Once upon a time. There is a poor b

Once upon a time. There is a poor boy he wants to start a business of their own. He tried to make his dream come true by studying. Until one day, he graduated from the University, and he began to build the business of their own.he dreams of success and he has created a pride for the family.He knows the money because he was poor.He will use only the essential not to pay a extravagant.He don't like to use the brand name If we don't buy brand name ,we may have saved a lot.Because rich is the one who knows the money to keep the money.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กยากจนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง เขาพยายามทำความฝันของเขามาจริง โดยศึกษา จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาจบศึกษาจากมหาวิทยาลัย และเริ่มสร้างธุรกิจของ own.he ของพวกเขาประสบความสำเร็จ และเขาได้สร้างความภาคภูมิใจสำหรับครอบครัวเขารู้ว่าเงินไม่พอเขาจะใช้เท่านั้นไม่จำเป็นต้องจ่ายโรงแรมไม่ชอบใช้ชื่อแบรนด์เราไม่ซื้อยี่ห้อ เราอาจบันทึกมากเพราะรวยเป็นผู้ที่รู้ว่าเงินที่จะเก็บเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กที่น่าสงสารเขาต้องการที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองเป็น เขาพยายามที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงโดยการศึกษา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและเขาก็เริ่มที่จะสร้างธุรกิจในฝัน own.he ของความสำเร็จและเขาได้สร้างความภาคภูมิใจสำหรับ family.He รู้เงินเพราะเขาเป็น poor.He จะใช้เฉพาะที่จำเป็น ไม่จ่าย extravagant.He ไม่ชอบที่จะใช้ชื่อแบรนด์ถ้าเราไม่ได้ซื้อแบรนด์ชื่อเราอาจจะมีการบันทึก lot.Because อุดมไปด้วยคือคนที่รู้ว่าเงินที่จะเก็บเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กยากจน เขาต้องการที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง เขาพยายามที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง โดยเรียน จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย และเขาก็เริ่มที่จะสร้างธุรกิจของพวกเขา own.he ความฝันของความสำเร็จและเขาได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว เขารู้ว่าเงินเพราะเขายากจน เขาจะใช้เฉพาะที่จำเป็น ไม่ใช่จ่ายฟุ่มเฟือยเขาไม่อยากจะใช้ชื่อแบรนด์ ถ้าเราไม่ซื้อยี่ห้อ เราอาจจะได้ช่วยมาก เพราะคนรวย คือคนที่รู้จักเงิน การเก็บรักษาเงิน