Long time ago, the earth was consid

Long time ago, the earth was considered the ugliest place throughout universe; there were no plants, no light, and no life. The god decided to send two brightest, powerful creatures, the Moon and the Sun to ornate the earth with light. They became the leader of the holy sky, the guider who control the sea, and the protector of our earth. However, the power of them were distributed unequally that, even when the moon was named as the second powerful creature, she became nothing when comparing to her husband, the Sun.

At first, the couple went on pretty well; they both worked assiduously, to change this dreadful planet. It was the Moon that came up with the ideas of “plants”, she asked for the Sun’s power to create them and the Sun agreed. Suddenly, the earth was cover with colors and softness of grass, it was like a blessing from the god, and the god was pleased by the idea of “plants”.

Every day the grass thanks to the sun for giving them life; but they never thanks moon for having the idea. The moon stayed silently. Every day, the trees thanks to the sun for giving them power; but they never thank the moon for anything. The moon stayed silently, and was ignored again. Every day, the flower thanks sun for giving them beauty, and this time, they don’t even get the chance to notice moon. The sun gets brighter and brighter; it feels like the moon had never existed while staying behind the sun. The moon now feels extremely bad to be ignored, and the argument between the couple starts. The moon was upset about the power and brightness the sun has, and the sun was blaming the moon being too childish and immature. More and more plants grew on earth and the sun became busier than before, he ignored the anger and sadness of the moon and shine as bright as he can. Now, the moon was almost invisible upon the sky. She feels so lonely and questioned whether the sun still loves her, and cares about her feelings, her tears…. She felt herself useless since nothing on earth relies on her. The atmosphere between the couple turns worse.

One day, the moon refused to go home with sun and chose to stay on earth alone a little while. The sun went home, and he never thought that the mysterious, dangerous darkness will occurs. The darkness fell in love with moon on the first sight and was willing to do anything that pleased the moon. The moon liked the darkness too, when staying besides him, she looked as bright as the sun. Darkness ask the moon why is she so unhappy, and the moon told him the reason why. The darkness came up with the idea to create humans, who were born to be terrified by darkness. He asked the moon to show up the second day, and the moon did. The moon heard the appreciation of human and felt like she was now almost as important and powerful as the sun.

