Most of us are exposed to large amo

Most of us are exposed to large amounts of UVA throughout our lifetime. UVA rays account for up to 95 percent of the UV radiation reaching the Earth's surface. Although they are less intense than UVB, UVA rays are 30 to 50 times more prevalent. They are present with relatively equal intensity during all daylight hours throughout the year, and can penetrate clouds and glass.
UVA, which penetrates the skin more deeply than UVB, has long been known to play a major part in skin aging and wrinkling (photoaging), but until recently scientists believed it did not cause significant damage in areas of the epidermis (outermost skin layer) where most skin cancers occur. Studies over the past two decades, however, show that UVA damages skin cells called keratinocytes in the basal layer of the epidermis, where most skin cancers occur. (Basal and squamous cells are types of keratinocytes.) UVA contributes to and may even initiate the development of skin cancers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนใหญ่ของเรากำลังเผชิญกับจำนวนมากของ UVA ตลอดอายุการใช้งานของเรา รังสีบัญชีถึงร้อยละ 95 ของรังสีที่ถึงพื้นผิวโลก แม้จะรุนแรงน้อยกว่ารังสี รังสียูวีจะแพร่หลายมากขึ้น 30-50 ครั้ง พวกเขาจะอยู่กับความเข้มค่อนข้างเท่ากันช่วงเวลาตลอดทั้งปีทั้งหมด และสามารถเจาะเมฆและกระจกUVA ซึมผิวลึกกว่า UVB ได้รับการเรียกการเล่นเป็นส่วนสำคัญในการเกิดริ้วรอยและริ้วรอย (ภาวะแก่แดด), แต่จนถึงเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันไม่ทำความเสียหายในพื้นที่ของชั้นหนังกำพร้า (ชั้นนอกสุดผิว) ซึ่งการเกิดขึ้นของมะเร็งผิวหนังมากที่สุด การศึกษาในทศวรรษสอง อย่างไรก็ตาม แสดงว่า UVA หายผิวเรียกว่า keratinocytes ในชั้นแรกเริ่มผิว ตำแหน่งที่เกิดมะเร็งผิวหนังมากที่สุด (พื้นฐาน และ squamous เซลล์เป็นชนิด keratinocytes) รังสียูวีเอก่อให้เกิด และแม้อาจเริ่มการพัฒนาของมะเร็งผิวหนัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนมากของเรากำลังเผชิญกับจำนวนมากของรังสี UVA ตลอดอายุการใช้งานของเรา รังสียูวีเอบัญชีได้ถึงร้อยละ 95 ของรังสียูวีถึงพื้นผิวโลก แม้ว่าพวกเขาจะรุนแรงน้อยกว่า UVB รังสี UVA 30 ถึง 50 เท่าที่แพร่หลายมากขึ้น ที่มีอยู่มีความรุนแรงค่อนข้างเท่าเทียมกันในทุกเวลากลางวันตลอดทั้งปีและสามารถทะลุผ่านเมฆและแก้ว.
รังสี UVA ซึ่งแทรกซึมผิวลึกมากขึ้นกว่า UVB ได้รับการรู้จักกันมานานที่จะเล่นเป็นส่วนสำคัญในผิวริ้วรอยและรอยย่น (แสงแดด) แต่จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญในพื้นที่ของหนังกำพร้า (ชั้นนอกสุดของผิว) ซึ่งส่วนใหญ่มะเร็งผิวหนังเกิดขึ้น การศึกษาที่ผ่านมาสองทศวรรษที่ผ่านมา แต่แสดงให้เห็นว่าเซลล์ผิวให้เกิดความเสียหายจากรังสี UVA เรียกว่า keratinocytes ในชั้นฐานของหนังกำพร้าซึ่งส่วนใหญ่มะเร็งผิวหนังเกิดขึ้น (Basal และเซลล์ squamous เป็นชนิดของ keratinocytes.) ก่อให้เกิดรังสี UVA และอาจเริ่มต้นการพัฒนาของมะเร็งผิวหนัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนใหญ่เราเห็นจำนวนมากของรังสี UVA ตลอดชั่วชีวิตของเรา บัญชีรังสี UVA ได้ถึงร้อยละ 95 ของรังสี UV ถึงพื้นผิวโลก แม้ว่าพวกเขาจะรุนแรงน้อยกว่า UVA UVB 30 ถึง 50 ครั้งมากกว่าที่แพร่หลาย พวกเขาเป็นปัจจุบันที่มีความรุนแรงค่อนข้างเท่าเทียมกันในเวลากลางวันตลอดทั้งปี และสามารถเจาะเมฆแก้วรังสี UVA ซึ่งแทรกซึมผิวลึกมากขึ้นกว่า UVB ได้นานถูกเรียกว่าเล่นเป็นส่วนสำคัญในริ้วรอยผิวและ wrinkling ( ภาพถ่าย ) แต่จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ของผิวหนังชั้นนอก ( ชั้นนอกสุดผิว ) ที่มะเร็งผิวหนังมากที่สุดเกิดขึ้น การศึกษาที่ผ่านมาสองทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม พบว่า นอกจากความเสียหายผิวที่เรียกว่าเซลล์คีราติโนไซต์ในชั้นฐานของหนังกำพร้าที่มะเร็งผิวหนังมากที่สุดเกิดขึ้น ( พื้นฐานและ squamous เซลล์เป็นชนิดของคีราติโนไซต์ ) จึงก่อให้เกิดและอาจเริ่มต้นการพัฒนาของโรคมะเร็งผิวหนัง