Bats[edit]Bats have evolved very se

Bats[edit]
Bats have evolved very sensitive hearing to cope with their nocturnal activity. Their hearing range varies by species; at the lowest it can be 1 kHz for some species and for other species the highest reaches up to 200 kHz. Bats that can detect 200 kHz cannot hear very well below 10 kHz.[19] In any case, the most sensitive range of bat hearing is narrower: about 15 kHz to 90 kHz.[19]

Bats navigate around objects and locate their prey using echolocation. A bat will produce a very loud, short sound and assess the echo when it bounces back. Bats hunt flying insects; these insects return a faint echo of the bat's call. The type of insect and how big it is can be determined by the quality of the echo and time it takes for the echo to rebound; there are two types; constant frequency (CF), and frequency modulated (FM) calls that descend in pitch[20] Each type reveals different information; CF is used to detect an object, and FM is used to assess its distance. FM and CM are two different types of echo which inform the bat on the size and distance of the prey. The pulses of sound produced by the bat last only a few thousandths of a second; silences between the calls give time to listen for the information coming back in the form of an echo. Evidence suggests that bats use the change in pitch of sound produced via the Doppler effect to assess their flight speed in relation to objects around them.[21] The information regarding size, shape and texture is built up to form a picture of their surroundings and the location of their prey. Using these factors a bat can successfully track change in movements and therefore hunt down their prey.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[แก้ไข] ค้างคาวค้างคาวมีพัฒนาการฟังสำคัญมากเพื่อรับมือกับกิจกรรมของบรรณาธิการ ช่วงฟังแตกต่างกันไปตามพันธุ์ ในสุด ก็ได้ถึง 200 kHz ถึง 1 kHz สำหรับบางชนิด และสายพันธุ์อื่น ๆ สูงสุด ค้างคาวที่สามารถตรวจพบ 200 kHz ไม่ยินดีด้านล่าง 10 kHz [19] ในกรณีใด ๆ ช่วงสำคัญที่สุดของค้างคาวได้ยินจะแคบกว่า: ประมาณ 15 kHz ถึง 90 kHz [19]ค้างคาวนำวัตถุ และตำแหน่งของเหยื่อที่ใช้ echolocation ค้างคาวจะเสียงดังมาก สั้น และประเมินการสะท้อนเมื่อมันเด้งกลับ แมลงบิน ล่าค้างคาว แมลงเหล่านี้กลับสะท้อนลมโทรของค้างคาว ชนิดของแมลงและขนาดก็สามารถถูกกำหนด โดยคุณภาพของ echo และเวลาสะท้อนการฟื้นตัว มีอยู่สองชนิด คงความถี่ (CF), และความถี่ของสันทัด (FM) เรียกที่มาในสนาม [20] แต่ละชนิดเปิดเผยข้อมูลอื่น ใช้ CF เพื่อตรวจจับวัตถุ และ FM ใช้ประเมินระยะห่างของ FM และ CM มีสองประเภทของ echo ซึ่งแจ้งค้างคาวในขนาดและระยะทางของเหยื่อ กะพริบเสียงผลิต โดยค้างคาวล่าสุดที่สอง เท่ากี่ thousandths silences ระหว่างการโทรให้เวลาฟังข้อมูลกลับมาในรูปแบบของเสียงก้อง หลักฐานแสดงให้เห็นว่า ค้างคาวใช้การเปลี่ยนแปลงในสนามเสียงที่ผลิตผ่านดอปเพลอร์เพื่อประเมินความเร็วของเครื่องบินเกี่ยวกับวัตถุรอบ ๆ [21] ข้อมูลเกี่ยวกับขนาด รูปร่าง และพื้นผิวที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างภาพของสิ่งแวดล้อมและตำแหน่งของเหยื่อของพวกเขา ใช้ปัจจัยเหล่านี้กับค้างคาวสำเร็จสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหว และแกะเหยื่อของพวกเขาดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค้างคาว [แก้ไข]
ค้างคาวมีการพัฒนาการได้ยินมีความสำคัญมากที่จะรับมือกับกิจกรรมของพวกเขาออกหากินเวลากลางคืน ช่วงการได้ยินของพวกเขาแตกต่างกันตามชนิด; ที่ต่ำสุดที่จะสามารถเป็น 1 เฮิร์ทซ์สำหรับบางชนิดและสายพันธุ์อื่น ๆ สูงสุดถึงถึง 200 เฮิร์ทซ์ ค้างคาวที่สามารถตรวจจับ 200 เฮิร์ทซ์ไม่สามารถได้ยินเสียงได้เป็นอย่างดีต่ำกว่า 10 เฮิร์ทซ์ [19] ในกรณีใด ๆ ในช่วงที่สำคัญที่สุดของการได้ยินค้างคาวจะแคบ.. ประมาณ 15 เฮิร์ทซ์ถึง 90 เฮิร์ทซ์ [19] ค้างคาวนำทางรอบวัตถุและหาเหยื่อของพวกเขาใช้ echolocation ค้างคาวจะผลิตดังมากเสียงสั้น ๆ และประเมินก้องเมื่อมันตีกลับหลัง ค้างคาวล่าแมลงบิน; แมลงเหล่านี้กลับสะท้อนลมของการเรียกร้องของค้างคาว ชนิดของแมลงและวิธีการใหญ่มันจะสามารถพิจารณาได้จากคุณภาพของเสียงสะท้อนและเวลาที่ใช้สำหรับเสียงสะท้อนที่จะดีดตัวขึ้น; มีสองประเภท; ความถี่คง (CF) และปรับความถี่ (FM) สายที่ลงมาในสนาม [20] แต่ละชนิดเผยให้เห็นข้อมูลที่แตกต่างกัน CF จะใช้ในการตรวจหาวัตถุและเอฟเอ็มที่ใช้ในการประเมินระยะทาง FM และ CM สองประเภทที่แตกต่างของเสียงสะท้อนที่แจ้งค้างคาวกับขนาดและระยะทางของเหยื่อ พัลส์ของเสียงที่ผลิตโดยค้างคาวมีอายุการใช้งานเพียงไม่กี่พันของวินาที; เงียบระหว่างสายให้เวลาในการฟังข้อมูลกลับมาในรูปแบบของเสียงสะท้อนที่ หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าค้างคาวใช้การเปลี่ยนแปลงในระดับเสียงของเสียงที่ผลิตผ่าน Doppler ผลการประเมินความเร็วเที่ยวบินของพวกเขาในความสัมพันธ์กับวัตถุรอบตัวพวกเขา. [21] ข้อมูลเกี่ยวกับขนาดรูปร่างและพื้นผิวถูกสร้างขึ้นในรูปแบบภาพของสภาพแวดล้อมของพวกเขาและ สถานที่ตั้งของเหยื่อของพวกเขา การใช้ปัจจัยเหล่านี้ค้างคาวประสบความสำเร็จสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหวและดังนั้นจึงตามล่าเหยื่อของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค้างคาว [ แก้ไข ]
ค้างคาวได้มีวิวัฒนาการมากไวได้ยินที่จะรับมือกับพวกเขาหลังกิจกรรม ช่วงการได้ยินของพวกเขาแตกต่างกันไปตามชนิดที่ถูกที่สุดได้ 1 kHz บางชนิด และชนิดอื่น ๆสูงสุดถึง 200 kHz . ค้างคาวที่สามารถตรวจจับ 200 kHz ไม่ได้ยินดีด้านล่าง 10 kHz . [ 19 ] ในกรณีใด ๆ ช่วงที่อ่อนไหวที่สุดของค้างคาวได้ยินจะแคบลงประมาณ 15 kHz 90 kHz . [ 19 ]

