In another study, an approach for r

In another study, an approach for reducing binder levels in coatings involves a two-layer coating. For example, Bluvol et al. [15] employed a heavy precoat (15 g/m2) of calcium carbonate, acrylic binder, and starch materials at lower binder levels (7–12 pph), followed by a topcoat at 10–12 pph of acrylic binder and calcium carbonate. The topcoat formula- tion also had polyvinyl chloride and carboxymethylcellulose as co-binders. Another two-layer approach uses a precoat of a cationic starch or cationic acrylate binder. The cationic starch is a primer layer, binding electrostatically to both the anionic paper [16] and anionic topcoat. In one example, a precoat layer of pure cationic starch was applied, followed by a topcoat using an anionic paper coating formulations at 11 pph or higher amount of SB latex [17]. An improved coat- ing strength and stiffness were achieved, compared to the case without the cationic layer. However, the overall binder content was above 11 pph, and no measurements of coating strength at lower binder content were reported

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการศึกษาอื่น วิธีการลดระดับสารยึดเกาะในสารเคลือบเกี่ยวข้องกับการเคลือบสองชั้น ตัวอย่างเช่น Bluvol และคณะ [15] ใช้แคลเซียมคาร์บอเนตเคลือบล่วงหน้าหนัก (15 กรัม/ตร.ม.) สารยึดเกาะอะคริลิก และวัสดุแป้งที่ระดับสารยึดเกาะต่ำกว่า (7–12 pph) ตามด้วยสีทับหน้าที่ 10–12 pph ของสารยึดเกาะอะคริลิกและแคลเซียมคาร์บอเนต สูตรเคลือบทับหน้ายังมีโพลีไวนิลคลอไรด์และคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสเป็นสารยึดเกาะร่วม วิธีการสองชั้นอีกวิธีหนึ่งใช้สารเคลือบล่วงหน้าของแป้งประจุบวกหรือสารยึดเกาะอะคริเลตประจุบวก แป้งประจุบวกเป็นชั้นไพรเมอร์ ซึ่งจับกับไฟฟ้าสถิตกับทั้งกระดาษประจุลบ [16] และสีทับหน้าประจุลบ ในตัวอย่างหนึ่ง มีการใช้ชั้นเคลือบล่วงหน้าของแป้งแคตไอออนิกบริสุทธิ์ ตามด้วยสีทับหน้าโดยใช้สูตรเคลือบกระดาษประจุลบที่ปริมาณ SB latex 11 pph หรือสูงกว่า [17] ความแข็งแรงและความแข็งของการเคลือบดีขึ้น เมื่อเทียบกับตัวเรือนที่ไม่มีชั้นประจุบวก อย่างไรก็ตาม ปริมาณสารยึดเกาะโดยรวมสูงกว่า 11 pph และไม่มีการรายงานการวัดความแข็งแรงของการเคลือบที่ปริมาณสารยึดเกาะที่ต่ำกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการศึกษาอื่น วิธีหนึ่งในการลดระดับกาวในการเคลือบเกี่ยวข้องกับการเคลือบสองชั้น ตัวอย่างเช่น Bluvol et al. [15] ใช้แคลเซียมคาร์บอเนตที่มีระดับกาวต่ำ (7-12 pph) กาวอะคริลิคและวัสดุแป้งก่อนเคลือบหนัก (15 g / m2) ตามด้วยกาวอะคริลิคและแคลเซียมคาร์บอเนต 10-12 pph สูตรเคลือบผิวยังมีโพลีไวนิลคลอไรด์และคาร์บอกซิลเมธิลเซลลูโลสเป็นกาวร่วม อีกวิธีหนึ่งสองชั้นใช้การเคลือบผิวด้วยแป้ง cationic หรือกาวอะคริเลต cationic แป้ง Cationic เป็นชั้นไพรเมอร์ที่รวมกับกระดาษ anionic [16] และ anionic coating ในศูนย์รวมหนึ่งการเคลือบก่อนของแป้งไอออนิกบริสุทธิ์จะถูกนำไปใช้ตามด้วยการเคลือบด้านบนโดยใช้สูตรการเคลือบกระดาษแอนไอออนิกในปริมาณน้ำยาง SB 11 pph หรือสูงกว่า [17] ความแข็งแรงและความแข็งของการเคลือบได้รับการปรับปรุงเมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีชั้น cationic อย่างไรก็ตามปริมาณรวมของกาวสูงกว่า 11 pph

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการศึกษาอื่นวิธีการลดปริมาณกาวในสารเคลือบประกอบด้วยการเคลือบสองชั้น ตัวอย่างเช่นBluvol et al. [ 15 ]ใช้แคลเซียมคาร์บอเนตกาวอะคริลิคและวัสดุแป้งที่มีการเคลือบผิวอย่างหนัก( 15กรัม/ม. )ที่มีปริมาณกาวต่ํากว่า( 7-12 pph )จากนั้นใช้สารเคลือบอะคริลิค10-12 pphและแคลเซียมคาร์บอเนต สูตรเคลือบผิวยังมีโพลีไวนิลคลอไรด์และคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสเป็นสารยึดเกาะ อีกวิธีหนึ่งคือการใช้แป้งcationicหรือกาวอะคริเลตcationic แป้งcationicเป็นชั้นพื้นผิวไฟฟ้าสถิตรวมกับกระดาษanionic [ 16 ]และสีพื้นผิวanionic ในตัวอย่างหนึ่งการเคลือบผิวด้วยแป้งcationicบริสุทธิ์จะถูกนํามาใช้ตามด้วยการเคลือบผิวด้วยสูตรเคลือบกระดาษแอนไอออนิกที่มีน้ํายางSB 11 pphหรือสูงกว่า[ 17 ] ความแข็งแรงและความแข็งของการเคลือบจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีชั้นcation อย่างไรก็ตามปริมาณกาวทั้งหมดสูงกว่า11 pphและไม่มีการวัดความแข็งแรงของสารเคลือบผิวที่ระดับกาวที่ต่ํากว่า