IMPORTANCE OF FRONTLINE MANAGEMENT

IMPORTANCE OF FRONTLINE MANAGEMENT IN THE PUBLIC SECTOR
FMs significantly contribute to the growth and development of public sector organizations. They are required to bridge the disconnect between the top management and frontline employees. FMs send messages and receive feedback regarding the organizational performance. They are responsible for the growth of federal agencies by ensuring that clients of these agencies receive satisfactory services. There is no doubt that FMs are important assets in public offices. The organizations, which fail to appreciate their vital roles, face threatening consequences in the form of poor performance and high turnover of talented public servants. Brewer (2005) opined that FMs play a key role in organizational performance and effectiveness, and supervisory management was an important determinant of high performance in federal agencies. These organizations cannot afford to surrender their precious workforce, so they tend to have skillful FMs, who empower the employees by enabling them to realize their important contributions.
It is difficult to terminate poor performing employees. There are certain procedures and protocols that must be followed before proceeding with termination. In the private sector, the hiring and firing of staff is based on the draconian management philosophy; good workers are rewarded, but insubordinate workers are released. Motivation is directly linked to better communication networks with the employees, professional training, good salary, incentives, and a pleasant work environment. Riccucci (2005) mentioned that good policy and law would certainly incentivize workers to achieve the desired goals and objectives of any organization. Further, the optimistic approach of supervising helps in energizing engage their employees in an effective dialogue process to resolve their issues by selecting the most appropriate communicative channels.
There are four communication methods, that is, oral methods (the spoken word), written methods, visual methods, and audio or sound methods (Smithson, 1984). Messages can be passed through a variety of media, for example, circulars, memoranda, policy letters, notices, forms, reports, emails, telephone, fax, paging, face-to-face interaction, interviews, power point presentation, pictures, and more; each one of these has merits and demerits. FMs should identify and select the most appropriate channel to communicate with their employees, taking into consideration both social and cultural barriers that may exist. Alleviating these barriers, improves the flow of communication, which in turn has a positive impact on the growth and profitability of an organization.
