Figure 1 summarizes the steps that

Figure 1 summarizes the steps that transform underlying cash flows from operations (CFO) into Stern Stewart's economic value added (EVA). Adjusting CFO for accounting accruals (such as depreciation and interest expense) yields bottom line accounting earnings (NI). Adding back after-tax interest expense to NI yields net operating profits after tax (NOPAT). Subtracting the current cost of both debt and equity capital from NOPAT yields residual income (RI). To compute economic value added (EVA), Stern Stewart adjusts the NOPAT and capital components of residual income for what are termed “accounting anomalies" or "distortions.” Some of their more common adjustments are shown in Table 1. Some of these adjustments undo traditional accounting accruals (such as eliminating deferred tax accounting in favor of actual cash taxes paid). Other adjustments switch accrual methods (e.g. from LIFO to FIFO). Still others introduce new accruals not used in traditional GAAP-based accounting (e.g., capitalization and amortization of marketing and R&D expenditures).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 1 สรุปขั้นตอนที่เปลี่ยนอ้างอิงกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (CFO) เป็นสเติร์นสจ๊วตเศรษฐกิจมูลค่าเพิ่ม (EVA) การปรับของ CFO สำหรับรายการคงค้างบัญชี (เช่นค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่าย) อัตราผลตอบแทนกำไรทางบัญชีบรรทัดล่าง (NI) เพิ่มค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยครั้งกลับ NI ผลกำไรสุทธิหลังภาษี (NOPAT) หักต้นทุนปัจจุบันของตราสารหนี้และหุ้นทุนจาก NOPAT อัตราผลตอบแทนรายได้ส่วนที่เหลือ (RI) ในการคำนวณมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่ม (EVA), สเติร์นสจ๊วตปรับ NOPAT และส่วนทุนของรายได้สำหรับสิ่งเรียกว่า "ความผิดปกติของบัญชี" หรือ "บิดเบือน" บางส่วนของการปรับปรุงทั่วไปของพวกเขาจะแสดงในตารางที่ 1 บางส่วนของการปรับปรุงเหล่านี้ยกเลิกการรับรู้บัญชีแบบดั้งเดิม (เช่นการตัดบัญชีภาษีสามารถชำระภาษีเงินสดตามจริง) อื่น ๆ การปรับเปลี่ยนวิธีการรับรู้ (เช่นจาก LIFO การ FIFO) ยัง คนอื่น ๆ แนะนำการรับรู้ใหม่ที่ไม่ใช้แบบดั้งเดิมตาม GAAP บัญชี (เช่น มูลค่าและค่าการตลาดและค่าใช้จ่ายวิจัยและพัฒนา)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 1 สรุปขั้นตอนที่แปลงกระแสเงินสดจากการดำเนินงานพื้นฐาน (CFO) ลงในมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สเติร์นสจ๊วตเพิ่ม (EVA) การปรับ CFO สำหรับเงินคงค้างทางบัญชี (เช่นค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย) อัตราผลตอบแทนกำไรบัญชีบรรทัดด้านล่าง (NI) บวกกลับหลังหักภาษีดอกเบี้ยจ่ายจะ NI ผลตอบแทนถัวเฉลี่ยกําไรสุทธิหลังหักภาษี (กําไรสุทธิ) หักค่าใช้จ่ายในปัจจุบันของทั้งหนี้และตราสารทุนเงินทุนจากกําไรสุทธิถัวเฉลี่ยรายได้ที่เหลือ (RI) การคำนวณมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (EVA) สเติร์นสจ๊วตปรับกําไรสุทธิและเงินทุนส่วนหนึ่งของรายได้ที่เหลือสำหรับสิ่งที่เรียกว่า "ความผิดปกติการบัญชี" หรือ "บิดเบือน." บางส่วนของการปรับกันมากขึ้นของพวกเขาจะแสดงในตารางที่ 1 บางส่วนของการปรับปรุงเหล่านี้ยกเลิก คงค้างบัญชีแบบดั้งเดิม (เช่นการขจัดภาษีเงินได้รอตัดบัญชีในความโปรดปรานของภาษีเงินสดจ่ายจริง) การปรับเปลี่ยนวิธีการอื่น ๆ คงค้าง (เช่นจากการ LIFO FIFO) แนะนำคนอื่น ๆ ยังคงค้างใหม่ไม่ได้ใช้ใน GAAP บัญชีตามแบบดั้งเดิม (เช่นโครงสร้างเงินทุนและค่าตัดจำหน่ายของการตลาดและ R & D ค่าใช้จ่าย)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 1 สรุปขั้นตอนที่แปลงต้นแบบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ( CFO ) ในมูลค่าทางเศรษฐกิจ สเติร์น สจ๊วตเป็น ( EVA ) ปรับขยายสำหรับด้านบัญชี ( เช่นค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่าย ) ผลผลิต บรรทัดล่าง บัญชีรายได้ ( N ) เพิ่มกลับหลังดอกเบี้ยจ่ายภาษีอัตรากำไรหลังภาษีผมดำเนินงานสุทธิจากการดำเนินงานสุทธิหลังภาษี . หักค่าปัจจุบันของตราสารหนี้และทุนจาก nopat ผลผลิตรายได้ที่เหลือ ( ริ ) คำนวณมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาสตร์ ( EVA ) , สเติร์น สจ๊วต ปรับ nopat และส่วนประกอบเมืองหลวงของรายได้สำหรับสิ่งที่เรียกว่า " ความผิดปกติ " บัญชี " บิดเบือน " บางส่วนของพวกเขาร่วมกันมากขึ้นการปรับปรุงจะแสดงในตารางที่ 1 บางส่วนของการปรับปรุงเหล่านี้ยกเลิกรายการคงค้างบัญชีแบบดั้งเดิม ( เช่นลดภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีการบัญชีเงินสดที่เกิดขึ้นจริงในความโปรดปรานของการจ่ายภาษี ) อื่น ๆ ( เช่นจากการปรับเปลี่ยนวิธีการรับรู้เข้ามาก่อน ) ยังคนอื่น ๆแนะนำค้างใหม่ไม่ใช้ในแบบดั้งเดิม ( เช่นค่าใช้จ่ายตามบัญชีทุนและค่าการตลาดของ R & D และค่าใช้จ่าย )