Across his filmography, David Finch

Across his filmography, David Fincher's work has been noted as dark, foreboding, chilly, cynical, cutting. and irreverent. The curious case of Benjamin Button is a striking anomaly in his filmography as the allure of the project makes some sense, but the execution is a ush, unabashed romance bubbling with mawkish sentiment. The movie is graceful, beautiful, poetic, and yet oddly distant. The whole production feels gilded as Fincher made a deeply moving film out of a fairly terrible script. The most curious thing about The Curious Case of Benjamin Button is how it manages to be a tearjerker despite its craven desire to elicit emotion from a director who rejects sentimentality. In an interview in David Prior's excellent The Curious Birth of Benjamin Button documentary, Fincher says he was attracted to the project because he wanted to make a movie about death since his father had recently died. He explains that being at his father's deathbed was so much more profound than having a child. "You want it to be over as quickly as possible," says Fincher, "and yet you don't want it to be over." This led to him wanting to tell a story about "Love measured against this graph paper of something we try so desperately to ignore. That's a really lovely sentiment, but yes, love and death are intertwined as they give each other meaning. However, Fincher says that unlike Brad Pitt, he didn't see Benjamin Button as a love story. He saw it as a "death story, and not a tale of co- dependency. And at the end of the documentary, he says (halfjokingly, "I don't want to see anybody together I want to see everybody as unhappy as me. Everybody in this movie dies. That's how I was able to stomach the rest of it." Cate Blanchett describes Fincher as a cynic, and although I've never met him, as l've stated before, I don't think

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในผลงานของเขา งานเดวิดฟินเชอร์ได้รับการบันทึกไว้เป็นมืด foreboding หนาว ขี้ ระแวง ตัด และเรื่อง อยากรู้อยากเห็นฅนโลกเป็นความผิดปกติที่โดดเด่นในผลงานของเขาชวนหลงใหลของโครงการทำให้รู้สึกบางอย่าง แต่การดำเนินการเป็น ush โรแมนติกซึ่งฟองอากาศ ด้วยความเชื่อมั่น mawkish ภาพยนตร์มีสง่า สวย บทกวี และยังร้างไกล การผลิตทั้งหมดรู้สึกว่าหอคำเป็นฟินเชอร์ทำภาพยนตร์เคลื่อนไหวลึกจากสคริปต์ค่อนข้างน่ากลัว สิ่งอยากรู้อยากเห็นมากที่สุดเกี่ยวกับการอยากรู้อยากเห็นกรณีของเบนจามิปุ่มคือ วิธีจัดการจะ tearjerker แม้ มีความปรารถนาที่คราเวนจะล้วงเอาอารมณ์จากกรรมการที่ปฏิเสธ sentimentality ในการสัมภาษณ์ในสารคดีอยากรู้อยากเห็นเกิดของเบนจามินปุ่มวิดก่อนดี ฟินเชอร์กล่าวว่า เขาถูกดึงดูดให้โครงการ เพราะเขาต้องการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับความตายเนื่องจากพ่อของเขาเพิ่งเสียชีวิต เขาอธิบายว่า เป็นหนังสือของพ่อของเขาคือลึกซึ้งมากยิ่งกว่ามีเด็ก "คุณต้องการให้ผ่านเร็วที่สุด กล่าวว่า ฟินเชอร์ "และยังได้ คุณไม่ต้องการจะไป" นี้นำเขาอยากเล่าเรื่องราว "ความรักวัดกับกระดาษกราฟนี้เราให้หมดพยายามละเว้นบางสิ่งบางอย่าง ที่มีความเชื่อมั่นน่ารักจริง ๆ แต่ใช่ ความรักและความตายจะเกี่ยวพันกับพวกเขาให้ความหมายกัน อย่างไรก็ตาม ฟินเชอร์กล่าวว่า แตกต่างจากแบรดพิตต์ เขาไม่เห็นปุ่มเบนจามินเป็นเรื่องราวความรัก เขาเห็นว่าเป็นการ "เรื่องตาย และเรื่องของบริษัทอ้างอิงไม่ และปลายของสารคดี เขากล่าวว่า (halfjokingly "ฉันไม่ต้องการเห็นใครโดดอยากเห็นทุกคนเป็นความสุขกับผม ทุกคนในหนังเรื่องนี้ตาย นั่นคือวิธีที่ผมสามารถกระเพาะอาหารส่วนเหลือของมัน" ลบ Blanchett อธิบายฟินเชอร์เป็นแบบ cynic และแม้ว่าฉันไม่เคยพบเขา l ได้ระบุก่อน