Bats are considered the most likely

Bats are considered the most likely natural reservoir of the EBOV, plants, arthropods, and birds were also considered.[1][30] Bats were known to reside in the cotton factory in which the first cases for the 1976 and 1979 outbreaks were employed, and they have also been implicated in Marburg virus infections in 1975 and 1980.[31] Of 24 plant species and 19 vertebrate species experimentally inoculated with EBOV, only bats became infected.[32] The absence of clinical signs in these bats is characteristic of a reservoir species. In a 2002–2003 survey of 1,030 animals including 679 bats from Gabon and the Republic of the Congo, 13 fruit bats were found to contain EBOV RNA fragments.[33] As of 2005, three types of fruit bats (Hypsignathus monstrosus, Epomops franqueti, and Myonycteris torquata) have been identified as being in contact with EBOV. They are now suspected to represent the EBOV reservoir hosts.[34][35] Antibodies against Ebola Zaire and Reston viruses have been found in fruit bats in Bangladesh, thus identifying potential virus hosts and signs of the filoviruses in Asia.[36]

Between 1976 and 1998, in 30,000 mammals, birds, reptiles, amphibians and arthropods sampled from outbreak regions, no ebolavirus was detected apart from some genetic traces found in six rodents (Mus setulosus and Praomys) and one shrew (Sylvisorex ollula) collected from the Central African Republic.[31][37] Traces of EBOV were detected in the carcasses of gorillas and chimpanzees during outbreaks in 2001 and 2003, which later became the source of human infections. However, the high lethality from infection in these species makes them unlikely as a natural reservoir.[31]

Transmission between natural reservoir and humans is rare, and outbreaks are usually traceable to a single case where an individual has handled the carcass of gorilla, chimpanzee or duiker.[38] Fruit bats are also eaten by people in parts of West Africa where they are smoked, grilled or made into a spicy soup.[35][39]

Virology
Main articles: ebolavirus (taxonomic group) and Ebola virus (specific virus)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค้างคาวถือเป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติมัก EBOV พืช arthropods และนกก็ยังถือว่า[1][30] ค้างคาวได้รู้จักการอยู่ในโรงงานฝ้ายซึ่งกรณีแรกสำหรับแพร่กระจาย 1976 และ 1979 ได้รับการว่าจ้าง และพวกเขามียังการเกี่ยวข้องในการติดไวรัส Marburg ใน 1975 และ 1980[31] ค้างคาวเท่านั้นกลายเป็นติดเชื้อของสปีชีส์พืช 24 และ 19 สปีชีส์หลอด experimentally inoculated กับ EBOV[32] การขาดงานของอาการทางคลินิกในค้างคาวเหล่านี้เป็นลักษณะของพันธุ์อ่างเก็บน้ำ ในการสำรวจ 2002 – 2003 รวมทั้งค้างคาว 679 จากประเทศกาบองและสาธารณรัฐคองโกสัตว์ทั้งปี 1030 ค้างคาวผลไม้ 13 พบมีการกระจายตัวของอาร์เอ็นเอ EBOV[33] เป็น 2005 สามชนิดของค้างคาวผลไม้ (Hypsignathus monstrosus, Epomops franqueti และ Myonycteris torquata) ได้รับการระบุเป็นการติดต่อกับ EBOV ตอนนี้พวกเขาสงสัยว่าถึงโฮสต์ EBOV อ่างเก็บน้ำ[34][35] แอนตี้จากไวรัสอีโบลา Zaire และ Reston พบในผลไม้ค้างคาวในประเทศบังกลาเทศ จึง ระบุโฮสต์ไวรัสที่อาจเกิดขึ้นและสัญญาณของ filoviruses ในเอเชีย[36]

ระหว่างปี 1976 และปี 1998, 30000 เลี้ยงลูกด้วยนม นก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ และตัวอย่างจากพื้นที่ระบาด arthropods ebolavirus ไม่พบนอกจากบางร่องรอยทางพันธุกรรมที่พบในงาน 6 (บรรยากาศเป็นกัน setulosus และ Praomys) และหนึ่ง shrew (Sylvisorex ollula) จากสาธารณรัฐแอฟริกากลาง[31][37] ร่องรอยของ EBOV พบในซากของกอริลล่าและ chimpanzees ระหว่างการระบาดในปี 2001 และ 2003 ซึ่งภายหลังกลายเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อในมนุษย์ อย่างไรก็ตาม lethality สูงจากการติดเชื้อในสายพันธุ์เหล่านี้ทำให้พวกเขาไม่น่าเป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติ[31]

