The word "sphinx", which means 'str

The word "sphinx", which means 'strangler', was first given by the Greeks to a fabulous creature which had the head of a woman, the body of a lion and the wings of a bird. In Egypt, there are numerous sphinxes, usually with the head of a king wearing his headdress and the body of a lion.There are, however, sphinxes with ram heads that are associated with the god Amun.

 

 


The Great Sphinx is to the northeast of Khafre's (Chephren) Valley Temple. Where it sits was once a quarry. We believe that Khafre's workers shaped the stone into the lion and gave it their king's face over 4,500 years ago. Khafre's name was also mentioned on the Dream Stele, which sits between the paws of the great beast. However, no one is completely certain that it is in fact the face of Khafre, though indeed that is the preponderance of thought. Recently, however, it has been argued that Khufu, builder of the Great Pyramid, may have also had the Great Sphinx built.

 

The Great Sphinx is believed to be the most immense stone sculpture in the round ever made by man. However, it must be noted that the Sphinx is not an isolated monument and that it must be examined in the context of its surroundings. Specifically, like many of Egypt's monuments, it is a complex which consists not only of the great statue itself, but also of its old temple, a New Kingdom temple and some other small structures. It is also closely related toKhafre's Valley Temple, which itself had four colossal sphinx statues each more than 26 feet long.

 

The material of the Sphinx is the limestone bedrock of what geologists call the Muqqatam Formation, which originated fifty million years ago from sediments deposited at the bottom of sea waters that engulfed northeast Africa during the Middle Eocene period. An embankment formed along what is now the north-northwest side of the plateau. Nummulites, which are small, disk-shaped fossils named after the Latin word for 'coin', pack the embankment. These were once the shells of now extinct planktonic organisms. There was a shoal and coral reef that grew over the southern slope of the embankment. Carbonate mud deposited in the lagoon petrified into the layers from which the ancient builders, some fifty million years later, carved out the Great Sphinx.

 

To do so, they trenched out a deep, U-shaped ditch that isolated a huge rectangular bedrock block for carving the Sphinx. This enclosure is deepest immediately around the body, with a shelf at the rear of the monument where it was left unfinished and a shallower extension to the north where important archaeological finds have been made.

 

 

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนคำว่า "สฟิงซ์" ซึ่งหมายความว่า 'strangler' ถูกกำหนด โดยกรีกเพื่อสัตว์นิยายซึ่งมีหัวผู้หญิง ร่างกายของสิงห์และปีกของนก อียิปต์ มีมากมาย sphinxes ปกติกับศีรษะของกษัตริย์สวม headdress ของเขาและร่างกายของสิงห์ ได้ แต่ sphinxes กับหัว ram ที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าอมุ  สฟิงซ์เป็นอีสานคาเฟรของ (Chephren) วัดหุบเขา ตั้งอยู่ที่เคยเป็นเหมือง เราเชื่อว่า คนคาเฟรของรูปร่างหินเป็นสิงโต และให้ใบหน้าของกษัตริย์กว่า 4500 ปีที่ผ่านมา ชื่อของคาเฟรยังได้กล่าวถึงใน Stele ฝัน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง paws ของสัตว์มาก อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครแน่ใจว่า มันเป็นในความเป็นจริงหน้าคาเฟร แม้ว่าแท้จริงที่จะกำกับความคิด ล่าสุด อย่างไรก็ตาม มันมีการโต้เถียงว่า Khufu สร้างปิรามิดมาก อาจยังมีตัวสฟิงซ์แห่ง สฟิงซ์เชื่อกันว่าเป็น รูปปั้นหินอันยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบเกิดขึ้น โดยมนุษย์ อย่างไรก็ตาม มันต้องบันทึกว่า สฟิงซ์ที่ไม่มีแยกอนุสาวรีย์ และที่ จะต้องถูกตรวจสอบในบริบทของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะ เช่นอนุสาวรีย์ของอียิปต์หลาย ได้ที่ซับซ้อนซึ่งประกอบด้วยไม่เพียงแต่รูปปั้นดีเอง แต่ยังมีวิหารเก่า วัดราชอาณาจักรใหม่ และบางโครงเล็ก นอกจากนี้ยังใกล้ชิดเกี่ยวข้องของ toKhafre วัลวัด ที่ตัวเองมีสี่มหาศาลสฟิงซ์รูปปั้นแต่ละกว่า 26 ฟุตยาว วัสดุของสฟิงซ์เป็นหินหินปูนของอะไรนักธรณีวิทยาเรียกก่อ Muqqatam ซึ่งกำเนิดมาจากตะกอนที่ฝากที่ด้านล่างของน้ำทะเลที่สูง ๆ แอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือช่วงกลาง Eocene สิบล้านปี สถานีที่เกิดขึ้นตามเป็นด้าน north-northwest ของราบสูง ชื่อ nummulites ที่มีซากดึกดำบรรพ์ขนาดเล็ก รูปดิสก์หลังจากคำละติน 'เหรียญ' แพ็คที่สถานี เหล่านี้ได้เมื่อเปลือกชีวิต planktonic สูญทันที มีโชลและปะการังที่เติบโตมากกว่าที่สถานีลาดใต้ ฝากในโคลนคาร์บอเนตกลายเป็นหินเป็นชั้นที่ผู้สร้างโบราณ ห้าสิบล้านปีต่อมา การแกะสลักสฟิงซ์ การทำ พวกเขา trenched ออกคูลึก รูป ตัวยูที่บล็อกหินสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สำหรับแกะสลักสฟิงซ์แยกต่างหาก กรงนี้ข้าพเจ้าทันทีทั่วร่างกาย มีชั้นวางที่ด้านหลังของอนุสาวรีย์ที่มีค้างไว้ยังไม่เสร็จสิ้นและนามสกุลเด็กเล็ก ๆ สามารถไปทางทิศเหนือที่พบทางโบราณคดีที่สำคัญทำได้  