ฉันไม่คิดว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้ามผลงานของเขาในการทำงานของเดวิดฟินเชอร์ได้รับการตั้งข้อสังเกตว่ามืดสังหรณ์, อากาศหนาวเย็นถากถางตัด และไม่เคารพ เบนจามินบัตตันอัศจรรย์ฅนโลกไม่เคยรู้เป็นความผิดปกติท​​ี่โดดเด่นในผลงานของเขาเป็นเสน่ห์ของโครงการที่จะทำให้ความรู้สึกบางอย่าง แต่การดำเนินการเป็น USH, โรแมนติกไม่สะทกสะท้านกับความเชื่อมั่นของฟองน่าหมั่นไส้ หนังเรื่องนี้เป็นที่สง่างาม, สวยงาม, บทกวีและยังห่างไกลอย่างผิดปกติ การผลิตทั้งรู้สึกเป็นทองฟินเชอร์ทำภาพยนตร์ลึกย้ายออกจากสคริปต์ที่น่ากลัวอย่างเป็นธรรม สิ่งที่อยากรู้อยากเห็นมากที่สุดเกี่ยวกับเบนจามินบัตตันอัศจรรย์ฅนโลกไม่เคยรู้คือวิธีการจัดการเพื่อให้ละครโศกแม้จะมีความปรารถนาที่ขี้ขลาดที่จะล้วงเอาอารมณ์ความรู้สึกจากผู้กำกับที่ปฏิเสธความเห็นอกเห็นใจ ในการให้สัมภาษณ์เดวิดก่อนที่ยอดเยี่ยมเกิดอยากรู้อยากเห็นของเบนจามินปุ่มสารคดีฟินเชอร์กล่าวว่าเขาถูกดึงดูดให้โครงการเพราะเขาอยากจะทำหนังเกี่ยวกับการตายตั้งแต่พ่อของเขาเพิ่งจะเสียชีวิต เขาอธิบายว่าการที่เตียงมรณะของพ่อของเขาเป็นอื่น ๆ อีกมากมายที่ลึกซึ้งกว่าที่มีเด็ก "คุณอยากให้มันเป็นมากกว่าเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้" ฟินเชอร์กล่าวว่า "และยังคุณไม่อยากให้มันเป็นมากกว่า". นี้นำไปสู่​​เขาต้องการที่จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ "ความรักวัดกับกระดาษกราฟนี้สิ่งที่เราพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สนใจ. นั่นเป็นความรู้สึกที่น่ารักจริงๆ แต่ใช่รักและความตายเป็นพันเท่าที่พวกเขาให้แต่ละความหมายอื่น ๆ . แต่ฟินเชอร์ บอกว่าแตกต่างจากแบรดพิตต์เขาไม่เห็นปุ่มเบนจามินเป็นเรื่องราวความรัก. เขาเห็นว่ามันเป็น "เรื่องความตายและไม่ได้เรื่องของการพึ่งพาร่วม และในตอนท้ายของสารคดีที่เขากล่าว (halfjokingly, "ฉันไม่ต้องการที่จะเห็นใครด้วยกันผมอยากเห็นทุกคนไม่มีความสุขกับผม. ทุกคนในหนังเรื่องนี้ตาย. นั่นเป็นวิธีที่ผมสามารถที่จะท้องส่วนที่เหลือของมัน . "Cate Blanchett อธิบาย Fincher เป็นถากถางและแม้ว่าฉันไม่เคยพบเขาในขณะที่ L'ได้ระบุไว้ก่อนผมไม่คิดว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในผลงานของเขา เดวิด ฟินเชอร์ ทำงานได้ถูกบันทึกเป็นมืดลางอากาศหนาวเย็นถากถางตัด และเคารพ . กรณีที่อยากรู้อยากเห็นของปุ่มเบนจามินเป็นมิติที่โดดเด่นในผลงานของเขาเป็นเหยื่อของโครงการทำให้ความรู้สึกบางอย่าง แต่การดำเนินการเป็น ชรักฟองกับความเชื่อมั่นซึ่งไม่สะทกสะท้าน , จืดชืด หนังเป็นสง่างาม , สวยงาม , บทกวี แต่น่าแปลกที่ห่างไกล การผลิตทั้งหมดรู้สึกปิดทองเป็นฟินเชอร์ได้ลึกย้ายภาพยนตร์จากบทค่อนข้างน่ากลัว อยากรู้มากที่สุดเกี่ยวกับกรณีอยากรู้อยากเห็นของปุ่มเบนจามินเป็นวิธีการจัดการเป็นหนังชีวิต แม้ปรารถนาขี้ขลาดเพื่อกระตุ้นอารมณ์จากกรรมการที่ปฏิเสธอารมณ์ . ในการสัมภาษณ์ในเดวิดก่อนเป็นเลิศเกิดอยากรู้อยากเห็นของ Benjamin ปุ่มเอกสาร ฟินเชอร์ บอกว่า เขาสนใจโครงการนี้เพราะเขาต้องการที่จะทำหนังเกี่ยวกับความตาย เพราะพ่อเขาเพิ่งตาย เขาอธิบายว่า การสิ้นพระชนม์ของเสด็จพ่อมากลึกซึ้งมากขึ้นกว่าที่มีเด็ก " . คุณต้องการให้มันจบโดยเร็วที่สุด " บอกว่า ฟินเชอร์ " แต่คุณไม่อยากให้มันเป็นมากกว่า . " ทำให้เขาอยากจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ " รักวัดนี้กับกระดาษกราฟของสิ่งที่เราพยายามเหลือเกินที่จะละเว้น นั่นเป็นอารมณ์ น่ารักจริงๆ แต่ใช่ ความรัก และความตายเป็นพันที่พวกเขาให้แต่ละอื่น ๆ ความหมาย อย่างไรก็ตาม ฟินเชอร์ บอกว่าไม่เหมือนแบรด พิตต์ เขาไม่ได้ดูเบนจามินปุ่มเป็นเรื่องราวของความรัก เขาเห็นมันเป็น " ความตาย เรื่องราว และไม่ใช่เรื่องของการร่วมพึ่งพา และในตอนท้ายของสารคดี เขาบอกว่า ( halfjokingly " ฉันไม่ต้องการเห็นใครด้วยกัน ผมอยากเห็นทุกคนที่ไม่มีความสุขเลย ทุกคนในหนังเรื่องนี้ตาย นั่นเป็นวิธีที่ฉันสามารถท้องเอง " เคต บลังเชตต์อธิบายฟินเชอร์เป็นนักปรัชญา และถึงแม้ว่าฉันไม่เคยพบเขา ขณะที่ผมระบุไว้ก่อน ผมไม่คิดว่า