Mercury is the smallest and innermo

Mercury is the smallest and innermost planet in the Solar System.[a] Its orbital period (about 88 Earth days) is less than any other planet in the Solar System. Seen from Earth, it appears to move around its orbit in about 116 days. It has no known natural satellites. It is named after the Roman deity Mercury, the messenger to the gods.

Partly because it has almost no atmosphere to retain heat, Mercury's surface temperature varies diurnally more than any other planet in the Solar System, ranging from 100 K (−173 °C; −280 °F) at night to 700 K (427 °C; 800 °F) during the day in some equatorial regions. The poles are constantly below 180 K (−93 °C; −136 °F). Mercury's axis has the smallest tilt of any of the Solar System's planets (about 1⁄30 of a degree), and its orbital eccentricity is the largest of all known planets in the Solar System.[a] At aphelion, Mercury is about 1.5 times as far from the Sun as it is at perihelion. Mercury's surface is heavily cratered and similar in appearance to the Moon, indicating that it has been geologically inactive for billions of years.

Mercury is tidally or gravitationally locked with the Sun in a 3:2 resonance,[14] and rotates in a way that is unique in the Solar System. As seen relative to the fixed stars, it rotates on its axis exactly three times for every two revolutions it makes around the Sun.[b][15] As seen from the Sun, in a frame of reference that rotates with the orbital motion, it appears to rotate only once every two Mercurian years. An observer on Mercury would therefore see only one day every two years.

Because Mercury orbits the Sun within Earth's orbit (as does Venus), it can appear in Earth's sky in the morning or the evening, but not in the middle of the night. Also, like Venus and the Moon, it displays a complete range of phases as it moves around its orbit relative to Earth. Although Mercury can appear as a bright object when viewed from Earth, its proximity to the Sun makes it more difficult to see than Venus. Two spacecraft have visited Mercury: Mariner 10 flew by in 1974 and 1975; and MESSENGER, launched in 2004, orbited Mercury over 4,000 times in four years, before exhausting its fuel and crashing into the planet's surface on April 30, 2015.[16][17][18]


Mercury is a planet in our solar system. It is the smallest of the eight planets. It is also the closest to the sun. Mercury goes around the sun the fastest of all the planets. Mercury has no moons.


How Did Mercury Get Its Name?
The Romans believed that gods and goddesses were in charge of everything on Earth. Mercury is named after the messenger for their gods. The Roman Mercury had wings on his helmet and shoes. He could travel very quickly from place to place. The planet Mercury moves quickly around the sun. That is how it got its name.


How Big Is Mercury?
Mercury is a little bigger than Earth's moon. It is made of heavier materials, like iron. But if you could weigh Mercury and the moon, Mercury would weigh a lot more. Mercury is heavy, but it is small. It would take more than 18 Mercurys to be as big as Earth.


Where Is Mercury?
Mercury is the closest planet to the sun. Mercury goes around the sun once every 88 Earth days. A day on Mercury lasts a lot longer than a day on Earth. One day on Mercury lasts 59 Earth days.


What Is Mercury Like?
The surface of Mercury looks like Earth's moon. It is covered with holes. The holes are called impact craters. The craters were made by rocks falling from space. The rocks are going very fast when they hit Mercury. A hole is made where the rock hits. Earth has a blanket of air around it. Mercury does not. The blanket is what helps keep Earth from getting too hot or cold. Because it is so close to the sun, Mercury can be very hot. At night, Mercury gets very cold. We could not live on Mercury!