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำว่า "สฟิงซ์" ซึ่งหมายถึง 'รัด' เป็นครั้งแรกโดยชาวกรีกจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่มีหัวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่างกายของสิงโตและปีกของนก ในอียิปต์มีสฟิงซ์จำนวนมากมักจะมีหัวของกษัตริย์สวมผ้าโพกศีรษะของเขาและร่างกายของ lion.There ที่มี แต่สฟิงซ์ที่มีหัวแกะที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าอานนท์. สฟิงซ์ที่ยิ่งใหญ่คือการตะวันออกเฉียงเหนือของ Khafre ของ (Chephren) หุบเขาวัด ในกรณีที่มันนั่งอยู่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเหมืองหิน เราเชื่อว่าคนงานของ Khafre หินลงไปในรูปสิงโตและให้ใบหน้าของพระมหากษัตริย์ของพวกเขากว่า 4,500 ปีที่ผ่านมา ชื่อ Khafre ยังได้รับการกล่าวถึงในความฝัน Stele ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอุ้งเท้าของสัตว์ที่ดี แต่ไม่มีใครที่สมบูรณ์บางอย่างที่ในความเป็นจริงหน้าของ Khafre แต่แน่นอนที่สำคัญยิ่งของความคิด เร็ว ๆ นี้ แต่จะได้รับการถกเถียงกันอยู่ว่า Khufu สร้างของมหาพีระมิดอาจมียังได้สฟิงซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สร้างขึ้น. สฟิงซ์ที่ดีเชื่อว่าจะเป็นประติมากรรมหินอันยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบที่เคยทำโดยคน อย่างไรก็ตามจะต้องมีการตั้งข้อสังเกตว่าสฟิงซ์ไม่ได้เป็นอนุสาวรีย์โดดเดี่ยวและว่ามันจะต้องมีการตรวจสอบในบริบทของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะเช่นเดียวกับหลายของอนุสาวรีย์ของอียิปต์ก็เป็นที่ซับซ้อนซึ่งประกอบด้วยไม่เพียง แต่รูปปั้นที่ดีของตัวเอง แต่ยังวัดเก่าแก่ของวัดราชอาณาจักรใหม่และบางส่วนโครงสร้างขนาดเล็กอื่น ๆ มันยังเป็นที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดวัดหุบเขา toKhafre ของที่ตัวเองมีสี่รูปปั้นสฟิงซ์ขนาดมหึมาแต่ละกว่า 26 ฟุตยาว. วัสดุของสฟิงซ์เป็นหินปูนของสิ่งที่นักธรณีวิทยาเรียกก่อ Muqqatam ซึ่งเกิดขึ้นห้าสิบล้านปีที่ผ่านมาจากตะกอนที่ ด้านล่างของน้ำทะเลที่ปกคลุมไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาในช่วงระยะเวลากลาง Eocene เขื่อนที่เกิดขึ้นพร้อมตอนนี้ก็คือทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือทิศตะวันตกของที่ราบสูง Nummulites ซึ่งมีขนาดเล็กฟอสซิลดิสก์ที่มีรูปทรงตั้งชื่อตามคำภาษาละตินสำหรับ 'เหรียญ' แพ็คเขื่อน เหล่านี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นเปลือกหอยของสิ่งมีชีวิต planktonic ตอนนี้สูญพันธุ์ มีความตื้นเขินและแนวปะการังที่ขยายตัวมากกว่าความลาดชันทางตอนใต้ของเขื่อนได้ โคลนคาร์บอเนตฝากในทะเลสาบกลายเป็นหินเป็นชั้นที่สร้างในสมัยโบราณบางห้าสิบล้านปีต่อมาแกะสลักจากสฟิงซ์ที่ดี. ต้องการทำเช่นนั้นพวกเขา trenched ออกลึกคูน้ำรูปตัวยูที่แยกบล็อกหินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่สำหรับ แกะสลักสฟิงซ์ สิ่งที่แนบมานี้เป็นที่ลึกที่สุดทั่วร่างกายทันทีที่มีการเก็บรักษาที่ด้านหลังของอนุสาวรีย์ที่มันถูกทิ้งไว้ยังไม่เสร็จและขยายตื้นขึ้นไปทางทิศเหนือที่พบทางโบราณคดีที่สำคัญได้รับการทำ