ส่งผ่านอ่างเก็บน้ำตามธรรมชาติและมนุษย์มีน้อย และแพร่ระบาดมักจะบังคับกับกรณีเดียวที่บุคคลได้จัดการซากของกอริลล่า ลิงชิมแปนซี หรือ duiker[38] ค้างคาวผลไม้จะยังกินคนในส่วนของแอฟริกาตะวันตกซึ่งมีควัน ย่าง หรือทำเป็นต้มยำ[35][39]

ชเป็น
บทความหลัก: ebolavirus (กลุ่มอนุกรมวิธาน) และไวรัสอีโบลา (เฉพาะไวรัส)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค้างคาวเป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติมากที่สุดของ ebov พืช แมลงและนก ยังถือว่า [ 1 ] [ 30 ] ค้างคาวเป็นที่รู้จักอยู่ในโรงงานฝ้ายในซึ่งกรณีแรกสำหรับปี 2519 1979 ระบาดถูกจ้าง และพวกเขายังได้รับเกี่ยวข้องใน Marburg virus เชื้อใน 1975 และ 1980 .[ 31 ] 24 ชนิด พืชและสัตว์มีกระดูกสันหลังโดย 19 ชนิด ใส่ ebov ค้างคาวกลายเป็นติดเชื้อ [ 32 ] ไม่มีอาการทางคลินิกในค้างคาวเหล่านี้เป็นลักษณะของน้ำชนิด ใน 2002 – 2003 การสำรวจ 1030 สัตว์รวมทั้งมีค้างคาวจากกาบองและสาธารณรัฐคองโก , 13 ค้างคาวผลไม้ที่พบมี ebov RNA เศษ [ 33 ] เมื่อปี 2005สามประเภทของค้างคาวผลไม้ ( hypsignathus monstrosus epomops , franqueti และ myonycteris torquata ) ได้รับการระบุว่าเป็นในการติดต่อกับ ebov . ตอนนี้พวกเขากำลังสงสัยว่าเป็นตัวแทนของ ebov อ่างเก็บน้ำโยธา . [ 34 ] [ 35 ] แอนติบอดีต่อไวรัสอีโบลาเรสตันและซาอีร์ได้รับพบในผลไม้ค้างคาวในบังคลาเทศ จึงระบุโฮสต์ไวรัสที่มีศักยภาพและสัญญาณของ filoviruses ในเอเชีย [ 36 ]

ระหว่าง 2519 และปี 30 , 000 ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แมลงระบาด และเขตภูมิภาค ไม่อีโบราไวรัสที่ตรวจพบ นอกจากบางทางพันธุกรรมที่พบในสัตว์ฟันแทะ ( หกร่องรอยและมัส setulosus praomys ) และ หนึ่ง - - sylvisorex ollula ) รวบรวมจากสาธารณรัฐอัฟริกากลาง[ 31 ] [ 37 ] ร่องรอยของ ebov ถูกตรวจพบในซากของกอริลล่ากับชิมแปนซีในระหว่างการระบาดในปี 2001 และ 2003 ซึ่งต่อมากลายเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อในมนุษย์ อย่างไรก็ตาม สูงไรสีน้ำตาลจากการติดเชื้อในสายพันธุ์เหล่านี้ทำให้พวกเขาไม่น่าจะเป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติ [ 31 ]

ที่ส่งผ่านระหว่างมนุษย์ธรรมชาติ อ่างเก็บน้ำ และหายากและการระบาดมักจะสูงกรณีเดียวที่แต่ละมีการจัดการซากของกอริลลา ชิมแปนซี หรือ Duiker [ 38 ] ค้างคาวผลไม้ก็กิน โดยในส่วนของแอฟริกาตะวันตกที่พวกเขาจะถูกรมควัน ปิ้ง ย่าง หรือทำเป็นซุปเผ็ด [ 35 ] [ 39 ]

ไวรัสวิทยา
หลัก บทความ : อีโบราไวรัส ( บางกลุ่ม ) และอีโบลาไวรัสเฉพาะ )