Recently, technology became availab

Recently, technology became available to allow verification of "true" individual identity. This
technology is based in a field called "biometrics". Biometric access control are automated
methods of verifying or recognizing the identity of a living person on the basis of some
physiological characteristics, such as fingerprints or facial features, or some aspects of the
person's behavior, like his/her handwriting style or keystroke patterns. Since biometric systems
identify a person by biological characteristics, they are difficult to forge. Among the various
biometric ID methods, the physiological methods (fingerprint, face, DNA) are more stable than
methods in behavioral category (keystroke, voice print). The reason is that physiological
features are often non-alterable except by severe injury. The behavioral patterns, on the other
hand, may fluctuate due to stress, fatigue, or illness. However, behavioral IDs have the
advantage of being no intrusiveness. People are more comfortable signing their names or
speaking to a microphone than placing their eyes before a scanner or giving a drop of blood for
DNA sequencing. Face recognition is one of the few biometric methods that possess the merits
of both high accuracy and low intrusiveness. Also, it provides information about Age, gender,
personal identity (physical structure), Mood and emotional state (facial expression) and Interest
/ attentional focus (direction of gaze). However, even after decades of research, face is still an
active topic because of the variability observed in face due to illumination[11], pose, expression
and occlusion[12]. A new challenge to face recognition is facial plastic surgery[8]. These
surgeries alters the facial features to such an extent that human being often struggle to identify
a person face after surgery. The Fig. 1 shows an example of the effect of plastic surgery on facial
appearances.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ล่าสุด เทคโนโลยีกลายเป็นพร้อมใช้งานให้ตรวจสอบ "เป็น" ตัวตนแต่ละ นี้เทคโนโลยีตั้งอยู่ในเขตที่เรียกว่า "ชีวภาพ" ควบคุมตรวจสอบทางชีวภาพได้โดยอัตโนมัติวิธีการตรวจสอบ หรือจดจำข้อมูลประจำตัวของผู้อยู่อาศัยโดยบางลักษณะสรีรวิทยา เช่นลายนิ้วมือ หรือผิวหน้า หรือลักษณะบางประการของการลักษณะของบุคคล เช่นเขา/เธอลายมือลักษณะหรือกดแป้นพิมพ์รูปแบบ ตั้งแต่ระบบการตรวจสอบทางชีวภาพระบุบุคคลตามลักษณะชีวภาพ พวกเขายากต่อการปลอมแปลง ในต่าง ๆตรวจสอบทางชีวภาพ ID วิธี วิธีการสรีรวิทยา (ลายนิ้วมือ ใบหน้า ดีเอ็นเอ) จะมั่นคงกว่าวิธีการในประเภทพฤติกรรม (แป้นพิมพ์ การพิมพ์เสียง) เหตุผลคือที่สรีรวิทยาลักษณะการทำงานมักไม่-alterable ยกเว้น โดยการบาดเจ็บรุนแรง รูปแบบพฤติกรรม อื่น ๆมือ อาจผันผวนเนื่อง จากความเครียด ความอ่อนเพลีย เจ็บป่วย อย่างไรก็ตาม มีรหัสพฤติกรรมของ intrusiveness ไม่ได้ คนจะสะดวกสบายมากขึ้นที่เซ็นชื่อ หรือพูดไมโครโฟน กว่าทำตาก่อนสแกนเนอร์ให้หยดเลือดในลำดับดีเอ็นเอ จดจำใบหน้าเป็นหนึ่งในวิธีการตรวจสอบทางชีวภาพหลายที่มีบุญทั้งความแม่นยำสูงและต่ำสุดที่ intrusiveness ยัง จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุ เพศตัวตนส่วนบุคคล (โครงสร้าง), อารมณ์ และสภาวะทางอารมณ์ (สีหน้า) และดอกเบี้ย/ attentional โฟกัส (ทิศทางของสายตา) อย่างไรก็ตาม แม้หลังจากทศวรรษวิจัย