 

 




 



 



 



 

 

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คำว่า " สฟิงซ์ " ซึ่งแปลว่า " ผู้ที่ฆ่าโดยการบีบคอ ' เป็นครั้งแรกโดยชาวกรีก เพื่อให้สัตว์อสูรที่มีหัวเป็นผู้หญิง ร่างกายเป็นสิงโตและมีปีกของนก ในอียิปต์มีสฟิงค์ จำนวนมากมักจะมีหัวเป็นกษัตริย์ที่ใส่ที่คาดผม และตัวเป็นสิงโต มี แต่ สฟิงค์ กับบุรีรัมย์ หัวที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า Amun .






  สฟิงซ์ที่ยอดเยี่ยมคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรึเปล่าฟาโรห์คาเฟร ( คีเฟรน ) วัดในหุบเขา ที่มันตั้งอยู่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเหมือง เราเชื่อว่าพนักงานคาฟเรรูปร่างหินเป็นสิงโต และมอบให้กษัตริย์หน้ากว่า 4 , 500 ปีมาแล้ว ชื่อของฟาโรห์คาเฟรที่ถูกกล่าวถึงในศิลาจารึกความฝัน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอุ้งเท้าของสัตว์ที่ดี อย่างไรก็ตามไม่มีใครสมบูรณ์ บางอย่างที่ ในความเป็นจริงมันเป็นหน้าของฟาโรห์คาเฟร แต่ที่แน่นอนคือความเหนือกว่าของความคิด เมื่อเร็ว ๆนี้ , อย่างไรก็ตาม , จะได้รับการถกเถียงกันอยู่ว่าทำไมฟาโรห์คูฟู สร้างของอะไรดีราคาอาจยังมีสฟิงซ์ที่ดีขึ้น

ไหม

สฟิงซ์ที่ดีถือเป็น ที่สุดยิ่งใหญ่ งานแกะสลักหิน ในรอบที่เคยทำโดยมนุษย์ อย่างไรก็ตามมันต้องเป็นข้อสังเกตว่าสฟิงซ์ไม่ใช่แยกอนุสาวรีย์และต้องถูกตรวจสอบในบริบทของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับหลายอนุสาวรีย์ของอียิปต์ มันซับซ้อนซึ่งประกอบด้วยไม่เพียงของรูปปั้นที่ดีนั่นเอง แต่ยังวัดเก่า ,  ราชอาณาจักรใหม่อะไรวัดและโครงสร้างขนาดเล็กอื่น ๆ ยังเป็นที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด tokhafre หุบเขาของไหมวัดซึ่งตัวเองได้สี่รูปปั้นสฟิงซ์ยักษ์แต่ละมากกว่า 26 ฟุตยาว

ไหม

วัสดุของสฟิงซ์เป็นหินปูนหินของสิ่งที่นักธรณีวิทยาเรียก muqqatam การพัฒนา ห้าสิบล้านปีมาแล้ว ซึ่งมีต้นกำเนิดจากดินตะกอนฝากที่ด้านล่างของทะเลน่านน้ำที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือแอฟริกาสมัยอีโอซีนกลางพูนดินขึ้นตามสิ่งที่ตอนนี้ทางเหนือทางตะวันตกเฉียงเหนือของที่ราบสูง nummulites ซึ่งมีขนาดเล็ก disk-shaped ฟอสซิลตั้งชื่อตามคำภาษาละตินสำหรับ ' เหรียญ ' แพ็คของคันทาง เหล่านี้เมื่อเปลือกของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากในน้ำตอนนี้สูญพันธุ์ สิ่งมีชีวิต มีฝูงปลาและแนวปะการังที่เติบโตผ่านภาคใต้ของลาดคันทางโคลนในบ่อหินคาร์บอเนต ฝากลงในเลเยอร์ที่ผู้สร้างโบราณบางห้าสิบล้านปีต่อมา แกะสลักสฟิงค์ดี

รึเปล่า

แล้ว พวกเขา trenched ออกลึกรูปตัวยูคู ที่แยกบล็อกหินสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ แกะสลัก สฟิงซ์ ตู้นี้มีสปิริตทันทีรอบร่างกายมีชั้นวางที่ด้านหลังของอนุสาวรีย์ที่ถูกทิ้งที่ยังไม่เสร็จและขยายตื้นขึ้นไปทางเหนือที่สำคัญทางโบราณคดีที่พบได้ทํา .





อะไรไหม