After completing his art education

After completing his art education at Poh Chang Arts and Crafts College in 1957, Thawan
followed the footstep of Damrong Wong-Upparat, a painter a few years his senior and a scholarship
holder from Lampang province, in furthering his studies at the Faculty of Painting and Sculpture,
Silapkorn University under Professor Silpa Bhilasri. This institute had a profound influence on Thawan
whose still life painting was soon evolved into Thai Impressionism. This period also marked the
beginning of the relationship between the artist and Gen. M.R. Kukrit Pramoj. The latter was a role
model for the artist’s way of life and thinking.
Thawan Duchanee was one of the few Silpakorn students who went on to complete a bachelor’s
degree. Most graduated with a diploma. After graduation and with the support of Professor Silpa Bhilasri
who was the faculty dean at the time, Thawan was awarded a fellowship from the Ministry of Education,
Culture and Science of the Netherlands to study at Royal Academy of Visual Arts, Amsterdam, for five
years where he earned his master’s and doctoral degrees.
Thawan Duchanee devoted all his life to the study of and research in aesthetics, Buddhism, and
a combination of oriental and western philosophies on which his works were based. His creative genius
was seen in many forms, including painting, sculpture, architecture, decorative art, music, literature and
poetry. Thus, he is a role model for younger artists to emulate. He is one of the contemporary artists who
introduced “contemporary oriental art” to the international community.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากจบการศึกษาศิลปะของเขาที่พ่อช้างศิลปะและงานฝีมือวิทยาลัยใน 1957 ถวัลย์
ตาม footstep ของดำรงวงศ์-Upparat วาดกี่ปีเขาอาวุโสและทุน
ยึดจากจังหวัดลำปาง ในการเขาศึกษาที่คณะจิตรกรรมและประติมากรรม furthering
Silapkorn มหาวิทยาลัยภายใต้ศาสตราจารย์ท่าน Bhilasri สถาบันนี้มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งในถวัลย์
ภาพนิ่งที่มีพัฒนาเร็ว ๆ นี้เป็นอิมเพรสชันนิซึมไทย ช่วงนี้ยังทำเครื่องหมาย
จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินและทั่วมรว.หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ปราโมช หลังถูกบทบาท
รุ่นสำหรับศิลปินที่วิถีชีวิตและความคิด
ถวัลย์ Duchanee เป็นหนึ่งในนักเรียนศิลปากรไม่กี่ที่ก็จะทำการตรี
ปริญญา ส่วนใหญ่จบศึกษาประกาศนียบัตรการ หลัง จากจบการศึกษา และการสนับสนุนของศาสตราจารย์ท่าน Bhilasri
ผู้เป็นคณบดีคณะเวลา ถวัลย์ได้รับรางวัลการสามัคคีธรรมจากกระทรวงศึกษาธิการ,
วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ของประเทศเนเธอร์แลนด์จะศึกษาที่ราชวิทยาลัยของทัศนศิลป์ อัมสเตอร์ดัม ห้า
ปีที่เขารับของเขาโทและเอกองศา
ถวัลย์ Duchanee ทุ่มเทชีวิตทั้งหมดเพื่อการศึกษาและวิจัยในสุนทรียศาสตร์ พุทธศาสนา และ
การรวมกันของปรัชญาตะวันออก และตะวันตกได้ใช้ผลงานของเขา อัจฉริยะของเขาสร้างสรรค์
ที่เห็นในหลายรูปแบบ รวมทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ศิลปะตกแต่ง ดนตรี วรรณกรรม และ
บทกวี ดังนั้น เขาเป็นต้นแบบของศิลปินอายุการจำลอง เขาเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่