หน้ายังคงเป็นการหัวข้อที่ใช้งานอยู่เนื่องจากความแปรผันที่สังเกตหน้าเนื่องจากรัศมี [11], ก่อให้เกิด นิพจน์และไม่ควรมองข้าม [12] เผชิญกับการท้าทายใหม่คือ หน้าศัลยกรรม [8] เหล่านี้ผ่าตัดเปลี่ยนแปลงทำหน้าถึงขนาดที่มนุษย์กำลังต่อสู้มักจะระบุใบหน้าคนหลังการผ่าตัด Fig. 1 แสดงตัวอย่างของผลของการศัลยกรรมบนใบหน้านัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเร็ว ๆ นี้กลายเป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่เพื่อให้การตรวจสอบของ "จริง" เอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล นี้
เทคโนโลยีที่ตั้งอยู่ในเขตที่เรียกว่า "ชีวภาพ" การควบคุมการเข้าถึง Biometric โดยอัตโนมัติ
วิธีการในการตรวจสอบหรือการรับรู้ถึงความเป็นตัวตนของคนที่อาศัยอยู่บนพื้นฐานของบาง
ลักษณะทางสรีรวิทยาเช่นรอยนิ้วมือหรือใบหน้าหรือบางแง่มุมของ
พฤติกรรมของบุคคลเช่น / ลักษณะลายมือของเธอหรือรูปแบบการกดแป้นพิมพ์ของเขา เนื่องจากระบบไบโอเมตริกซ์
ระบุตัวบุคคลตามลักษณะทางชีวภาพพวกเขาเป็นเรื่องยากที่จะปลอม ท่ามกลางต่างๆ
วิธี ID ไบโอเมตริกซ์, วิธีการทางสรีรวิทยา (ลายนิ้วมือใบหน้า DNA) มีเสถียรภาพมากขึ้นกว่า
วิธีการในหมวดหมู่พฤติกรรม (การกดแป้นพิมพ์พิมพ์เสียง) เหตุผลก็คือว่าทางสรีรวิทยา
คุณสมบัติมักจะมีที่ไม่ผันแปรยกเว้นโดยได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง รูปแบบพฤติกรรมในอื่น ๆ
มืออาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความเครียดเมื่อยล้าหรือเจ็บป่วย แต่หมายเลขพฤติกรรมมี
ความได้เปรียบของการเป็นก้าวก่ายไม่มี ผู้คนมีความสะดวกสบายมากขึ้นการเซ็นชื่อของพวกเขาหรือ
พูดกับไมโครโฟนกว่าการวางสายตาของพวกเขาก่อนที่จะสแกนเนอร์หรือให้หยดเลือดสำหรับ
ลำดับดีเอ็นเอ จดจำใบหน้าเป็นหนึ่งในวิธีไบโอเมตริกซ์ไม่กี่คนที่มีประโยชน์
ของทั้งสองมีความแม่นยำสูงและการก้าวก่ายต่ำ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุเพศ
ส่วนบุคคล (โครงสร้างทางกายภาพ), อารมณ์และสภาพอารมณ์ (การแสดงออกทางสีหน้า) และดอกเบี้ย
/ ตั้งใจโฟกัส (ทิศทางของสายตา) อย่างไรก็ตามแม้หลังจากหลายทศวรรษของการวิจัยใบหน้ายังคงเป็น
หัวข้อที่ใช้งานเพราะความแปรปรวนที่สังเกตได้ในหน้าเนื่องจากการส่องสว่าง [11], ก่อให้เกิดการแสดงออก
และการบดเคี้ยว [12] ความท้าทายใหม่ที่จะเผชิญกับการรับรู้คือการผ่าตัดพลาสติกใบหน้า [8] เหล่านี้
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการผ่าตัดใบหน้าดังกล่าวเท่าที่มนุษย์มักจะต่อสู้เพื่อระบุ
ใบหน้าของบุคคลหลังการผ่าตัด รูป 1 แสดงตัวอย่างของผลกระทบจากการทำศัลยกรรมพลาสติกบนใบหน้า
ที่ปรากฏ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเร็ว ๆนี้เทคโนโลยีเป็นใช้ได้ให้ตรวจสอบ " เฉพาะตัวจริง " เทคโนโลยีนี้
อยู่ในช่องที่เรียกว่า " ชีวภาพ " การควบคุมการเข้าถึง Biometric อัตโนมัติ
วิธีการตรวจสอบหรือรับรู้ตัวตนของมนุษย์บนพื้นฐานของลักษณะทางสรีรวิทยาบาง
เช่นลายนิ้วมือหรือใบหน้า หรือบางแง่มุมของพฤติกรรม
บุคคลชอบลายมือของเขา / เธอสไตล์หรือรูปแบบการกดแป้นพิมพ์ . ระบบไบโอเมตริก ระบุตั้งแต่
บุคคลโดยลักษณะทางชีวภาพ พวกเขาจะยากที่จะปลอมได้ ระหว่างต่างๆ
Biometric ID วิธีการ , วิธีการทางสรีรวิทยา ( ลายนิ้วมือใบหน้า ดีเอ็นเอ ) จะมั่นคงกว่า
วิธีการในประเภทพฤติกรรม ( การกดแป้นพิมพ์เสียงพิมพ์ ) เหตุผลคือ สรีรวิทยา
คุณลักษณะมักจะไม่ผันแปร นอกจากการบาดเจ็บรุนแรง รูปแบบพฤติกรรม บนมืออื่น ๆ
, อาจผันผวน จากความเครียด การเจ็บป่วย อ่อนเพลีย หรือ อย่างไรก็ตาม รหัสพฤติกรรมมี
ประโยชน์ของการไม่มีความเจ้ากี้เจ้าการ . ผู้คนมีความสะดวกสบายเซ็นต์ชื่อหรือ
พูดกับไมโครโฟนมากกว่าวางดวงตาก่อนสแกน หรือให้เลือดเพื่อ
การจัดลำดับดีเอ็นเอ