่มนี้จึงเป็นกังวลกับเรื่องที่หยิบยกบางปีที่ผ่านมา extinc - tion ของสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียของการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม จะได้รับการชี้ให้เห็นว่า ความแปรปรวนทางพันธุกรรมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการคงอยู่ของประชากร ( วิญญาณ ) 1980 , 1986 , 1987 , แฟรงเคิลและวิญญาณจาก 1981 กิลพิ้นและวิญญาณและ 1986 ) สองเหตุผลได้รับ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆขุมขนและ Gen - etic ล่องลอยไปสู่ล่างฟี tness ของแต่ละบุคคล และเพิ่มความเสี่ยงของการสูญเสียประชากร ในระยะยาว , ประชากรที่สูญเสียความหลากหลายทางพันธุกรรมไม่สามารถวิวัฒนาการตั้งแต่วิวัฒนาการไม่สามารถดำเนินการโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ในโลกของการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว ประชากรที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขจะสูญพันธุ์ ( spielman et al . 2004 )