These findings are not surprising c

These findings are not surprising considering the general
widespread skepticism of advertising by consumers. Calfee
and Ringold (1994) presented empirical evidence that the
majority of consumers believed that advertising is often
untruthful; that it attempts to persuade people to buy things
they do not need; and that it should be more strictly
regulated. Based on public opinion polls, they concluded that
approximately 70 percent of consumers had this skeptical
view of advertising and that this view had been held for over
60 years that the data were available.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการวิจัยเหล่านี้ไม่น่าแปลกใจพิจารณาทั่วไปสงสัยอย่างแพร่หลายของการโฆษณาโดยผู้บริโภค Calfeeและ Ringold (1994) นำเสนอหลักฐานประจักษ์ที่จะส่วนใหญ่ผู้บริโภคเชื่อว่า โฆษณามักจะเป็นuntruthful พยายามโน้มน้าวใจคนซื้อพวกเขาไม่จำเป็น และควรจะเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัดควบคุม พวกเขาตามการสำรวจมติมหาชน สรุปที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคมีความแคลงใจนี้มุมมองของการโฆษณาและให้มุมมองนี้ถือผ่าน60 ปีที่ข้อมูลมีการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การค้นพบนี้จะไม่น่าแปลกใจพิจารณาทั่วไปสงสัยอย่างกว้างขวางของการโฆษณาจากผู้บริโภค
Calfee
และ Ringold (1994)
นำเสนอหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เชื่อว่าการโฆษณามักจะเป็นเท็จ;
ว่ามันพยายามที่จะชักชวนให้คนที่จะซื้อสิ่งที่พวกเขาไม่จำเป็น;
และที่มันควรจะเป็นอย่างเคร่งครัดมากขึ้นการควบคุม
ขึ้นอยู่กับการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พวกเขาได้ข้อสรุปว่าประมาณร้อยละ 70 ของผู้บริโภคมีนี้สงสัยมุมมองของการโฆษณาและว่ามุมมองนี้ได้รับการจัดขึ้นมานานกว่า60 ปีว่าข้อมูลที่มีอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การค้นพบนี้จะไม่น่าแปลกใจพิจารณาทั่วไป
ฉาวความสงสัยของโฆษณา โดยผู้บริโภค แคลฟี่
ริงโกลด์ ( 1994 ) และนำเสนอหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าส่วนใหญ่ของผู้บริโภคเชื่อว่า

โฆษณามักจะเป็นเท็จ นั่นมันพยายามที่จะชักชวนคนที่จะซื้อสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการ
; และว่ามันควรจะมากกว่าอย่างเคร่งครัด
ควบคุม ตามความคิดเห็นของประชาชนเลือกตั้งพวกเขาสรุปว่า
ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคมีมุมมองนี้สงสัย
โฆษณาและมุมมองนี้ถูกจัดขึ้นมานานกว่า 60 ปี ที่
ข้อมูลพร้อมใช้งาน