One area where these theories have

One area where these theories have been used to understand when organizations undertake actions
beyond their narrowly defined interests is the study of corporate environmentalism when firms or
industries take proenvironmental action beyond regulatory demands. Business decisions about
resource use and conservation have often been understood as a rational organization pursuing the
defined goal of profit. A strong case has been made that acting on environmental issues such as climate
change accomplishes the business goal of profit maximization through improved reputation and
increased legitimacy, decreased government regulation, long-term economic goals, decreased risk of
liability, and production cost savings among others (Aupperle, Carroll, & Hatfield, 1985; Burke &
Logsdon, 1996; Hoffman, 2006b). Lyon and Maxwell (2004) expand this approach to use economic
tools to model the political economy of corporate environmentalism. Their contention is that cost
reductions from ecoefficiency and increases of market demand from green consumers are only
modest influencers of corporate environmental action, and the real driver is the state and public
policy. Using a policy life cycle approach they demonstrate that once an issue has the potential to be
regulated, the costs to firms increase with time: voluntary actions that preempt new laws have the
lowest impact on firms, trying to influence regulations has a greater impact on firms, and deflecting
enforcement at the end of the policy life cycle has the highest impact on firms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งในพื้นที่ที่ได้ใช้ทฤษฎีเหล่านี้จะเข้าใจเมื่อองค์กรดำเนินการดำเนินการนอกเหนือจากความสนใจท่ามกลางกำหนดเป็นวิชา environmentalism บริษัทเมื่อบริษัท หรืออุตสาหกรรมดำเนินการ proenvironmental นอกเหนือจากความต้องการทางการ ตัดสินใจทางธุรกิจเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรและการอนุรักษ์ได้มักจะถูกเข้าใจว่าเป็นองค์กรเชือดใฝ่หาการกำหนดเป้าหมายกำไร กรณีที่แรงได้ที่ทำหน้าที่ในประเด็นสิ่งแวดล้อมเช่นสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสำเร็จเป้าหมายธุรกิจของ maximization กำไรผ่านชื่อเสียงที่ดีขึ้น และชอบธรรมเพิ่มขึ้น ข้อบังคับของรัฐบาลลดลง เป้าหมายทางเศรษฐกิจระยะยาว ลดความเสี่ยงของความรับผิดชอบ และประหยัดต้นทุนการผลิตในหมู่ผู้อื่น (Aupperle คาร์ และแฮ ทฟิลด์ 1985 ลิตี้เบอร์กและLogsdon, 1996 แมน 2006b) ลียงและแมกซ์เวลล์ (2004) ขยายวิธีการนี้ใช้เศรษฐกิจเครื่องมือแบบเศรษฐกิจการเมืองขององค์กร environmentalism การช่วงชิงงานบนเป็นราคาต้นทุนลดจาก ecoefficiency และการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในตลาดผู้บริโภคสีเขียวมีinfluencers เจียมเนื้อเจียมตัวของการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร และโปรแกรมควบคุมที่แท้จริงคือ รัฐและประชาชนนโยบายการ ใช้วิธีการตั้งค่านโยบายวงจรชีวิตของพวกเขาแสดงที่เมื่อปัญหามีศักยภาพที่จะควบคุม ต้นทุนให้บริษัทเพิ่มเวลา: ดำเนินการสมัครใจที่กฎหมายใหม่ตัดหน้าได้ผลกระทบต่ำบริษัท พยายามมีอิทธิพลต่อระเบียบข้อบังคับมีผลกระทบกับบริษัท และ deflectingบังคับใช้เมื่อสิ้นสุดของวงจรชีวิตของนโยบายการมีผลกระทบสูงสุดในบริษัท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในพื้นที่ที่ทฤษฎีเหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้ในการทำความเข้าใจเมื่อองค์กรที่ดำเนินการกระทำที่นอกเหนือจากผลประโยชน์ที่กำหนดไว้อย่างหวุดหวิดของพวกเขาคือการศึกษาสิ่งแวดล้อมขององค์กรเมื่อ บริษัท หรืออุตสาหกรรมดำเนินการproenvironmental เกินความต้องการของกฎระเบียบ การตัดสินใจทางธุรกิจเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรและการอนุรักษ์ได้รับมักจะเข้าใจว่าเป็นองค์กรที่มีเหตุผลใฝ่หาเป้าหมายที่กำหนดไว้ของกำไร กรณีที่แข็งแกร่งได้รับการทำที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเช่นสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงสำเร็จเป้าหมายทางธุรกิจของกำไรสูงสุดผ่านชื่อเสียงที่ดีขึ้นและถูกต้องตามกฎหมายเพิ่มขึ้นลดลงกฎระเบียบของรัฐบาลเป้าหมายทางเศรษฐกิจในระยะยาวลดลงความเสี่ยงของการรับผิดและการประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิตอื่นๆ ในกลุ่ม (Aupperle แครอลและฮัท 1985; เบิร์คและLogsdon 1996; ฮอฟแมน, 2006b) ลียงและแมกซ์เวล (2004) ขยายวิธีการนี้จะใช้เศรษฐกิจเครื่องมือในการสร้างแบบจำลองเศรษฐกิจการเมืองสิ่งแวดล้อมขององค์กร การต่อสู้ของพวกเขาคือว่าค่าใช้จ่ายลดลงจาก ecoefficiency และการเพิ่มขึ้นของความต้องการของตลาดผู้บริโภคสีเขียวจากการเป็นเพียงผู้มีอิทธิพลเจียมเนื้อเจียมตัวของการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรและคนขับรถที่แท้จริงเป็นของรัฐและประชาชนนโยบาย ใช้วิธีวงจรชีวิตนโยบายที่พวกเขาแสดงให้เห็นว่าเมื่อปัญหามีศักยภาพที่จะเป็นการควบคุมค่าใช้จ่ายให้กับ บริษัท เพิ่มขึ้นกับเวลา: การกระทำด้วยความสมัครใจที่ยึดเอาเสียก่อนกฎหมายใหม่มีผลกระทบต่ำสุดในบริษัท พยายามที่จะมีอิทธิพลต่อกฎระเบียบที่มีผลกระทบมากขึ้นใน บริษัท และ deflecting บังคับใช้ในตอนท้ายของวงจรชีวิตของนโยบายมีผลกระทบสูงสุดใน บริษัท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นที่หนึ่งซึ่งทฤษฎีเหล่านี้ได้ถูกใช้เพื่อเข้าใจเมื่อองค์กรรับการกระทำ
นอกเหนือจากหวุดหวิดกำหนดผลประโยชน์คือการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของ บริษัท ที่ บริษัท หรืออุตสาหกรรมการดูแล proenvironmental
นอกเหนือจากความต้องการของกฎระเบียบ ธุรกิจการตัดสินใจเกี่ยวกับ
ใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์มักถูกเข้าใจว่าเป็นองค์กรติดตาม
เหตุผลกำหนดเป้าหมายของกำไร เคสแบบแข็งได้ทำในประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เปลี่ยนบรรยากาศ
สำเร็จเป้าหมายธุรกิจที่ทำกำไรสูงสุดผ่านการปรับปรุงและเพิ่มชื่อเสียง
ความชอบธรรมลดลง การควบคุมของรัฐบาล เป้าหมายทางเศรษฐกิจระยะยาวลดความเสี่ยงของความรับผิดและการประหยัดต้นทุนการผลิต
, หมู่คนอื่น ๆ ( aupperle คาร์โรล & , Hatfield , 1985 ; &
เบิร์คล็อกสเดิ้น , 1996 ; ฮอฟแมน 2006b ) ลียงและ Maxwell ( 2004 ) ขยาย วิธีนี้ต้องใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจ
รูปแบบเศรษฐกิจการเมืองสิ่งแวดล้อมขององค์กร การต่อสู้ของพวกเขาที่ค่าใช้จ่าย
ลดจาก ecoefficiency และการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์จากผู้บริโภคสีเขียวเพียง
เจียมเนื้อเจียมตัวปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมของผู้มีอิทธิพล และคนขับรถตัวจริงเป็นรัฐและนโยบายสาธารณะ

โดยใช้วงจรนโยบาย วิธีที่พวกเขาแสดงให้เห็นว่าเมื่อมีปัญหา มีศักยภาพที่จะ
การควบคุมค่าใช้จ่ายบริษัทเพิ่มขึ้นกับเวลา : การกระทำที่กฎหมายใหม่มีกระจัง
นผลกระทบต่อ บริษัท พยายามที่จะมีอิทธิพลต่อกฎระเบียบมีมากกว่าผลกระทบต่อบริษัท และหันเห
บังคับใช้ในตอนท้ายของชีวิตนโยบายมีรอบสูงสุดต่อบริษัท