From that day on, the moon decided to divorce with the sun, and married darkness who can really sacrifice himself to bring up the beauty of the moon.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นานมาแล้วโลกได้รับการพิจารณาสถานที่ที่น่าเกลียดที่สุดทั่วทั้งจักรวาล; มีพืชที่ไม่มีแสงไม่มีและไม่มีชีวิต พระเจ้าตัดสินใจที่จะส่งสองสว่าง, สิ่งมีชีวิตที่มีประสิทธิภาพ, ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์จะปึกแผ่นดินด้วยแสง พวกเขากลายเป็นผู้นำของท้องฟ้าบริสุทธิ์ guider ผู้ควบคุมทะเลและคุ้มครองของโลกของเรา แต่อำนาจของพวกเขาได้ไม่เท่าเทียมกันที่แม้เมื่อดวงจันทร์ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประสิทธิภาพที่สองเธอก็กลายเป็นอะไรเมื่อเทียบกับสามีของเธอ, ดวงอาทิตย์ในตอนแรกทั้งคู่เดินขึ้นไปบนสวยดี; พวกเขาทั้งสองทำงานอย่างขยันหมั่นเพียรที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้น่ากลัว มันเป็นดวงจันทร์ที่มากับความคิดของ "พืช" เธอถามสำหรับการใช้พลังงานของดวงอาทิตย์ที่จะสร้างพวกเขาและอาทิตย์ที่ตกลงกันไว้ ทันใดนั้นแผ่นดินเป็นปกที่มีสีและความนุ่มนวลของหญ้ามันเป็นเหมือนพรจากพระเจ้าและพระเจ้าก็ยินดีที่โดยความคิดของ "พืช". ทุกวันขอบคุณหญ้าไปยังดวงอาทิตย์เพื่อให้พวกเขามีชีวิต แต่พวกเขาไม่เคยดวงจันทร์ขอบคุณสำหรับการมีความคิด ดวงจันทร์อยู่เงียบ ๆ ทุกวันต้นไม้ขอบคุณไปยังดวงอาทิตย์เพื่อให้พวกเขามีอำนาจ แต่พวกเขาไม่เคยขอขอบคุณดวงจันทร์เพื่ออะไร ดวงจันทร์อยู่เงียบ ๆ และก็ไม่สนใจอีกครั้ง ทุกวันอาทิตย์ดอกไม้ขอบคุณสำหรับการให้พวกเขาเสริมความงามและเวลานี้พวกเขาไม่ได้รับโอกาสที่จะสังเกตเห็นดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ได้รับความสว่างและสดใส; มันรู้สึกเหมือนดวงจันทร์ไม่เคยมีอยู่ในขณะที่ดวงอาทิตย์อยู่เบื้องหลัง ดวงจันทร์ตอนนี้รู้สึกแย่มากที่จะละเลยและการโต้เถียงระหว่างทั้งคู่เริ่มต้น ดวงจันทร์มีเรื่องไม่สบายใจอำนาจและความสว่างของดวงอาทิตย์ได้และดวงอาทิตย์ถูกโทษดวงจันทร์เป็นหน่อมแน้มเกินไปและยังไม่บรรลุนิติภาวะ พืชอื่น ๆ และอื่น ๆ เพิ่มขึ้นบนโลกและดวงอาทิตย์กลายเป็นยุ่งกว่าก่อนที่เขาไม่สนใจความโกรธและความโศกเศร้าของดวงจันทร์และสดใสเปล่งปลั่งเท่าที่เขาสามารถ ตอนนี้ดวงจันทร์ก็แทบมองไม่เห็นเมื่อท้องฟ้า เธอรู้สึกเหงามากและถามว่าดวงอาทิตย์ยังรักเธอและใส่ใจเกี่ยวกับความรู้สึกของเธอน้ำตาของเธอ ... เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ตั้งแต่ไม่มีอะไรบนโลกอาศัยอยู่กับเธอ บรรยากาศระหว่างคู่หันแย่ลง. วันหนึ่งดวงจันทร์ปฏิเสธที่จะกลับบ้านไปกับแสงแดดและเลือกที่จะอยู่บนโลกเพียงอย่างเดียวในขณะที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ดวงอาทิตย์ก็กลับบ้านและเขาไม่เคยคิดว่าลึกลับความมืดจะเป็นอันตรายเกิดขึ้น ความมืดตกหลุมรักกับดวงจันทร์ที่เห็นครั้งแรกและก็เต็มใจที่จะทำอะไรที่พอใจดวงจันทร์ ดวงจันทร์ชอบความมืดเกินไปเมื่อเข้าพักนอกจากนี้เขาเธอดูสดใสเท่าดวงอาทิตย์ ความมืดของดวงจันทร์ถามว่าทำไมเธอไม่มีความสุขเช่นนั้นและดวงจันทร์บอกว่าเขามีเหตุผลที่ว่าทำไม ความมืดขึ้นมาด้วยความคิดที่จะสร้างมนุษย์ที่เกิดมาจะได้รับการกลัวความมืด เขาถามว่าดวงจันทร์จะแสดงขึ้นในวันที่สองและดวงจันทร์ได้ ดวงจันทร์ได้ยินการแข็งค่าของมนุษย์และรู้สึกเหมือนเธอเป็นตอนนี้เกือบจะเป็นสิ่งที่สำคัญและมีประสิทธิภาพขณะที่ดวงอาทิตย์. จากวันนั้นบนดวงจันทร์จึงตัดสินใจที่จะหย่ากับดวงอาทิตย์และความมืดที่แต่งงานจริงๆสามารถเสียสละตัวเองเพื่อนำมาขึ้นกับความงามของ ดวงจันทร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นานมาแล้ว โลกก็ถือว่าน่าเกลียดทั่วจักรวาล ; ไม่มีพืช ไม่มีแสง ไม่มีชีวิต พระเจ้าตัดสินใจที่จะส่งสว่าง สองสิ่งมีชีวิตที่มีประสิทธิภาพ , ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์หรูหราโลกด้วยแสง พวกเขากลายเป็นผู้นำของท้องฟ้าศักดิ์สิทธิ์ผู้นำทางที่ควบคุมทะเล และผู้ปกป้องโลกของเรา อย่างไรก็ตาม อำนาจของพวกเขามีการกระจายไม่เท่ากันนั้นเมื่อดวงจันทร์ถูกตั้งชื่อเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประสิทธิภาพที่สอง เธอก็ไม่มีอะไรเมื่อเทียบกับสามีของเธอ , ดวงอาทิตย์