แนะนำ "ศิลปะตะวันออกร่วมสมัย" ของประชาคมระหว่างประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากจบการศึกษาศิลปะของเขาที่พ่อช้างศิลปะและหัตถกรรมวิทยาลัยในปี 1957, ถวัลย์
ตามฝีเท้าของดำรงวงศ์ Upparat จิตรกรไม่กี่ปีที่อาวุโสและทุนการศึกษาของเขา
ในฐานะผู้ถือจากจังหวัดลำปางต่อไปในการศึกษาของเขาที่คณะจิตรกรรมและ ประติมากรรม
Silapkorn มหาวิทยาลัยภายใต้ศาสตราจารย์ศิลป Bhilasri สถาบันนี้มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อถวัลย์
ยังคงมีชีวิตที่ได้รับการพัฒนาภาพวาดเป็นภาษาไทยในเร็ว ๆ นี้อิมเพรส ช่วงเวลานี้ยังเป็น
จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินและพล ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ปราโมช หลังเป็นบทบาท
แบบจำลองสำหรับวิธีการของศิลปินของชีวิตและความคิด
ถวัลย์ Duchanee เป็นหนึ่งในนักเรียนศิลปากรไม่กี่คนที่ไปในการที่จะเสร็จสมบูรณ์ตรี
ปริญญา จบการศึกษาส่วนใหญ่ที่มีประกาศนียบัตร หลังจากสำเร็จการศึกษาและได้รับการสนับสนุนของศาสตราจารย์ศิลป Bhilasri
ที่เป็นคณบดีคณะในขณะที่ถวัลย์ได้รับทุนจากกระทรวงศึกษาธิการ
วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ของเนเธอร์แลนด์ในการศึกษาที่ราชบัณฑิตยสถานแห่งทัศนศิลป์, อัมสเตอร์ดัมสำหรับห้า
ปี ซึ่งเขาได้รับปริญญาโทของเขาและปริญญาเอก
ถวัลย์ Duchanee ทั้งหมดอุทิศชีวิตของเขาเพื่อการศึกษาและการวิจัยของความงามในพุทธศาสนาและ
การรวมกันของปรัชญาตะวันออกและตะวันตกที่ผลงานของเขามีพื้นฐาน อัจฉริยะสร้างสรรค์ของเขา
ได้รับการมองเห็นได้ในหลายรูปแบบรวมทั้งจิตรกรรมประติมากรรมสถาปัตยกรรมศิลปะการตกแต่งเพลงวรรณกรรมและ
บทกวี ดังนั้นเขาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับศิลปินที่มีอายุน้อยกว่าที่จะเลียนแบบ เขาเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่
นำ "ศิลปะร่วมสมัยโอเรียนเต็ล" เพื่อให้ประชาคมระหว่างประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากจบการศึกษาศิลปะของเขาที่วิทยาเขตเพาะช่างวิทยาลัยศิลปหัตถกรรมในปี 1957 , ถวัลย์
ตามฝีเท้าของ ดำรง วงศ์ upparat , จิตรกรไม่กี่ปีอาวุโสของเขาและทุนการศึกษา
ถือจากจังหวัดลำปาง ในชุมชนศึกษาที่คณะจิตรกรรม ประติมากรรม silapkorn
มหาวิทยาลัยภายใต้ศาสตราจารย์ศิลป์ bhilasri . สถาบันนี้จะมีอิทธิพลลึกซึ้งใน
ถวัลย์ที่มีชีวิตยังคงเป็นภาพแล้วพัฒนาเป็นภาษาไทย ฤษี . ช่วงเวลานี้ยังทำเครื่องหมาย
จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินและพล.อ. ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช . หลังเป็นบทบาท
รูปแบบของศิลปินของชีวิต และความคิด
ถวัลย์ ดัชนี เป็นหนึ่งในไม่กี่ ศิลปากร มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ไปที่สมบูรณ์ของ
ปริญญาตรี ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับอนุปริญญาหลังจากเรียนจบ และด้วยการสนับสนุนของศาสตราจารย์ศิลป์ bhilasri
ใครเป็นคณบดีในช่วงเวลาที่ตะวัน ได้รับมิตรภาพจากกระทรวงศึกษาธิการ ,
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมของเนเธอร์แลนด์ ไปเรียนที่โรงเรียนของทัศนศิลป์ , อัมสเตอร์ดัม , 5
ปีซึ่งเขาได้รับปริญญาโทและปริญญาเอก
ถวัลย์ ดัชนี ทุ่มเทชีวิตของเขาเพื่อการศึกษาและวิจัยทางพระพุทธศาสนาและ
การรวมกันของตะวันออกและปรัชญาตะวันตก ซึ่งผลงานของเขาอยู่
อัจฉริยะความคิดสร้างสรรค์ของเขาที่เห็นในหลายรูปแบบ ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม การตกแต่ง ศิลปะ ดนตรี และวรรณกรรม
บทกวี ดังนั้น เขาคือแบบอย่างสำหรับศิลปินหนุ่มที่จะเลียนแบบเขาเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่
แนะนำ " ร่วมสมัยศิลปะเอเชีย " เพื่อชุมชนระหว่างประเทศ