Communication should be used as a strategy to achieve organizational goals. FMs ought to be the strategic communicators to influence the employees. The plethora of communication does not give any guarantee to meet target FMs’ accomplishments relative to the proper translation of messages, implementation of strategies, and provoking dialogues with the employees to attain the corporate objectives. FMs should understand the cultural contexts and field of experiences of their employees in order to craft a comprehensive strategy for organizational growth. They are required to prioritize various actions systematically and use relevant information to influence their employees. Through eloquence and articulacy, FMs are able to identify key persons among employees who act as opinion makers. They arrange meetings with such opinion makers and hold discussions on their thoughts terminating clichés and subtly modify their visions for the betterment of the organization. So, they need to analyze the context, visualize a strategy, act like an elite commando to implement strategy, and agitate like a talk-show host to provoke dialogue (Clampitt, Brek, & Williams, 2002). FMs, in their supervisory positions, have a pivotal role in their respective organizations to ponder the concerns and issues of the staff and offer mutually acceptable solutions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสำคัญของการจัดการภาครัฐแนวหน้า FMs มีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาขององค์กรภาครัฐ พวกเขาจะต้องสะพานยกระหว่างผู้บริหารระดับสูงและพนักงานแนวหน้า FMs ส่งข้อความ และได้รับผลป้อนกลับเกี่ยวกับผลการดำเนินงานขององค์กร พวกเขามีหน้าที่ในการเจริญเติบโตของหน่วยงานของรัฐบาลกลาง โดยมั่นใจว่า ลูกค้าของหน่วยงานเหล่านี้ได้รับการบริการที่น่าพอใจ มีข้อสงสัยว่า FMs เป็นสินทรัพย์สำคัญในสำนักงานสาธารณะ องค์กร ที่ไม่ชื่นชอบบทบาทของความสำคัญ หน้าคุกคามผลในรูปแบบของประสิทธิภาพที่ต่ำและการหมุนเวียนข้าราชการประชาชนมีความสามารถสูง ขึ้น Brewer (2005) opined ว่า FMs มีบทบาทสำคัญในองค์กรประสิทธิภาพและประสิทธิผล และจัดการประกาศเป็นดีเทอร์มิแนนต์สำคัญของหน่วยงานของภาครัฐประสิทธิภาพสูง องค์กรเหล่านี้ไม่สามารถมอบบุคลากรอันมีค่าของพวกเขา ดังนั้นพวกเขามักจะมีฝีมือ FMs ที่อำนาจพนักงานโดยให้ตระหนักถึงผลงานสำคัญของพวกเขา เป็นการยากที่จะจบการทำงานของพนักงานประสิทธิภาพดี มีบางขั้นตอนและโพรโทคอลที่ต้องตามก่อนเลิกจ้าง ภาคเอกชน การจ้างและการยิงของพนักงานขึ้นอยู่กับปรัชญาจัดการผล คนดีมีรางวัล ได้ถูกนำออกใช้แรงงาน insubordinate แรงจูงใจที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายสื่อสารที่ดีกับพนักงาน ฝึกอาชีพ เงินเดือนดี แรงจูงใจ และระบบการทำงานที่ดี Riccucci (2005) กล่าวว่า นโยบายที่ดีและกฎหมายจะแน่นอน incentivize ผู้ปฏิบัติงานให้ระบุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กร เพิ่มเติม แนวทางเชิงบวกของการควบคุมในคอร์ส่วนร่วมของพนักงานในกระบวนการเจรจาที่มีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาของพวกเขา โดยการเลือกช่องทางสื่อสารที่เหมาะสมที่สุด มีสี่ วิธีการสื่อสาร ที่ วิธีการพูด (คำพูด), วิธีการเขียน วิธีภาพ และเสียง หรือเสียงวิธี (Smithson, 1984) ข้อความสามารถต้องผ่านความหลากหลายของสื่อ ตัวอย่าง บังคับคำ บันทึก จดหมายนโยบาย ประกาศ ฟอร์ม รายงาน อีเมล์ โทรศัพท์ โทรสาร paging ลมีโต้ตอบ สัมภาษณ์ แบบงานนำเสนอ ภาพ และ อื่น ๆ แต่ละคนเหล่านี้มีนิทานชาดกต่าง ๆ FMs ควรระบุ และเลือกช่องทางที่เหมาะสมเพื่อสื่อสารกับพนักงานของพวกเขา โดยคำนึงถึงอุปสรรคทางสังคม และวัฒนธรรมที่อาจมีอยู่ บรรเทาอุปสรรคเหล่านี้ ปรับปรุงการไหลของการสื่อสาร ซึ่งจะมีผลกระทบกับการเจริญเติบโตและผลกำไรขององค์กร