How Has NASA Studied Mercury?
Mercury is hard to study because it is so close to the sun. People have never gone to Mercury. Spacecraft without people have gone. Mariner 10 was the first to visit Mercury. It flew by in 1974 and 1975. Not even half of Mercury was seen then. After that, nothing was sent to Mercury for more than 30 years. NASA's MESSENGER spacecraft flew by Mercury in 2008 and 2009. In March 2011, it began to orbit Mercury. MESSENGER will study parts of Mercury that have not been seen before. It will let scientists learn many new things about the planet.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุด และในสุดของระบบสุริยะ [a] ของคาบ (ประมาณ 88 วันโลก) จะน้อยกว่าดาวเคราะห์อื่น ๆ ในระบบสุริยะ เห็นได้จากโลก ปรากฏในการย้ายของในประมาณวันที่ 116 ดาวเทียมธรรมชาติไม่ทราบได้ มันเป็นชื่อหลังจากสารปรอท messenger แก่เทพเจ้าเทพเจ้าโรมันส่วนหนึ่งเป็น เพราะมีเกือบจะไม่มีบรรยากาศการรักษาความร้อน อุณหภูมิพื้นผิวของดาวพุธแตกต่างกันไป diurnally มากกว่าดาวเคราะห์อื่น ๆ ในระบบสุริยะ ตั้งแต่ 100 K (−173 ° C; −280 ° F) เวลากลางคืนถึง 700 K (427 ° C; 800 ° F) ในระหว่างวันในบางภูมิภาคที่เส้นศูนย์สูตร เสาด้านล่างอย่างต่อเนื่องมี 180 K (−93 ° C; −136 ° F) แกนของปรอทมีความเอียงน้อยที่สุดของดาวเคราะห์ของระบบสุริยะ (เกี่ยวกับ 1⁄30 ของปริญญา), และความเยื้องศูนย์กลางของวงโคจรของมันเป็นใหญ่ที่สุดของดาวเคราะห์ที่รู้จักทั้งหมดในระบบสุริยะ [a] aphelion ปรอทเป็นประมาณ 1.5 เท่าเป็นห่างไกลจากดวงอาทิตย์เป็นเวลา perihelion พื้นผิวของดาวพุธคือ cratered อย่างหนัก และคล้ายดวงจันทร์ ระบุว่า ไม่ได้ใช้งานวิจัยสำหรับหลายพันล้านปีปรอทเป็น tidally หรือเย็นล็อค ด้วยในเรโซแนนซ์ 3:2, [14] และหมุนในลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของระบบสุริยะ เห็นสัมพันธ์กับดาวคง มันหมุนบนแกนของมันว่าสามครั้งสำหรับทุกทำรอบวันอาทิตย์ [b] [15] เท่าที่เห็นจากดวงอาทิตย์ การปฏิวัติสองในกรอบของการอ้างอิงที่หมุนไปพร้อมกับการเคลื่อนที่ของวงโคจร ปรากฏการหมุนเพียงครั้งเดียว Mercurian ทุก ๆ สังเกตการณ์บนปรอทจะดังดูวันเดียวทุกสองปีเนื่องจากวงโคจรของดาวพุธดวงอาทิตย์ภายในโลกโคจร (กับ Venus), มันสามารถปรากฏในท้องฟ้าของโลก ในตอนเช้าหรือตอนเย็น แต่ ในตอนกลางคืนไม่ได้ ยัง เช่นดาวศุกร์และดวงจันทร์ มันแสดงทั้งขั้นตอนขณะที่มันเคลื่อนรอบของวงโคจรสัมพันธ์กับโลกด้วย แม้ว่าสารปรอทสามารถปรากฏเป็นวัตถุสว่างเมื่อมองจากโลก ใกล้กับดวงอาทิตย์ทำให้มันยากที่จะเห็นกว่าวีนัส ยานอวกาศสองเข้าชมปรอท: ยานมาริเนอร์ 10 บินโดยในปี 1974 และ 1975 และ MESSENGER เปิดตัวในปี 2004 โคนปรอทมากกว่า 4,000 ครั้งใน 4 ปี ก่อนหลบหนีของเชื้อเพลิง และกระแทกพื้นผิวของดาวเคราะห์บน 30 เมษายน 2558 [16] [17] [18]ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา มันเป็นเล็กที่สุดของดาวเคราะห์แปด ก็ยังใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ ปรอทไปรอบเร็วที่สุดของดาวเคราะห์ทั้งหมด ดวงจันทร์ไม่มีสารปรอทได้วิธีปรอทจึงได้รับชื่อชาวโรมันเชื่อว่า เทพเจ้าและเทพธิดาดูแลทุกอย่างในโลกนี้ ปรอทเป็นชื่อหลังจาก messenger สำหรับเทพของพวกเขา สารปรอทโรมันมีปีกหมวกและรองเท้าของเขา เขาสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วไปจากสถาน ดาวเคราะห์ปรอทไปอย่างรวดเร็วรอบ ๆ ดวงอาทิตย์ นั่นคือวิธีการที่มันได้ชื่อดาวพุธมีขนาดใหญ่ปรอทนั้นเล็กน้อยมากกว่าดวงจันทร์ มันทำจากวัสดุที่หนัก เช่นเหล็ก แต่ถ้าคุณสามารถมีน้ำหนักปรอทและดวงจันทร์ ปรอทจะมีน้ำหนักมากขึ้น ปรอทเป็นหนัก แต่มันมีขนาดเล็ก มันจะใช้เวลามากกว่า 18 Mercurys จะใหญ่เท่าโลกปรอทอยู่ที่ไหนดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่ใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ สารปรอทไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์เมื่อโลก 88 ทุกวัน หนึ่งวันบนดาวพุธยาวนานมากนานกว่าวันบนโลก หนึ่งวันบนดาวพุธใช้เวลา 59 วันโลกปรอทเช่นคืออะไรพื้นผิวของดาวพุธมีลักษณะเหมือนดวงจันทร์ ครอบคลุมกับหลุม หลุมเรียกว่าปิศาจ หลุมอุกกาบาตที่ถูกสร้างขึ้น โดยหินที่ตกลงมาจากอวกาศ หินจะไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาตีปรอท หลุมได้ที่ร็อคฮิต โลกมีผ้าห่มของอากาศรอบ ๆ ปรอทไม่ ผ้าห่มคือ อะไรช่วยให้โลกได้รับความร้อน หรือเย็นเกินไป เพราะว่าใกล้กับดวงอาทิตย์ ปรอทสามารถร้อนมาก ปรอทจะไม่หนาวมากเวลากลางคืน เราไม่สามารถอาศัยอยู่บนปรอทนาซ่าได้ศึกษาปรอทอย่างไรปรอทเป็นยากที่จะศึกษา เพราะมันเป็นให้ใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ คนไม่เคยไปปรอท ยานอวกาศ โดยไม่มีคนได้ไป ยานมาริเนอร์ 10 เป็นครั้งแรกไปปรอท มันบินโดยในปี 1974 และ 1975 แม้ไม่ได้ครึ่งของปรอทก็เห็นแล้ว หลังจากนั้น ไม่มีอะไรถูกส่งไปปรอทมากกว่า 30 ปี ยานอวกาศของนาซ่า MESSENGER บิน โดยปรอทใน 2008 และ 2009 ในเดือน 2554 มีนาคม มันเริ่มโคจรปรอท MESSENGER จะศึกษาส่วนประกอบของสารปรอทที่ไม่เคยพบมาก่อน มันจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เกี่ยวกับดาวเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุดและสุดในระบบสุริยะ. [A] ระยะเวลาการโคจรของมัน (ประมาณ 88 วันของโลก) น้อยกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะ มองจากโลกก็จะปรากฏขึ้นเพื่อย้ายไปรอบวงโคจรของมันในเวลาประมาณ 116 วัน มันไม่มีดาวเทียมธรรมชาติที่รู้จักกัน มันเป็นชื่อเทพโรมันพุธทูตสวรรค์กับพระเจ้า.

