When Count Anton-Wolfgang von Faber

When Count Anton-Wolfgang von Faber-Castell took up his inheritance of the world’s largest pencil empire in 1978, he became the eighth generation of a highly successful entrepreneurial dynasty. Initially, the former investment banker felt little desire to take on the task. But then he got down to the job with growing interest, using his entrepreneurial acumen to create a premium global brand that is now represented in more than 100 countries — with a range comprising more than 2,000 writing, drawing and creative design products for children, artists, professionals and lovers of high-quality writing implements. Throughout, he has been guided by the values of his ancestors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อจำนวนแอนตันโวล์ฟกังฟอน Faber-Castell เอาขึ้นมรดกของเขาของจักรวรรดิดินสอใหญ่ที่สุดในโลกในปี 1978 เขาก็กลายเป็นรุ่นที่แปดของราชวงศ์ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในขั้นต้นวาณิชธนกิจอดีตรู้สึกความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะใช้ในงาน แต่แล้วเขาได้ลงไปที่งานที่มีความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นโดยใช้ความเฉียบแหลมทางผู้ประกอบการของเขาในการสร้างแบรนด์ระดับโลกที่พรีเมี่ยมที่มีตัวแทนอยู่ในขณะนี้ในกว่า 100 ประเทศ - มีช่วงประกอบด้วยมากกว่า 2,000 การเขียน, การวาดภาพและการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กศิลปิน มืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบในการเขียนที่มีคุณภาพสูงนำไปปฏิบัติ ตลอดเขาได้รับการแนะนำโดยค่าของบรรพบุรุษของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อนับแอน Wolfgang von Faber กา ตลเอาขึ้นมรดกของเขาของจักรวรรดิดินสอที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปี 1978 เขาได้กลายมาเป็นรุ่นที่แปดของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ไดนาสตี้ ตอนแรก อดีตนายธนาคารการลงทุนรู้สึกเล็ก ๆน้อย ๆความปรารถนาที่จะใช้ในงาน แต่แล้วเขาก็ลงไปทำงานกับขึ้นดอกเบี้ยใช้เชาวน์ปัญญา entrepreneurial ของเขาเพื่อสร้างแบรนด์ระดับโลกพรีเมี่ยมที่ตอนนี้แสดงในมากกว่า 100 ประเทศ มีช่วงประกอบด้วยมากกว่า 2000 เขียน วาดรูป และออกแบบผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์สำหรับเด็ก , ศิลปิน , ผู้เขียนและคนรักของที่มีคุณภาพสูง เครื่องมือ อุปกรณ์ ตลอด เขาได้รับการแนะนำโดยค่า
ของบรรพบุรุษของเขา