ควรใช้เป็นกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร FMs ที่ควรจะเป็น communicators เชิงกลยุทธ์จะมีผลต่อพนักงาน การสื่อสารมากมายให้การรับรองการสำเร็จของเป้าหมาย FMs สัมพันธ์กับคำแปลที่เหมาะสมของข้อความ กลยุทธ์ และนอบฟอเร็กซ์กับพนักงานบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร FMs ควรเข้าใจบริบททางวัฒนธรรมและฟิลด์ของประสบการณ์ของลูกจ้างการหัตถกรรมกลยุทธ์ครอบคลุมสำหรับการเจริญเติบโตขององค์กร พวกเขาจะต้องจัดลำดับความสำคัญการดำเนินการต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ และใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะมีผลต่อลูกจ้าง Eloquence และ articulacy, FMs จะสามารถระบุบุคคลสำคัญระหว่างพนักงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้แสดงความคิดเห็น พวกเขาจัดประชุมกับผู้แสดงความคิดเห็นดังกล่าว และสนทนายึดความคิดของพวกเขาสิ้นสุดสำนวนซ้ำ ๆ ซาก ๆ และรายละเอียดปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของพวกเขาสำหรับกันถ้วนหน้าขององค์กร ดังนั้น พวกเขาจำเป็นต้องวิเคราะห์บริบท เห็นภาพกลยุทธ์ ทำหน้าที่เสมือนเป็นคอมมานโดยอดใช้กลยุทธ์ และก่อกวนเช่นโฮสต์ทอล์คโชว์เย้าโต้ (Clampitt, Brek และวิ ลเลียมส์ 2002) FMs ในตำแหน่งประกาศ มีบทบาทแปรในองค์กรที่เกี่ยวข้องของการไตร่ตรองความกังวลกับปัญหาของพนักงาน และนำเสนอวิธีแก้ไขปัญหาที่ยอมรับกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสำคัญของการจัดการ FRONTLINE ในภาค จำกัด
FMs อย่างมีนัยสำคัญนำไปสู่การเจริญเติบโตและการพัฒนาขององค์กรภาครัฐ พวกเขาจะต้องสร้างสะพานเชื่อมต่อระหว่างผู้บริหารระดับสูงและพนักงานแนวหน้า FMs ส่งข้อความและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานขององค์กร พวกเขามีความรับผิดชอบสำหรับการเจริญเติบโตของหน่วยงานของรัฐบาลกลางโดยมั่นใจว่าลูกค้าของหน่วยงานเหล่านี้ได้รับการบริการที่น่าพอใจ มีข้อสงสัยว่า FMs เป็นสินทรัพย์ที่สำคัญในสำนักงานสาธารณะไม่เป็น องค์กรที่ไม่ชื่นชมบทบาทสำคัญของพวกเขาเผชิญกับผลกระทบคุกคามในรูปแบบของประสิทธิภาพที่ดีและผลประกอบการที่สูงของข้าราชการที่มีความสามารถ บรูเออร์ (2005) มีความเห็นว่า FMs มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติงานและประสิทธิผลขององค์กรและการบริหารจัดการกำกับดูแลเป็นปัจจัยสำคัญที่มีประสิทธิภาพสูงในหน่วยงานของรัฐบาลกลาง องค์กรเหล่านี้ไม่สามารถที่จะยอมจำนนแรงงานที่มีค่าของพวกเขาดังนั้นพวกเขามีแนวโน้มที่จะมีความชำนาญ FMs ที่ช่วยให้พนักงานโดยการช่วยให้พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของพวกเขา.
มันเป็นเรื่องยากที่จะยุติพนักงานที่มีประสิทธิภาพต่ำ มีขั้นตอนบางอย่างและโปรโตคอลที่จะต้องปฏิบัติตามก่อนที่จะดำเนินการกับการเลิกจ้างเป็น ในภาคเอกชน, การจ้างงานและการยิงของพนักงานอยู่บนพื้นฐานของปรัชญาการบริหารจัดการที่เข้มงวด; แรงงานที่ดีจะได้รับรางวัล แต่คนงานแข็งข้อมีการเปิดตัว แรงจูงใจในการเชื่อมโยงโดยตรงกับเครือข่ายการสื่อสารที่ดีขึ้นกับพนักงานการฝึกอบรมมืออาชีพเงินเดือนที่ดีแรงจูงใจและสภาพแวดล้อมการทำงานที่น่ารื่นรมย์ Riccucci (2005) กล่าวถึงว่านโยบายที่ดีและกฎหมายแน่นอนจะจูงใจให้คนงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการและวัตถุประสงค์ขององค์กรใด ๆ นอกจากนี้วิธีการมองโลกในแง่ของการกำกับดูแลจะช่วยในการมีส่วนร่วมพลังพนักงานของพวกเขาในกระบวนการเจรจาที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาของพวกเขาโดยการเลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมที่สุด.
