4. Results And ConclusionAccording

4. Results And Conclusion
According to results of the research which was implemented in 58 firms, we
can search the variables which influences HR policies in three groups. In first group
there variables which has means between 3.51 and 5.00. These are: actions of corporate
headquarters (4.24), size of the organization (4.22), organizational strategy/objectives
(4.06), legislation/regulation (4.00), priorities of top management
(3.93), organizational mission/purpose (3,93), structure of the organization (3.91),
industry/sector characteristics (3,53), and changes in the national economy (3.51). In
second group there are eleven variables which have average and low influences on
human resources policies and which have means between 2.51 and 3.49. These are:
priorities of line managers (3.18), actions of competitors (3.17), changes in technology
(3.13), history/traditions/past practice (3.12), impact of education and training in
HRM (2.89), changes in the international economy (2.82), impact of an overall
HRM strategy (2.82), HRM staff’s experiences in other organizations (2.65), national
culture/traditions (2.62), issues of power and politics (2.51), and impact of
HRM theory, research and writings (2.51). In third group there two variables which
have means between 0 and 2.5 and which have very low or no influences on HRM
policies. These are: impact of professional organizations (2.36) and actions of unions
(1.56).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. ผล และสรุปตามผลการวิจัยที่ถูกนำมาใช้ในบริษัท 58 เราสามารถค้นหาตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อนโยบาย HR ในสามกลุ่ม ในกลุ่มแรกมีตัวแปรซึ่งหมายถึงระหว่าง 3.51-5.00 เหล่านี้คือ: การดำเนินการขององค์กรสำนักงานใหญ่ (4.24), ขนาดขององค์กร (4.22), กลยุทธ์/วัตถุประสงค์ขององค์กร(4.06), กฎหมาย/กฎระเบียบ (4.00) ระดับความสำคัญของผู้บริหารระดับสูง(3.93), องค์กรพันธกิจ/วัตถุประสงค์ (3,93), โครงสร้างขององค์กร (3.91),ลักษณะภาคอุตสาหกรรม (3,53), และการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ (3.51) ในมีอิทธิพลต่อกลุ่มที่สองมีสิบเอ็ดตัวแปรซึ่งมีค่าเฉลี่ย และต่ำในนโยบายทรัพยากรมนุษย์และที่ได้หมายความว่าระหว่าง 2.51 และ 3.49 เหล่านี้คือ:ลำดับความสำคัญของผู้จัดการบรรทัด (3.18), การดำเนินการของคู่แข่ง (3.17), การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยี(3.13), แบบฝึกหัดประวัติศาสตร์/ประเพณี/อดีต (3.12), ผลกระทบของการศึกษาและฝึกอบรมในHRM (2.89), การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (2.82), ผลกระทบของการโดยรวมกลยุทธ์ HRM (2.82), ประสบการณ์ HRM พนักงานในองค์กรอื่น ๆ (2.65), แห่งชาติวัฒนธรรม/ประเพณี (2.62), ปัญหาของอำนาจ และการเมือง (2.51), และผลกระทบของทฤษฎี HRM งานวิจัย และงานเขียน (2.51) ในสามกลุ่มสองมีตัวแปรที่ได้หมายความว่าระหว่าง 0 และ 2.5 และมีราคาที่ต่ำมาก หรือไม่มีอิทธิพลใน HRMนโยบาย เหล่านี้คือ: ผลกระทบขององค์กรระดับมืออาชีพ (2.36) และการดำเนินการของสหภาพแรงงาน(1.56)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. ผลและข้อสรุป
จากผลการวิจัยที่ได้ดำเนินการใน 58 บริษัท ที่เรา
สามารถค้นหาตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลในสามกลุ่ม ในกลุ่มแรก
มีตัวแปรที่มีความหมายระหว่าง 3.51 และ 5.00 เหล่านี้คือ: การกระทำขององค์กร
สำนักงานใหญ่ (4.24) ขนาดขององค์กร (4.22) กลยุทธ์องค์กร / วัตถุประสงค์
(4.06) กฎหมาย / กฎระเบียบ (4.00) ความคาดหวังของผู้บริหารระดับสูง
(3.93) ภารกิจขององค์กร / รถอเนกประสงค์ (3,93 ) โครงสร้างขององค์กร (3.91)
ลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรม / ภาค (3,53) และการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจของประเทศ (3.51) ใน
กลุ่มที่สองมีตัวแปรสิบเอ็ดที่มีอิทธิพลเฉลี่ยและต่ำใน
นโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และที่มีวิธีการระหว่าง 2.51 และ 3.49 เหล่านี้คือ:
ความคาดหวังของผู้บริหารสายการ (3.18) การกระทำของคู่แข่ง (3.17) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
(3.13) ประวัติศาสตร์ / ประเพณี / การปฏิบัติที่ผ่านมา (3.12) ผลกระทบของการศึกษาและการฝึกอบรมใน
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (2.89) การเปลี่ยนแปลงในต่างประเทศ เศรษฐกิจ (2.82) ผลกระทบของโดยรวม
กลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (2.82) ประสบการณ์พนักงานการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรอื่น ๆ (2.65) ระดับชาติ
วัฒนธรรม / ประเพณี (2.62) ประเด็นของอำนาจและการเมือง (2.51) และผลกระทบของ
ทฤษฎีการบริหารทรัพยากรมนุษย์, การวิจัยและ งานเขียน (2.51) ในกลุ่มที่สามมีสองตัวแปรซึ่ง
มีวิธีการระหว่าง 0 และ 2.5 ซึ่งมีต่ำมากหรือมีอิทธิพลต่อการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ไม่มีใน
นโยบาย เหล่านี้คือ: ผลกระทบขององค์กรวิชาชีพ (2.36) และการกระทำของยูเนี่ยน
(1.56)