The second cost to a guilty defenda

The second cost to a guilty defendant facing dispute settlement proceedings would be the potential
economic cost of retaliation by the plaintiff country that is authorizable by the GATT/WTO.
As the defendant cannot be compelled to compensate the plaintiff, in order for the defendant to be
forced to face the economic costs of dispute settlement,
the plaintiff must have the capacity to retaliate.
Bown (2002), for example, uses a simple bargaining framework of trade dispute negotiations to
illustrate that when countries are large, a plaintiff’s ability to affect the terms of trade will greatly
influence its capacity to threaten retaliation. In that model, a tariff response by a large plaintiff country
can both increase the plaintiff’s welfare and decrease the defendant’s welfare, thus having twice
the effect on the critical benchmark or “threat point” that drives the outcome of the negotiations. A
small plaintiff country’s tariff that cannot affect the terms-of-trade will be less successful at improving
the “threat point” bargaining position, even if it is able to impose adjustment costs on the defendant,
as it will not be able to improve its own benchmark welfare relative to free trade.
In order for the defendant government to credibly commit to liberalization, the dispute settlement
costs must be large enough to offset the potential gains to the defendant government of offering
protection. Therefore, when confronted with the trade dispute, the defendant government must
weigh the tradeoffs - the potential costs of the failure to liberalize generated by the dispute settlement
process - against the political and economic costs involved with liberalizing a potentially preferred
sector. These costs are likely to differ across sectors and defendants, thus generating the variation
in liberalizing activity necessary to allow us to estimate the impact of these costs on the economic
success of the dispute settlement process.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค่าใช้จ่ายที่สองจำเ​​ลยมีความผิดต้องเผชิญกับการดำเนินการระงับข้อพิพาทจะเป็น
ค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจที่มีศักยภาพของการตอบโต้โดยประเทศที่โจทก์ที่ authorizable โดย GATT / WTO.
เป็นจำเลยไม่สามารถบังคับให้จ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์เพื่อให้จำเลยที่
จะบังคับให้เผชิญกับค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจของการระงับข้อพิพาท
โจทก์จะต้องมีความสามารถในการตอบโต้.
bown (2002) ตัวอย่างเช่นใช้กรอบการเจรจาต่อรองที่ง่ายของการเจรจาข้อพิพาททางการค้าที่จะแสดงให้เห็นถึง
ว่าเมื่อประเทศมีขนาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแง่ของการค้าของโจทก์อย่างมาก
จะมีผลต่อความสามารถในการคุกคามการตอบโต้ ในรูปแบบที่ตอบสนองอัตราภาษีตามประเทศโจทก์
ขนาดใหญ่ทั้งสามารถเพิ่มสวัสดิการของโจทก์และลดสวัสดิการของจำเ​​ลยที่จึงมีสอง
ผลกระทบต่อมาตรฐานที่สำคัญหรือจุด "คุกคาม" ที่ไดรฟ์ผลของการเจรจา ภาษี
โจทก์ประเทศขนาดเล็กที่ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขของการค้าจะประสบความสำเร็จน้อยกว่าที่การปรับปรุง
"จุดภัยคุกคาม" ตำแหน่งการเจรจาต่อรองถึงแม้ว่ามันจะมีความสามารถที่จะกำหนดค่าใช้จ่ายในการปรับตัวในการที่จำเลยที่
มันจะไม่สามารถที่จะปรับปรุงตัวเองมาตรฐานของสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการค้าเสรี.
เพื่อให้รัฐบาลจำเลยสนิทใจมุ่งมั่นที่จะเปิดเสรีการระงับข้อพิพาท
ค่าใช้จ่ายที่ต้องมีขนาดใหญ่พอที่จะชดเชยผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐบาลของจำเ​​ลยเสนอ
ป้องกัน ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับข้อพิพาทการค้าของรัฐบาลจำเลยต้อง
น้ำหนักสมดุล - ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นของความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดเสรีการระงับข้อพิพาทกระบวนการ
- กับค่าใช้จ่ายในทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเสรีการ
ภาคที่ต้องการอาจ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะแตกต่างกันในทุกภาคและจำเลยจึงสร้างการเปลี่ยนแปลง