มีสี่วิธีการสื่อสารที่เป็นวิธีการในช่องปาก (คำพูด) วิธีการเขียน วิธีการภาพและเสียงหรือวิธีเสียง (สมิทสัน, 1984) ข้อความที่สามารถส่งผ่านความหลากหลายของสื่อเช่นหนังสือเวียน, บันทึก, จดหมายนโยบายประกาศฟอร์มรายงาน, อีเมล์, โทรศัพท์, โทรสาร, เพจใบหน้าเพื่อใบหน้าปฏิสัมพันธ์สัมภาษณ์นำเสนอจุดไฟรูปภาพและ มากขึ้น แต่ละคนเหล่านี้มีคุณธรรมและ demerits FMs ควรระบุและเลือกช่องทางที่เหมาะสมที่สุดในการสื่อสารกับพนักงานของพวกเขาคำนึงถึงอุปสรรคทั้งทางสังคมและวัฒนธรรมที่อาจมีอยู่ บรรเทาอุปสรรคเหล่านี้ช่วยเพิ่มการไหลของการสื่อสารซึ่งจะมีผลกระทบในเชิงบวกต่อการเจริญเติบโตและการทำกำไรขององค์กร.
การสื่อสารควรจะใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร FMs ควรจะสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่มีอิทธิพลต่อพนักงาน มากมายเหลือเฟือของการสื่อสารไม่ได้ให้การรับประกันใด ๆ เพื่อตอบสนองความสำเร็จ FMs เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการแปลที่เหมาะสมของข้อความ, การดำเนินการตามกลยุทธ์และกระตุ้นการหารือกับพนักงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร FMs ควรเข้าใจบริบททางวัฒนธรรมและข้อมูลจากประสบการณ์ของพนักงานของพวกเขาเพื่องานฝีมือกลยุทธ์ที่ครอบคลุมสำหรับการเจริญเติบโตขององค์กร พวกเขาจะต้องจัดลำดับความสำคัญการดำเนินการต่างๆเป็นระบบและใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะมีผลต่อพนักงานของพวกเขา ผ่านคารมคมคายและ articulacy, FMs สามารถระบุบุคคลที่สำคัญในหมู่พนักงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตความเห็น พวกเขาจัดให้มีการประชุมร่วมกับผู้ผลิตความคิดดังกล่าวและถือการอภิปรายเกี่ยวกับความคิดของพวกเขายกเลิกclichésและฉลาดปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของพวกเขาดีขึ้นขององค์กร ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องวิเคราะห์บริบทเห็นภาพกลยุทธ์, การกระทำเช่นคอมมานโดยอดที่จะใช้กลยุทธ์และปั่นหัวเหมือนพิธีกรรายการทอล์กโชว์ที่จะกระตุ้นการสนทนา (Clampitt, เบรคและวิลเลียมส์, 2002) FMs ในตำแหน่งหัวหน้างานของพวกเขามีบทบาทสำคัญในองค์กรของตนเพื่อไตร่ตรองความกังวลและปัญหาของพนักงานและนำเสนอโซลูชั่นที่ยอมรับร่วมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสำคัญของการจัดการพนักงานในภาครัฐ
FMS อย่างมีนัยสำคัญสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาขององค์กรภาครัฐ พวกเขาจะต้องเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างผู้บริหารระดับสูงและพนักงานแนวหน้า โปรแกรมส่งข้อความและรับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานขององค์การพวกเขามีความรับผิดชอบในการเจริญเติบโตของหน่วยงาน โดยมั่นใจว่า ลูกค้าของหน่วยงานเหล่านี้ได้รับการบริการที่น่าพอใจ มีข้อสงสัยว่า FMS เป็นสินทรัพย์สำคัญในสำนักงานสาธารณะ องค์กรที่ล้มเหลวในการชื่นชมบทบาทสำคัญของพวกเขา ใบหน้า ขู่ที่จะตามมาในรูปแบบของประสิทธิภาพที่ดีและการหมุนเวียนสูงของข้าราชการที่มีความสามารถเหล้า ( 2005 ) มีโปรแกรมมีบทบาทสำคัญในประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์การและการจัดการนิเทศ เป็นปัจจัยที่สำคัญของประสิทธิภาพสูงในหน่วยงานของรัฐบาลกลาง องค์กรเหล่านี้ไม่สามารถที่จะยอมแพ้บุคลากรที่มีค่าของพวกเขา ดังนั้นพวกเขามักจะมี FMS ฝีมือดี ที่ช่วยให้พนักงาน โดยทำให้พวกเขาตระหนักถึงผลงานที่สำคัญของพวกเขา
มันเป็นเรื่องยากที่จะยุติการพนักงานที่ไม่ดี มีบางขั้นตอนและระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามก่อนดำเนินการกับการสิ้นสุด ในภาคเอกชน การจ้างงานและการยิงของพนักงานขึ้นอยู่กับปรัชญาการจัดการที่เข้มงวด ; แรงงานที่ดีได้รางวัล แต่คนกระด้างกระเดื่อง ได้รับการปล่อยตัวแรงบันดาลใจ คือการเชื่อมโยงโดยตรงกับดีกว่าเครือข่ายการสื่อสารกับพนักงาน , ฝึกอบรม , เงินเดือนดี , แรงจูงใจ , และสภาพแวดล้อมที่สวยงาม riccucci ( 2548 ) กล่าวว่า นโยบายที่ดีและกฎหมายแน่นอน incentivize คนงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการและวัตถุประสงค์ขององค์กรใด ๆ เพิ่มเติมวิธีการมองโลกในแง่ของการช่วยในพลังต่อสู้พนักงานในกระบวนการการเจรจาที่มีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาของพวกเขาโดยการเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการสื่อสารช่องทาง
มีวิธีการในการสื่อสาร สี่คือ วิธีการทางปาก ( คำพูด ) , เขียนแบบ , ภาพวิธีการและเสียงหรือเสียงวิธี ( สมิทสัน , 1984 )ข้อความที่สามารถผ่านสื่อที่หลากหลาย เช่น หนังสือเวียนสามารถ นโยบาย , ตัวอักษร , ประกาศ , รูปแบบ , รายงาน , อีเมล์ , โทรศัพท์ , แฟกซ์ , เพจเจอร์ , ปฏิสัมพันธ์ , แบบสัมภาษณ์ , Power Point นำเสนอ , ภาพ , และอื่น ๆ ; แต่ละคนเหล่านี้มีคุณธรรมและ demerits . FMS ควรระบุ และเลือกช่องทางที่เหมาะสมที่สุดในการสื่อสารกับพนักงานพิจารณาจากทั้งสังคมและอุปสรรคทางวัฒนธรรมที่อาจมีอยู่ แก้ไขอุปสรรคเหล่านี้ช่วยเพิ่มการไหลของการสื่อสาร ซึ่งจะมีผลกระทบเชิงบวกในการทำกำไรและการเติบโตขององค์กร
การสื่อสารควรใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์การ FMS ควรสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่มีอิทธิพลต่อคนด้วยการสื่อสารไม่ได้ให้การรับประกันใด ๆที่จะตอบสนองความญาติ FMS ' เป้าหมายการแปลที่เหมาะสมของข้อความ ใช้กลยุทธ์ และการกระตุ้นพนักงานเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กรFMS ควรเข้าใจบริบททางวัฒนธรรม และด้านประสบการณ์ของพนักงานของพวกเขาเพื่องานฝีมือกลยุทธ์ที่ครอบคลุมสำหรับการเติบโตขององค์กร พวกเขาจะต้องจัดลำดับความสำคัญในการกระทำต่าง ๆอย่างเป็นระบบและใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของพนักงานของพวกเขา ผ่าน articulacy FMS และโวหาร , สามารถระบุบุคคลสำคัญในหมู่พนักงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตความคิดเห็นพวกเขาจัดประชุมด้วยเช่นความคิดเห็นและการอภิปรายเกี่ยวกับผู้ถือความคิดของพวกเขาสิ้นสุดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างละเอียดและแก้ไขภาพสำหรับ betterment ขององค์กร ดังนั้น ต้องวิเคราะห์บริบท , ภาพกลยุทธ์ ทำตัวเป็นคอมมานโดยอดใช้กลยุทธ์ และก่อกวนเหมือนพิธีกรรายการทอล์คโชว์เพื่อกระตุ้นการ clampitt brek & , , วิลเลียมส์ , 2002 ) FMSในระดับตำแหน่งมี pivotal บทบาทในแต่ละองค์กรเพื่อครุ่นคิดถึงความกังวลและปัญหาของพนักงาน และให้ยอมรับกันและกัน โซลูชั่น