ค้างคาวไปมารอบ ๆวัตถุ และหาเหยื่อโดยใช้คลื่นสะท้อน . ค้างคาวจะผลิตเสียงดังมาก , เสียงสั้นและประเมินเสียงสะท้อนเมื่อมันเด้งกลับ ค้างคาวล่าแมลงบิน ; แมลงเหล่านี้กลับสะท้อนจางๆ ของแบ็ตโทร ประเภทของแมลงและมันมีขนาดใหญ่สามารถถูกกำหนดโดยคุณภาพของเอ็คโค่ และเวลาที่ใช้สำหรับโคที่จะฟื้นตัว มี 2 ประเภทความถี่คงที่ ( CF ) และความถี่ ( เอฟเอ็ม ) โดยสายที่ลงในนาม [ 20 ] แต่ละชนิดแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน ; CF ใช้ตรวจจับวัตถุและ FM จะใช้ประเมินระยะห่างของ . FM และ CM เป็นสองประเภทที่แตกต่างกันของก้อง ซึ่งแจ้งให้ค้างคาวในขนาดและระยะทางของเหยื่อ ชีพจรของเสียงที่ผลิตโดยค้างคาวล่าสุดเพียงไม่กี่ / 1000 ของวินาทีความเงียบระหว่างเรียกร้องให้เวลาฟังข้อมูลกลับมาในรูปแบบของ Echo หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ค้างคาวใช้เปลี่ยนสนามเสียงที่ผลิตโดย Doppler วัดความเร็วการบินของพวกเขาในความสัมพันธ์กับวัตถุรอบ ๆ [ 21 ] ข้อมูลเกี่ยวกับขนาดรูปร่างและพื้นผิว สร้างขึ้นในรูปแบบภาพสภาพแวดล้อมของพวกเขาและที่อยู่ของเหยื่อการใช้ปัจจัยเหล่านี้ค้างคาวสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนไหว และดังนั้นจึง ล่าเหยื่อ