Economist Le Dang Doanh warned that

Economist Le Dang Doanh warned that Vietnamese farm produce would face fiercer competition from other countries in the region when the ASEAN Economic Community (AEC) is born at the end of this year.
“The pressure [on local produce] would be much higher when imports from other ASEAN countries to Vietnam become tax-free starting January 1, 2016 [thanks to the AEC],” Doanh said at a forum held in Can Tho city on October 1-2.
But local farmers seem unprepared for the regional integration.
Nguyen Thanh Tam, who owns a one-hectare mangosteen and durian farm in Xuan Hoa Commune in the Mekong Delta province of Soc Trang, said he had no idea about the AEC or the fact that his produce would face more competition from neighboring countries next year.
Ho Viet Hiep, deputy chairman of the people’s committee of the Mekong Delta province of An Giang, said this makes sense.
“We are very passive and have no specific strategy. Even provincial leaders do not know much about the regional integration due to the lack of information from the central government.”
Hoa of the Southern Horticultural Research Institute told Phap Luat TP.HCM (HCMC Law) newspaper that the country needs to set up fruit cooperatives and areas by bringing together farmers and invest in processing and preservation technologies to improve quality and produce stable quantities of fruits.
Doanh said, “It’s urgent to restructure [the agricultural sector], switching to farming on large fields, turning farmers into trained and skilled agricultural workers.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Doanh แดงเลอนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ฟาร์มเวียดนามผลิตจะเผชิญการแข่งขันจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคไม่มีเมื่ออาเซียนเศรษฐกิจชุมชน (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) จะเกิดปลายปีนี้"ความดัน [ใน] จะสูงเมื่อนำเข้าจากประเทศอาเซียนให้เวียดนามเป็นปลอดภาษีเริ่มต้น 1 มกราคม 2016 [ขอบคุณประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน], " Doanh กล่าวว่า เวทีที่จัดขึ้นในเมืองเกิ่นเทอ 1-2 ตุลาคมนี้แต่เกษตรกรในท้องถิ่นดูเหมือนจะเกิดสำหรับการรวมภูมิภาคเหงียน Thanh Tam เจ้าหนึ่ง hectare มังคุดและทุเรียนฟาร์มในซวนฮัว Commune ในในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงจังหวัด Soc ตรัง กล่าวว่า เขามีความคิดเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือความจริงที่เขาผลิตจะเผชิญการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้านปีถัดไปโฮจิมินห์เวียดเฮป รองประธานคณะกรรมการประชาชนของแม่โขงเดลต้าจังหวัดของอันเกียง กล่าวนี้ทำให้รู้สึก"เราเป็นมากแฝง และมีกลยุทธ์เฉพาะไม่ ผู้นำแม้ว่าจังหวัดไม่ทราบมากเกี่ยวกับการรวมภูมิภาคเนื่องจากขาดข้อมูลจากรัฐบาลกลาง"ของ สถาบันวิจัยผลผลิตทางภาคใต้บอกภาพ Luat TP. หนังสือเด็ด ๆ เกี่ยวกับการโรงแรม (โฮจิมินกฎหมายที่ประเทศต้องตั้งผลไม้สหกรณ์และพื้นที่ โดยนำเกษตรกร และการลงทุนในเทคโนโลยีประมวลผลและเก็บรักษาเพื่อปรับปรุงคุณภาพ และปริมาณมีเสถียรภาพของผลิตDoanh กล่าวว่า, "จึงด่วนโครง [ภาคเกษตร], สลับการทำฟาร์มบนเขตข้อมูลขนาดใหญ่ เปิดเกษตรกรเข้าฝึกอบรม และมีทักษะการปฏิบัติงานเกษตร"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเศรษฐศาสตร์ Le Dang Doanh เตือนว่าการผลิตในฟาร์มเวียดนามจะต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเกิดในช่วงปลายปีนี้.
"ความดัน [เกี่ยวกับการผลิตในประเทศ] จะเพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อนำเข้า จากประเทศอาเซียนอื่น ๆ ไปยังประเทศเวียดนามกลายเป็นเริ่มต้นที่ปลอดภาษี 1 มกราคม 2016 [ขอบคุณ AEC] "Doanh กล่าวในฟอรั่มที่จัดขึ้นในเมืองเกิ่นเทตุลาคม 1-2.
แต่เกษตรกรในท้องถิ่นดูเหมือนไม่ได้เตรียมตัวไว้สำหรับการรวมในระดับภูมิภาค.
เหงียน Thanh Tam, ผู้ที่เป็นเจ้าของมังคุดหนึ่งเฮกตาร์และฟาร์มทุเรียนใน Xuan Hoa ชุมชนในจังหวัดสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของ Soc Trang กล่าวว่าเขามีความคิดเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือความจริงที่ว่าการผลิตของเขาจะเผชิญกับการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านในปีถัดไปไม่มี
โฮ Hiep เวียรองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงแห่ง An Giang กล่าวนี้ทำให้รู้สึก.
"เรามีเรื่อย ๆ มากและไม่มีกลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจง แม้ผู้นำจังหวัดไม่ได้รู้มากเกี่ยวกับการรวมกลุ่มในภูมิภาคเนื่องจากการขาดของข้อมูลจากรัฐบาลกลาง.
"ฮัวทางตอนใต้ของสถาบันวิจัยพืชสวนบอกปราบลวดTP.HCM (โฮจิมินกฎหมาย) หนังสือพิมพ์ว่าประเทศต้องการที่จะตั้งค่าสหกรณ์ผลไม้ และพื้นที่โดยร่วมกันนำเกษตรกรและการลงทุนในการประมวลผลและเทคโนโลยีการเก็บรักษาเพื่อปรับปรุงคุณภาพและการผลิตในปริมาณที่มีเสถียรภาพของผลไม้.
Doanh กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะปรับโครงสร้าง [ภาคเกษตร] สลับกับการทำฟาร์มในช่องที่มีขนาดใหญ่หันเกษตรกรเข้ารับการฝึกอบรมและมีความเชี่ยวชาญ แรงงานเกษตร. "