It is also true that, because I bec

It is also true that, because I became an artist during that dark period of my country’s history, I learned to speak between the lines. I learned how to create works that would suggest, instead of being too obvious or direct, because we were under censorship and we were afraid. If there’s anything worse than censorship it’s self-censorship, because you just don’t know what are the limits of the things you can do or say. You had to create a new language in a way, a language that would communicate with people and say the things you wanted to say in a climate of oppression, and at the same time, it shouldn’t be readable to the authorities. That’s the challenge I had when I started . . . I think that I probably learned an enormous amount of things from that period, and I’m sure the lessons learned I’m applying to every single project. - See more at: http://www.artsatl.com/2014/02/qa-alfredo-jaar-scad-speaker-global-gadfly-speaks-truth-power-striking-installations/#sthash.6HOnvVQb.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันเป็นความจริงว่า เนื่องจากเป็นศิลปินช่วงมืดของประวัติศาสตร์ของประเทศของฉัน ฉันรู้พูดระหว่างบรรทัด ฉันเรียนรู้วิธีการสร้างงานที่แนะนำ แทนได้โดย ตรง หรือชัดเกินไปเนื่องจากเราอยู่ภายใต้การเซ็นเซอร์ และเรากลัว ถ้าไม่มีอะไร แย่กว่าเซ็นเซอร์มันเป็นเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะคุณก็ไม่รู้ว่าอะไรคือขีดจำกัดของสิ่งที่คุณสามารถทำ หรือพูด ก็ต้องสร้างภาษาใหม่ในลักษณะ ภาษาที่จะสื่อสารกับคน และพูดในสิ่งที่คุณต้องการพูดในสภาพภูมิอากาศของการกดขี่ และในเวลาเดียวกัน มันควรอ่านหน่วย นั่นคือความท้าทายที่ผมเมื่อผมเริ่ม... ผมคิดว่า คงเรียนจำนวนมหาศาลของสิ่ง และฉันแน่ใจในบทเรียนใช้กับทุกโครงการเดียว -ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.artsatl.com/2014/02/qa-alfredo-jaar-scad-speaker-global-gadfly-speaks-truth-power-striking-installations/#sthash.6HOnvVQb.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้ยังเป็นความจริงที่ว่าเพราะผมกลายเป็นศิลปินในระหว่างช่วงเวลาที่มืดของประวัติศาสตร์ของประเทศของฉันฉันเรียนรู้ที่จะพูดระหว่างบรรทัด ผมได้เรียนรู้วิธีการที่จะสร้างผลงานที่จะขอแนะนำให้แทนที่จะเป็นที่เห็นได้ชัดเกินไปหรือโดยตรงเพราะเราอยู่ภายใต้การเซ็นเซอร์และเราก็กลัว ถ้ามีอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่าการเซ็นเซอร์ก็เซ็นเซอร์ตัวเองเพราะคุณก็ไม่ทราบว่าสิ่งที่เป็นข้อ จำกัด ของสิ่งที่คุณสามารถทำหรือพูด คุณมีการสร้างภาษาใหม่ในทางภาษาที่จะสื่อสารกับผู้คนและพูดในสิ่งที่คุณอยากจะบอกว่าในภาวะของการกดขี่และในขณะเดียวกันก็ไม่ควรจะอ่านให้เจ้าหน้าที่ นั่นคือความท้าทายที่ฉันมีเมื่อฉันเริ่มต้น . . ผมคิดว่าผมอาจได้เรียนรู้จำนวนมหาศาลของสิ่งต่าง ๆ จากงวดนั้น ๆ และฉันแน่ใจว่าบทเรียนที่ได้ฉันการนำไปใช้ในทุกโครงการเดียว - ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันก็จริง เพราะผมเป็นศิลปินในช่วงมืดของประวัติศาสตร์ของประเทศของฉันฉันได้เรียนรู้ที่จะพูดระหว่างบรรทัด ผมได้เรียนรู้วิธีการสร้างผลงานที่ขอแนะนำให้แทนที่ออกนอกหน้าเกินไปหรือโดยตรง เพราะเราอยู่ภายใต้การเซ็นเซอร์ และเรากลัว ถ้ามีอะไรเลวร้ายยิ่งกว่าการเซ็นเซอร์มันการเซ็นเซอร์ตนเองเพราะคุณไม่รู้ว่าอะไรคือขอบเขตของสิ่งที่คุณสามารถทำหรือพูด คุณต้องสร้างภาษาใหม่ในทางภาษาที่จะสื่อสารกับผู้คนและพูดในสิ่งที่คุณต้องการจะพูด ในบรรยากาศของการกดขี่ และในเวลาเดียวกัน มันก็ไม่สามารถอ่านได้ ให้เจ้าหน้าที่ นั่นเป็นความท้าทายที่ฉันได้เมื่อฉันเริ่มต้น . . . . . . .ฉันคิดว่าฉันอาจจะได้เรียนรู้มหาศาลจากช่วงนั้น และผมมั่นใจว่าบทเรียนฉันใช้ทุกโครงการ ดูเพิ่มเติมได้ที่ : http : / / www.artsatl . com / 2010 / 02 / QA อัลเฟรโด้ปีที่สำรวจลำโพงระดับโลกเหลือบพูดความจริงพลังที่โดดเด่น การติดตั้ง / # sthash.6honvvqb.dpuf