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันมีเกือบจะไม่มีบรรยากาศที่จะเก็บความร้อนอุณหภูมิพื้นผิวของดาวพุธแตกต่างกันไปเวลากลางวันมากกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะตั้งแต่ 100 K (-173 ° C ; -280 ° F) ในเวลากลางคืนถึง 700 K (427 ° C; 800 ° F) ในระหว่างวันในบริเวณเส้นศูนย์สูตรบาง เสามีอย่างต่อเนื่องด้านล่าง 180 K (-93 ° C; -136 ° F) แกนของดาวพุธมีความลาดเอียงที่เล็กที่สุดของใด ๆ ของดาวเคราะห์ระบบสุริยะ (ประมาณ 1/30 ของการศึกษาระดับปริญญา) และโคจรวิปริตของมันเป็นที่ใหญ่ที่สุดของดาวเคราะห์ที่รู้จักกันในระบบสุริยะ. [A] ที่เฟรเลียน, ปรอทเป็นประมาณ 1.5 เท่า เท่าจากดวงอาทิตย์ในขณะที่มันอยู่ที่ดวงอาทิตย์ที่สุด พื้นผิวของดาวพุธเป็นอย่างมากพรุนและในลักษณะคล้ายกับดวงจันทร์แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้ใช้งานธรณีวิทยาพันล้านปี.

