Earth’s surface temperatures in 201

Earth’s surface temperatures in 2015 were the warmest since modern-day record keeping began in 1880, two U.S. government agencies reported Wednesday.

Even without naturally occurring warming trends, such as El Nino, 2015 would have been hotter than 2014, also a record-setter, NASA and the National Oceanic and Atmospheric Administration told reporters during a conference call.

Most of the heating is due to the combined effects of deforestation with the burning of fossil fuels, leaving more heat-trapping carbon dioxide and other greenhouse gases in the atmosphere, said Gavin Schmidt, head of NASA’s Goddard Institute for Space Studies in New York.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุณหภูมิพื้นผิวของโลกในอบอุ่นตั้งแต่เก็บข้อมูลทันสมัยเริ่มต้นในปี 1880 หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาสองรายงานพุธแม้ โดยธรรมชาติเกิดภาวะแนวโน้ม เช่นเอลนิโน 2015 จะได้ร้อนกว่า 2014 นอกจากนี้การบันทึกเกรด NASA และ มหาสมุทรแห่งชาติ และบรรยากาศในการจัดการกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการประชุมส่วนใหญ่ของความร้อนเนื่องจากผลของการทำลายด้วยการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล ออกเพิ่มเติมความร้อนดักคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ในบรรยากาศ Gavin Schmidt หัวของนาซ่าก็อดเดิร์ดสถาบันศึกษาพื้นที่ในนิวยอร์กกล่าวว่า ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ของโลกอุณหภูมิพื้นผิวในปี 2015 เป็นคนที่อบอุ่นที่สุดตั้งแต่วันที่ทันสมัยบันทึกการรักษาเริ่มต้นขึ้นในปี 1880 เราสองหน่วยงานราชการรายงานพุธ. แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติแนวโน้มภาวะโลกร้อนเช่นเอลนีโญ 2015 จะได้รับร้อนกว่าปี 2014 นอกจากนี้ยังมีการบันทึกการตั้งค่า นาซ่าและ National บริหารมหาสมุทรและบรรยากาศกล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการประชุม. ส่วนใหญ่ของความร้อนเป็นเพราะผลรวมของการตัดไม้ทำลายป่าที่มีการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลออกจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดักความร้อนมากขึ้นและก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ในบรรยากาศ กาวินชมิดท์หัวของนาซาก็อดดาร์ดสถาบันเพื่อการศึกษาอวกาศในนิวยอร์กกล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อุณหภูมิโลกในปี 2015 คือ อบอุ่น ตั้งแต่สมัยการบันทึกเริ่มใน 1880 สองสหรัฐอเมริกาหน่วยงานราชการรายงานวันพุธแม้ไม่มีแนวโน้มภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น El Nino 2015 จะร้อนกว่าปี 2014 ยังบันทึก Setter NASA และบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์ส่วนใหญ่ของความร้อนเนื่องจากการรวมผลของการลดลงของพื้นที่ป่าไม้ กับการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล ปล่อยให้ความร้อนดักคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ในบรรยากาศ บอกว่า เกวิน ชมิดท์ หัวหน้าสถาบันเพื่อการศึกษาอวกาศกอดดาร์ดของนาซาในนิวยอร์ก