ในกิจกรรมที่จำเป็นในการเปิดเสรีที่จะช่วยให้เราสามารถประเมินผลกระทบของค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในความสำเร็จทางเศรษฐกิจ
ของกระบวนการระงับข้อพิพาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต้นทุนจำเลยมีความผิดที่หันพิพาทชำระตอนสองจะเป็น
ต้นทุนทางเศรษฐกิจของต่างประเทศโจทก์ที่ authorizable โดยแกตต์ / องค์การการ
เป็นจำเลยไม่ได้ทำให้การชดเชยโจทก์ จำเลยให้การ
ต้องเผชิญต้นทุนทางเศรษฐกิจของการชำระเงินข้อโต้แย้ง,
โจทก์ต้องมีความสามารถในการตอบโต้
Bown (2002), ตัวอย่าง ใช้กรอบงานฝึกฝนเรื่องของการเจรจาข้อพิพาททางการค้าการ
แสดงว่า เมื่อประเทศมีขนาดใหญ่ สามารถส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขทางการค้าของโจทก์เป็นอย่างมาก
อิทธิพลที่กำลังคุกคามต่าง ในรูปแบบที่ คำตอบภาษีประเทศโจทก์ใหญ่
สามารถทั้งเพิ่มสวัสดิการของโจทก์ และของจำเลยสวัสดิการ ลด ดังนั้นจึง มีสอง
ผลมาตรฐานสำคัญหรือ "ภัยคุกคามจุด" ที่ไดรฟ์ผลลัพธ์ของการเจรจา A
ภาษีโจทก์ขนาดเล็กของประเทศที่ไม่มีผลต่อเงื่อนไขการค้าจะประสบความสำเร็จน้อยในการปรับปรุง
"ภัยคุกคามจุด" ต่อรองตำแหน่ง ราคาแม้ว่าจะสามารถกำหนดต้นทุนปรับปรุงจำเลย,
ตามจะไม่สามารถปรับปรุงตัวเองสวัสดิการมาตรฐานสัมพันธ์ค้าเสรี
เพื่อรัฐบาลจำเลย credibly ใจเปิดเสรี การชำระบัญชีข้อโต้แย้ง
ต้นทุนต้องใหญ่พอที่จะชดเชยกำไรรัฐบาลจำเลยจึงอาจ
ป้องกัน ดังนั้น เมื่อเผชิญกับข้อโต้แย้งทางการค้า รัฐบาลจำเลยต้อง
น้ำหนักยืนยันการ - ต้นทุนอาจล้มเหลวเพื่อ liberalize สร้างขึ้น โดยการจ่ายเงินข้อโต้แย้ง
- กระบวนการกับการเมือง และเศรษฐกิจทุนเกี่ยวข้องกับ liberalizing อาจต้อง
ภาค ต้นทุนเหล่านี้มักจะแตกต่างกันระหว่างภาคและจำเลย ดังนั้น การสร้างการเปลี่ยนแปลง
ในกิจกรรมที่จำเป็นเพื่อให้ประเมินผลกระทบของต้นทุนเหล่านี้ในทางเศรษฐกิจ liberalizing
ความสำเร็จของการชำระเงินข้อโต้แย้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ที่สองจะมีความผิดจำเลยหันหน้าเข้าหาข้อพิพาทการชำระเงินจะได้รับการดำเนินคดีที่เกิดขึ้น
ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางเศรษฐกิจของการตอบโต้โดยประเทศที่ผู้ฟ้องคดีที่จะ authorizable โดยแกตต์/ดับบลิวทีโอ.
ตามที่จำเลยไม่สามารถบังคับเพื่อเป็นการชดเชยที่ผู้ฟ้องคดี,เพื่อที่จำเลยจะ
ซึ่งจะช่วยทำให้หน้าที่ทางเศรษฐกิจลดค่าใช้จ่ายขององค์กรระงับข้อพิพาท,
ที่ผู้ฟ้องคดีจะต้องมีความจุในการล้างแค้น.
bown ( 2002 )ตัวอย่างเช่นใช้กรอบการต่อรองแบบเรียบง่ายของการเจรจาต่อรองข้อพิพาททางการค้าเพื่อ
ซึ่งจะช่วยแสดงให้เห็นว่าเมื่อประเทศมีขนาดใหญ่ของผู้ฟ้องคดีที่สามารถส่งผลต่อเงื่อนไขของการค้าจะมีอิทธิพลต่อความสามารถในการคุกคามการตอบโต้อย่าง
ในรุ่นที่การตอบสนองอัตรา ภาษี ที่ผู้ฟ้องคดีขนาดใหญ่ที่ประเทศ
ซึ่งจะช่วยเพิ่มขึ้นจะเป็นทั้งสวัสดิการของผู้ฟ้องคดีที่ลดลงและสวัสดิการของจำเลยได้ดังนั้นจึงมีสองครั้ง
ซึ่งจะช่วยให้มีผลในวันที่มีความสำคัญการวัด ประสิทธิภาพ หรือ"จุด ภัย คุกคามที่"ที่ผลที่ได้รับจากการเจรจา
ซึ่งจะช่วยผู้ฟ้องคดีประเทศขนาดเล็กของ ภาษี ที่ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขของทางการค้าจะต้องไม่น้อยประสบความสำเร็จในการปรับปรุง
ซึ่งจะช่วยให้" ภัย คุกคามจุด"การต่อรองตำแหน่ง,แม้ว่าจะสามารถที่จะกำหนดให้มีการปรับลดค่าใช้จ่ายที่จำเลย,
เพราะจะไม่ได้ทำให้สามารถปรับปรุงสวัสดิการการวัด ประสิทธิภาพ ของตัวเองเมื่อเทียบกับการค้าแบบไม่เสียค่าบริการ.
ในการสั่งซื้อสำหรับรัฐบาลจำเลยที่จะกล่าวโทษต่อผู้กระทำผิดกับการเปิดเสรีองค์กรระงับข้อพิพาท
ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องมีขนาดใหญ่พอที่จะชดเชยกับการเพิ่มขึ้นของรัฐบาลที่มี ศักยภาพ สูงในการจำเลยที่จัดให้บริการ
ซึ่งจะช่วยในการป้องกัน ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับข้อพิพาททางการค้าที่รัฐบาลจำเลยจะต้องตอบแทน
ชั่งน้ำหนัก สภา แวดล้อม - ประหยัดต้นทุนที่เป็นไปได้ของความล้มเหลวที่จะลอยตัวสร้างขึ้นจากการมีข้อพิพาทที่ตั้งถิ่นฐาน
กระบวนการ - ค่าใช้จ่ายในทางการเมืองและเศรษฐกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเปิดเสรี ภาค เอกชนที่ต้องการให้เกิด
ซึ่งจะช่วยให้ ต้นทุนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะแตกต่างไปในตัวจำเลยและ ภาค เอกชนและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่
ในเปิดเสรีทางการทำงานที่จำเป็นเพื่อช่วยให้เราในการประเมินผลกระทบของต้นทุนเหล่านี้ในการตั้งถิ่นฐานของเศรษฐกิจ
ซึ่งจะช่วยสร้างความสำเร็จของข้อพิพาทได้