ปรอท tidally หรือแรงโน้มถ่วงล็อคด้วยดวงอาทิตย์ใน 3: 2 เสียงสะท้อน [14] และหมุนในทางที่ มีความเป็นเอกลักษณ์ในระบบสุริยะ เท่าที่เห็นเมื่อเทียบกับดาวคงที่มันจะหมุนในแกนของมันตรงสามครั้งทุกรอบสองก็จะทำให้รอบดวงอาทิตย์ [b] [15] เท่าที่เห็นจากดวงอาทิตย์ในกรอบของการอ้างอิงที่หมุนที่มีการเคลื่อนไหวของวงโคจรที่ ดูเหมือนว่ามันจะหมุนเพียงครั้งเดียวทุกสองปี Mercurian ผู้สังเกตการณ์บนดาวพุธจึงจะเห็นเพียงหนึ่งวันทุกสองปี.

เพราะดาวพุธโคจรรอบดวงอาทิตย์ที่อยู่ในวงโคจรของโลก (เช่นเดียวกับวีนัส) ก็สามารถปรากฏในท้องฟ้าของโลกในช่วงเช้าหรือเย็น แต่ไม่ได้อยู่ในช่วงกลางของคืน นอกจากนี้เช่นดาวศุกร์และดวงจันทร์ก็จะแสดงช่วงที่สมบูรณ์ของขั้นตอนขณะที่มันเคลื่อนไปรอบวงโคจรของมันเทียบกับพื้นโลก แม้ว่าดาวพุธจะปรากฏเป็นวัตถุที่สดใสเมื่อมองจากโลกมันอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์ทำให้มันยากขึ้นกว่าที่จะเห็นดาวศุกร์ ยานอวกาศสองได้เข้าเยี่ยมชมปรอท: กะลาสี 10 บินโดยในปี 1974 และ 1975; และรอซูลเปิดตัวในปี 2004 ดาวพุธโคจรมากกว่า 4,000 ครั้งในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาก่อนที่จะหลบหนีน้ำมันเชื้อเพลิงและบุกเข้ามาในพื้นผิวของดาวเคราะห์ในวันที่ 30 เมษายน 2015 [16] [17] [18]


ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา มันเป็นที่เล็กที่สุดของแปดดาวเคราะห์ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์ ดาวพุธจะไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์เร็วที่สุดของดาวเคราะห์ทั้งหมด เมอร์ไม่มีดวงจันทร์.


วิธีการไม่ได้รับสารปรอทชื่อ?
ชาวโรมันเชื่อว่าเทพและเทพธิดาอยู่ในความดูแลของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ดาวพุธเป็นชื่อหลังจากที่ทูตสวรรค์สำหรับพระของเขา โรมันปรอทมีปีกบนหมวกและรองเท้าของเขา เขาสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วจากสถานที่ที่ ดาวพุธย้ายได้อย่างรวดเร็วรอบดวงอาทิตย์ นั่นคือวิธีการที่จะได้ชื่อ.


วิธีการใหญ่คือดาวพุธ?
ปรอทเป็นเพียงเล็กน้อยที่มีขนาดใหญ่กว่าดวงจันทร์ของโลก มันทำจากวัสดุหนักเช่นเหล็ก แต่ถ้าคุณสามารถมีน้ำหนักปรอทและดวงจันทร์ของดาวพุธจะมีน้ำหนักมากขึ้น ปรอทเป็นหนัก แต่มันมีขนาดเล็ก มันจะใช้เวลามากกว่า 18 Mercurys ที่จะเป็นใหญ่เป็นโลก.


Where Is ปรอท?
ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ดาวพุธไปรอบดวงอาทิตย์ทุกๆ 88 วันของโลก วันบนดาวพุธเวลามากเกินกว่าวันบนโลก วันหนึ่งบนดาวพุธเป็นเวลา 59 วันของโลก.


