ป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นโรค
หากเราไม่ต้องการให้เกิดโรคเราต้องดูแลรักษาตนเองอย่างดี และทำร่างกายให้แข็งแรงเสมอ สมมติว่า เราปวดหลังเราต้องบริหารหลังเราให้แข็งแรงเพื่อไม่ให้ปวดหลัง ถ้าเราเป็นเบาหวาน เราต้องออกกำลังกายสู้กับมัน และควบคุมอาหาร เพื่อลดระดับน้ำตาล ลดน้ำหนัก ไม่ให้อ้วนมากขึ้น ไม่ให้มีปัญหาไขมัน เราสู้กับมัน เพื่อไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน เราต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินโรค ความเป็นไปได้ต่าง ๆ เวลาเราอ่านหนังสือเรื่องโรค และการดำเนินโรค เราอย่าคิดว่า เราต้องเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ คนเป็นเบาหวาน อ่านแล้วอย่าเพิ่งคิดไปล่วงหน้าว่าฉันจะถูกตัดขา ฉันจะตาบอด เราอ่านเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยง รู้ว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเราก็ต่อสู้กับมัน เรารักษาระดับน้ำตาล เราดูแลรักษาเท้าเป็นอย่างดี เราดูแลตัวเอง เราไปพบจักษุแพทย์ตามนัด
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์พร้อมกับ ร่วมกับการออกกำลังกาย เช่นกัน เพื่อให้ร่างกายโดยองค์รวมแข็งแรง ถ้าองค์รวมแข็งแรง โรคเราจะเล็กนิดเดียว เหมือนคนเป็นโรคตับ โรคไต โรคต่าง ๆ ถ้าหัวใจทำงานดี หัวใจแข็งแรง ปอดแข็งแรง ก็จะหายใจได้ลึก ภูมิต้านทานดี อาการของโรคก็จะดีขึ้น แม้บางคนเป็นโรคเรื้อรัง โรคที่รักษาไม่หาย เมื่อออกกำลังกายแล้วจะพบกว่า “ไม่หายก็เหมือนหาย"” ผู้ป่วยทุกคนต้องท่องไว้ในใจเสมอว่า เมื่อใจเราเล็ก โรคจะใหญ่ เมื่อใจเราใหญ่ โรคจะเล็ก แล้วเรื่องอะไรเราจะปล่อยให้โรคมันใหญ่ล่ะ ใจใหญ่ ใจนักเลงกันหน่อย ลุกขึ้นมาสู้กับมันซักตั้งจะกลัวอะไร รู้ไหมว่า กว่าเราจะได้เกิดมา เราต้องว่ายน้ำแข่งกับเสปริมตัวอื่น ๆ เป็นล้าน ๆ ตัว แต่เราเป็นตัวที่ว่ายเร็วที่สุด เราเกาะไข่แม่เร็วที่สุด เราเป็นเสปริมตัวที่แข็งแรงที่สุด เราแกร่งมากแล้วที่ได้เกิดมา แล้วเราจะมานั่งท้อกับความเจ็บป่วย กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน เราจะท้อกับมันทำไม ในเมื่อเราสู้ที่จะมาเกิดได้ เราก็ต้องสู้ที่จะเอาชนะโรคได้เหมือนกันแหละ สู้มัน เอามันให้หมอบ เอาโรคให้หมอบ อย่าหมอบให้โรค