ตอนแรกคู่ก็สวยดี พวกเขาทำงานอย่างขยันหมั่นเพียร เปลี่ยนโลกที่น่ากลัวนี้ มันคือดวงจันทร์ที่ขึ้นมาด้วยไอเดียของ " พืช " เธอถามพลังงานจากแสงอาทิตย์เพื่อสร้างพวกเขาและดวงอาทิตย์ตกลง ทันใดนั้นโลกถูกปกคลุมด้วยสีและความนุ่มนวลของหญ้า มันเหมือนได้พรจากพระเจ้า และพระเจ้าก็ยินดี โดยความคิดของ " พืช "

ขอบคุณทุก ๆ วัน หญ้ากับดวงอาทิตย์ให้ชีวิต แต่พวกเขาไม่เคยขอบคุณพระจันทร์ มีความคิด ดวงจันทร์อยู่เงียบๆ ทุก ๆวัน ต้นไม้ขอบคุณดวงอาทิตย์ให้พลังงาน แต่พวกเขาไม่เคยขอบคุณดวงจันทร์เลยดวงจันทร์อยู่เงียบๆ และก็ไม่สนใจอีก ทุกๆ วัน อาทิตย์ ขอบคุณดอกไม้ เพื่อให้ความสวยงาม และในครั้งนี้พวกเขาไม่ได้รับโอกาสที่จะสังเกตเห็นดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์จะสว่างขึ้น และสว่างขึ้น มันรู้สึกเหมือนพระจันทร์ที่ไม่เคยมีตัวตนในขณะพักอยู่หลังดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตอนนี้รู้สึกไม่ดีมากที่จะถูกละเว้น และการโต้แย้งระหว่างสองเริ่มต้นดวงจันทร์โมโหเกี่ยวกับพลังงานและความสว่างของดวงอาทิตย์ และดวงอาทิตย์เป็นโทษพระจันทร์ถูกเกินไปที่ไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลก มากขึ้นพืชเติบโตบนโลกและดวงอาทิตย์กลายเป็น busier กว่าก่อน เขาไม่สนใจ ความโกรธและความเศร้าของดวงจันทร์ส่องสว่าง เท่าที่เขาทำได้ ตอนนี้ พระจันทร์เกือบจะมองไม่เห็นบนฟากฟ้า เธอรู้สึกเหงา และ ถามว่า ซัน ยัง รัก เธอและ แคร์ความรู้สึกของเธอ น้ำตาของเธอ . . . . . . . เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีอะไรบนโลกที่อาศัยของเธอ บรรยากาศระหว่างคู่รักกลายเป็นแย่ลง

วันนึง พระจันทร์กับพระอาทิตย์ปฏิเสธที่จะกลับบ้าน และเลือกที่จะอยู่บนโลกคนเดียวสักพัก อาทิตย์กลับบ้าน และเขาไม่คิดว่าลึกลับ ความมืด อันตรายจะเกิดขึ้นความมืดที่หลงรักดวงจันทร์ในแรกเห็น และพร้อมที่จะทำทุกอย่างที่ชอบพระจันทร์ พระจันทร์ชอบความมืดนะ ตอนอยู่นอกจากเขา เธอดูสดใสเท่าดวงอาทิตย์ ความมืดขอจันทร์ทำไมเธอไม่มีความสุข และดวงจันทร์บอกเหตุผลว่าทำไม ความมืดมาด้วยความคิดที่จะสร้างมนุษย์ที่เกิดจะกลัวความมืดเขาถามพระจันทร์โผล่มาวันที่สอง และดวงจันทร์ได้ พระจันทร์ได้ยินคุณค่าของมนุษย์และความรู้สึกเหมือนเธอตอนนี้เกือบเป็นสำคัญ และมีประสิทธิภาพเป็นดวงอาทิตย์

หลังจากวันนั้น ดวงจันทร์จึงตัดสินใจหย่ากับดวงอาทิตย์ และแต่งงานกับความมืดที่สามารถเสียสละตัวเองเพื่อนำความงามของดวงจันทร์