Achieving the right balance of art

Achieving the right balance of art and science is the
key to successful sustainability, as in the case of other
organizational transformation projects, a point which
is supported by the research evidence. International
employer surveys (Haanaes, Balagopal and Arthur;
Kruschwitz and Haanaes) have revealed that the
organizations generating a competitive advantage
from their sustainability initiatives were most
likely to be exhibiting both an analytical approach
to sustainability, including the development of a
formal business case as well as the use of scenario
planning and strategic analysis, as well as a shift in
organizational culture with an increased emphasis on intangible and qualitative business goals such as
enhanced innovation and creativity.
Indeed, strategic sustainability requires
a “transformative” approach involving not just
extensive changes to business processes and strategy
but a significant change in mindset and corporate
culture, particularly involving a shift in focus
from traditional financial or quantitative indicators
of business success to social and environmental
indicators as well as the more intangible, qualitative
factors such as improved awareness of and attitudes
towards the company brand. This involves the
application of both “art” and “science” perspectives,
or what might also be referred to as “right brain” and
“left brain” thinking, respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บรรลุการสมดุลของศิลปะและวิทยาศาสตร์เป็นการกุญแจสู่ความยั่งยืนความสำเร็จ เช่นในกรณีของอื่น ๆการเปลี่ยนแปลงองค์กรโครงการ จุดที่สนับสนุน โดยหลักฐานการวิจัย นานาชาตินายจ้างสำรวจ (Haanaes, Balagopal และ ArthurKruschwitz และ Haanaes) ได้เปิดเผยที่จะองค์กรสร้างความจากความยั่งยืนของ โครงการได้มากที่สุดน่าจะมีอย่างมีระดับทั้งวิธีการวิเคราะห์ทางเพื่อความยั่งยืน การพัฒนารวมทั้งการทางธุรกิจกรณีเป็นการใช้สถานการณ์จำลองวิเคราะห์วางแผน และกลยุทธ์ เป็นกะในวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นเป้าหมายเชิงคุณภาพ และมีธุรกิจเช่นเพิ่มเพิ่มนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์แน่นอน ความยั่งยืนกลยุทธ์ต้องไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับวิธีการแบบ "เปลี่ยนแปลง"เปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและกลยุทธ์อย่างละเอียดแต่การเปลี่ยนแปลงสำคัญ ใน mindset และองค์กรวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกะในโฟกัสจากตัวชี้วัดเชิงปริมาณ หรือการเงินแบบดั้งเดิมความสำเร็จในธุรกิจเพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อมตัวบ่งชี้เป็นการเพิ่มเติมไม่มีตัวตน เชิงคุณภาพปัจจัยต่าง ๆ เช่นทัศนคติและจิตสำนึกที่ดีขึ้นของต่อแบรนด์ของบริษัท นี้เกี่ยวข้องกับการใช้มุมมองของ "ศิลปะ" และ "วิทยาศาสตร์"หรือว่าอาจยังถูกเรียกว่า "สมองขวา" และ"ซ้ายสมอง" คิด ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสมดุลของศิลปะและวิทยาศาสตร์เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับในกรณีอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงโครงการขององค์กรจุดที่ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานการวิจัย นานาชาติการสำรวจนายจ้าง (Haanaes, Balagopal และอาเธอร์; Kruschwitz และ Haanaes) ได้เปิดเผยว่าองค์กรที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันจากการริเริ่มการพัฒนาอย่างยั่งยืนของพวกเขาส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะได้รับการแสดงทั้งสองวิธีการวิเคราะห์การพัฒนาอย่างยั่งยืนรวมทั้งการพัฒนาที่กรณีศึกษาทางธุรกิจอย่างเป็นทางการเช่นกันการใช้สถานการณ์การวางแผนและการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมองค์กรที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นในเป้าหมายทางธุรกิจที่ไม่มีตัวตนและคุณภาพเช่นนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้นและความคิดสร้างสรรค์. อันที่จริงการพัฒนาอย่างยั่งยืนยุทธศาสตร์ต้องเป็น "กระแส" วิธีการที่เกี่ยวข้องกับการไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางกระบวนการทางธุรกิจและกลยุทธ์การแต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความคิดและองค์กรวัฒนธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในโฟกัสจากตัวชี้วัดทางการเงินหรือเชิงปริมาณแบบดั้งเดิมของความสำเร็จของธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตัวชี้วัดเช่นเดียวกับที่ไม่มีตัวตนมากขึ้นคุณภาพปัจจัยต่างๆเช่นการรับรู้ที่ดีขึ้นและทัศนคติที่มีต่อตราสินค้าของ บริษัท นี้เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ทั้ง "ศิลปะ" และ "วิทยาศาสตร์" มุมมองหรือสิ่งที่อาจจะเรียกว่า"สมองซีกขวา" และ"สมองด้านซ้าย" คิดตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บรรลุความสมดุลที่เหมาะสมของศิลปะและวิทยาศาสตร์เป็น
คีย์ประสบความสําเร็จอย่างยั่งยืน เช่น ในกรณีของโครงการเปลี่ยนแปลงองค์กรอื่น

จุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานงานวิจัย การสำรวจ
นายจ้างระหว่างประเทศ ( haanaes balagopal , และอาร์เธอร์ ;
kruschwitz และ haanaes ) ได้เปิดเผยว่า การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน องค์กร

จากความคิดริเริ่มความยั่งยืนของพวกเขาส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะถูกจัดแสดงทั้ง

เพื่อวิเคราะห์แนวทางความยั่งยืน รวมทั้งการพัฒนา
กรณีธุรกิจที่เป็นทางการเช่นเดียวกับการใช้งานของการวิเคราะห์ และ วางแผนกลยุทธ์ สถานการณ์
เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงใน
วัฒนธรรมองค์การกับที่เน้นเรื่องคุณภาพไม่มีตัวตนและเป้าหมายทางธุรกิจเช่น
นวัตกรรม
เพิ่มความคิดสร้างสรรค์แน่นอน , ความยั่งยืนเชิงกลยุทธ์ต้อง
" การเปลี่ยนแปลง " วิธีการที่เกี่ยวข้องกับไม่เพียง แต่การเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจมากมาย

แต่กลยุทธ์และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในทัศนคติและวัฒนธรรมองค์กร
, โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนโฟกัสจากตัวชี้วัดทางการเงินหรือเชิงปริมาณแบบ

ของความสำเร็จทางธุรกิจและสังคมสิ่งแวดล้อม
ตัวบ่งชี้รวมทั้งเพิ่มเติมที่ไม่มีตัวตนปัจจัยเชิงคุณภาพ
เช่นปรับปรุงความตระหนักและทัศนคติ
ที่มีต่อแบรนด์ของ บริษัท นี้เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ทั้ง
" ศิลปะ " และ " วิทยาศาสตร์ " มุมมอง ,
หรือสิ่งที่อาจจะเรียกว่า " สมอง "
" สมองซีกซ้าย " คิดตามลำดับ