ปรอทชอบคืออะไร?
พื้นผิวของดาวพุธมีลักษณะเหมือนดวงจันทร์ของโลก มันถูกปกคลุมไปด้วยหลุม หลุมที่เรียกว่าหลุมอุกกาบาต หลุมอุกกาบาตที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหินที่ตกลงมาจากพื้นที่ หินจะไปได้อย่างรวดเร็วมากเมื่อพวกเขาตีปรอท หลุมทำที่ร็อคฮิต โลกมีผ้าห่มของอากาศรอบ ๆ มัน เมอร์ไม่ได้ ผ้าห่มเป็นสิ่งที่ช่วยให้โลกจากการได้รับความร้อนมากเกินไปหรือเย็น เพราะมันเป็นเพื่อให้ใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ดาวพุธจะร้อนมาก ในเวลากลางคืนดาวพุธได้รับเย็นมาก เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนดาวพุธ!


วิธีได้ศึกษานาซาปรอท?
ปรอทเป็นเรื่องยากที่จะศึกษาเพราะมันเป็นเพื่อให้ใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ คนไม่เคยไปเมอร์ ยานอวกาศโดยไม่ต้องคนได้หายไป กะลาสี 10 เป็นครั้งแรกที่ไปเยี่ยมชมปรอท มันบินโดยในปี 1974 และปี 1975 ไม่ได้ครึ่งของดาวพุธก็เห็นแล้ว หลังจากนั้นไม่มีอะไรที่ถูกส่งไปยังเมอร์มานานกว่า 30 ปี ของนาซา MESSENGER ยานอวกาศบินผ่านดาวพุธในปี 2008 และปี 2009 ในเดือนมีนาคมปี 2011 มันเริ่มจะโคจรรอบดาวพุธ MESSENGER จะศึกษาส่วนของเมอร์ที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน มันจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เกี่ยวกับดาวเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุด และสุดในระบบสุริยะ [ ] ของระยะเวลาการโคจร ( ประมาณ 88 โลกวัน ) น้อยกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะ เห็นจากโลกก็จะปรากฏขึ้นเพื่อย้ายไปรอบ ๆที่โคจรใน 116 วัน มีไม่รู้จักธรรมชาติของดาวเทียม มันเป็นชื่อหลังจากที่โรมันเทพ ปรอท สารเพื่อพระเจ้าส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันมีเกือบจะไม่มีบรรยากาศร้อน ปรอทของอุณหภูมิพื้นผิวแตกต่างกันไป diurnally กว่าดาวเคราะห์อื่นใดในระบบสุริยะตั้งแต่ 100 K ( − 173 ° C ; − 0 ° F ) กลางคืน 700 K ( 427 องศา C ; 800 ° F ) ในระหว่างวันในบางประเทศภูมิภาค หมุนอยู่ด้านล่าง 180 K ( − 0 ° C ; − 136 ° F ) ปรอทของแกนมีเอียงเล็กที่สุดของใด ๆของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ ( 1 ⁄ 30 องศา ) และโคจรความเยื้องศูนย์กลางเป็นที่ใหญ่ที่สุดของทั้งหมดที่รู้จักดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ [ ] ที่ฟีเลียน ปรอทประมาณ 1.5 เท่า ไกลจากดวงอาทิตย์เป็นอมตภาพ . ปรอทผิวหนักและ cratered ลักษณะคล้ายดวงจันทร์ ระบุว่าถูก geologically หายไปหลายพันล้านปีดาวพุธเป็น tidally หรือ gravitationally ล็อคกับดวงอาทิตย์เป็น 3 : 2 เรโซแนนซ์ , [ 14 ] และหมุนในลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ในระบบสุริยะ เท่าที่เห็นเมื่อเทียบกับดาวฤกษ์ มันหมุนบนแกนตรงสามครั้งสำหรับทุก ๆ สองรอบ ทำให้รอบดวงอาทิตย์ [ B ] [ 15 ] เท่าที่เห็นจากดวงอาทิตย์ ในกรอบอ้างอิงที่หมุนด้วยการเคลื่อนไหวโคจรดูเหมือนจะหมุนเพียงครั้งเดียวทุก 2 mercurian ปี สังเกตการณ์บนดาวพุธจึงเห็นเพียงวันเดียวทุกสองปีเพราะว่าดาวพุธโคจรรอบดวงอาทิตย์ภายในโคจร ( เหมือนดาวศุกร์ ) , มันสามารถปรากฏในโลกของท้องฟ้าในตอนเช้าหรือตอนเย็น แต่ในตอนกลางคืน นอกจากนี้ เหมือนดาวศุกร์และดวงจันทร์จะแสดงช่วงที่สมบูรณ์ของขั้นตอนมันเคลื่อนที่รอบโคจรสัมพันธ์กับโลก ถึงแม้ว่าดาวพุธจะปรากฏเป็นวัตถุที่สว่าง เมื่อมองจากโลก ใกล้ชิดกับดวงอาทิตย์ทำให้มันยากมากที่จะเห็นกว่าที่ดาวศุกร์ สองยานอวกาศได้เยี่ยมชมปรอท Mariner 10 บิน โดยในปี 1974 และ 1975 ; และ Messenger , เปิดตัวในปี 2004 โคจรดาวพุธ กว่า 4 , 000 ครั้ง ใน 4 ปี ก่อนหลบหนี เชื้อเพลิง และล้มลงในพื้นผิวของดาวเคราะห์ เมื่อ 30 เมษายน 2015 . [ 16 ] [ 17 ] [ 18 ]ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา มันเป็นที่เล็กที่สุดของดาวเคราะห์ 8 ดวง นอกจากนี้ยังใกล้ดวงอาทิตย์ ปรอทวิ่งรอบดวงอาทิตย์เร็วที่สุดในดาวเคราะห์ทั้งหมด ดาวพุธไม่มีดวงจันทร์เป็นบริวารทำปรอทได้รับชื่อของมันได้ยังไงชาวโรมันเชื่อว่า เทพเจ้าและเทพธิดาอยู่ในค่าใช้จ่ายของทุกอย่างบนโลก ปรอทเป็นชื่อหลังจากที่ Messenger เพื่อพระเจ้าของพวกเขา โรมันปรอทมีปีกบนหมวก และรองเท้า เขาสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วมากจากสถานที่ที่ ดาวพุธย้ายได้อย่างรวดเร็วรอบดวงอาทิตย์ นั่นคือว่าทำไมมันถึงชื่อวิธีใหญ่คือปรอท ?ปรอทเป็นน้อยใหญ่กว่าโลกของดวงจันทร์ มันทำมาจากวัสดุที่หนักกว่าเช่นเหล็ก แต่ถ้าคุณหนักดาวพุธและดวงจันทร์ ดาวพุธจะหนักมาก ปรอทหนัก แต่มันมีขนาดเล็ก มันต้องใช้มากกว่า 18 mercurys จะใหญ่เท่าโลกปรอทอยู่ไหน ?ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่ใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ ปรอทวิ่งรอบดวงอาทิตย์ทุกๆ 88 โลกวัน วันบนดาวพุธกินเวลานานกว่าวันบนโลก หนึ่งวันบนดาวพุธยาวนาน 59 โลกวันอะไรคือปรอท เช่นพื้นผิวของดาวพุธมีลักษณะเหมือนโลกพระจันทร์ มันถูกปกคลุมด้วยรู หลุมเรียกว่าหลุมอุกกาบาตกระทบ หลุมอุกกาบาตถูกสร้างโดยหินตกจากอวกาศ หินไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาตีดาวพุธ รู าที่ร็อคฮิต โลกมีผ้าห่มของอากาศที่อยู่รอบๆ ปรอทไม่ ผ้าห่มเป็นสิ่งที่ช่วยให้โลกไม่ให้ร้อนหรือเย็นเกินไป . เพราะมันอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ดาวพุธจะร้อนมาก ตอนกลางคืน ปรอทจะเย็นมาก เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนดาวพุธ !วิธีการศึกษาได้ NASA ปรอท ?ปรอทจะตั้งใจเรียนเพราะมันอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ คนที่ไม่เคยไปดาวพุธ ยานอวกาศไร้คนได้หายไปแล้ว ชามพูวราชเป็นคนแรกที่เยือนดาวพุธ มันบินโดยในปี 1974 และ 1975 . ไม่ถึงครึ่งของปรอท คือ เห็นแล้ว หลังจากนั้น ไม่มีอะไรถูกส่งไปยังปรอทมากกว่า 30 ปี นาซาส่งยานอวกาศบินโดยดาวพุธในปี 2008 และ 2009 ในเดือนมีนาคม 2011 , มันเริ่มที่จะโคจรรอบดาวพุธ Messenger จะศึกษาส่วนประกอบของปรอทที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน มันจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เรียนรู้สิ่งใหม่มากมายเกี่ยวกับดาวเคราะห์