Religion has been an integral part

Religion has been an integral part of every civilized country. In Thailand, Thais give the highest values on three main pillars, nation, religion, and monarchy. Undoubtedly, religion has been responsible for maintaining peace of the nation for ages. Thus, I strongly disagree with the statement saying that regardless of religion, humans can live in peace and harmony. This is because the peaceful society is attributed to the influence of religion, causing people to abide by the way of religious teaching, to be mentally restrained, and to be harmonized in the society.
Peace and harmony in the society can be occurred if people strictly follow the way of religious teachings. According to the Buddhist principles, Buddhists have to be patient, diligent, honest, and restrained. If the whole society composes of people with these qualities, any conflicts in the society would be substantially reduced as everyone has to perform their duties and responsibilities the best. Likewise, people can use religion as mental restrain to control greed, anger, and lust, which are the main cause of social troubles and conflicts. For instance, people, who are strict with moderate practices, would be satisfied with what they have, without any jealousies and exploitation. Thus, they can feel happy living in society. Additionally, religion leads the society and the nation to peaceful cohabitation as society members are taught to be compassionate and generous for each other in the society. In Christian society, for instance, there is simply altruism given to each other among Christians.
In contrast, without religion, people can become astray due to the lack of religious principles. They can be too lenient or even lazy to make a living. So, poverty can be occurred, followed by the criminal problems in the society. Furthermore, if people are lacking something that helps restrain their mind, they are most likely to be engaged in lust, greed, and anger, leading to exploitation in society. Aside from this, without religion, people will be ignorant to give compassion and generosity to others. Thus, the social members will finally become selfish and care for only their own sakes. According to this undesirable context, peace and harmony in society will never be manifested.
At no time can people live in the society with peace and harmony by not depending on religion. Due to the influence of religion, people can learn how to be self-sufficient, moderate, mentally restrained, and compassionate and generous. These factors are conducive to peaceful cohabitation in every nation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศาสนาได้รับเป็นส่วนหนึ่งของทุกประเทศอารยะ ในประเทศไทย คนไทยให้ค่าสูงสุดในสามเสาหลัก ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องสงสัย ศาสนาได้รับผิดชอบการรักษาความสงบของประเทศสำหรับวัย ดังนั้น ฉันขอไม่เห็นด้วยกับคำพูดว่า ไม่ว่าศาสนา มนุษย์สามารถอาศัยอยู่ในสัมผัส นี้เป็น เพราะสังคมสงบเป็นประกอบกับอิทธิพลของศาสนา คน โดยวิธีการสอนศาสนา สามารถยับยั้งจิตใจ และสามารถผสานในสังคมก่อให้เกิด สันติภาพและความสามัคคีในสังคมสามารถจะเกิดขึ้นถ้าท่านทำตามวิธีการของคำสอนทางศาสนาอย่างเคร่งครัด ตามหลักพุทธศาสนา ชาวพุทธต้องอดทน ขยัน ซื่อสัตย์ และยับยั้ง ถ้าสังคมทั้งหมดประกอบด้วยผู้ที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ ความขัดแย้งในสังคมจะสามารถลดอย่างมากเป็นคนมีการทำความดี ในทำนองเดียวกัน คนที่สามารถใช้ศาสนาเป็นยับยั้งจิต การควบคุมความโลภ ความโกรธ หื่น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสังคมและความขัดแย้ง เช่น คน ที่จะเข้มงวดกับปฏิบัติปานกลาง จะพอใจกับสิ่งที่พวกเขามี ไม่มี jealousies ใด ๆ และประโยชน์ ดังนั้น พวกเขาสามารถรู้สึกมีความสุขอยู่ในสังคม นอกจากนี้ ศาสนาสังคม และประเทศสงบคนที่เป็นสมาชิกของสังคมจะสอนให้เมตตา และใจดีสำหรับคนอื่น ๆ ในสังคมด้วย ในสังคมคริสเตียน เช่น มีแค่อะไรที่รับกันในหมู่ชาวคริสต์ In contrast, without religion, people can become astray due to the lack of religious principles. They can be too lenient or even lazy to make a living. So, poverty can be occurred, followed by the criminal problems in the society. Furthermore, if people are lacking something that helps restrain their mind, they are most likely to be engaged in lust, greed, and anger, leading to exploitation in society. Aside from this, without religion, people will be ignorant to give compassion and generosity to others. Thus, the social members will finally become selfish and care for only their own sakes. According to this undesirable context, peace and harmony in society will never be manifested. At no time can people live in the society with peace and harmony by not depending on religion. Due to the influence of religion, people can learn how to be self-sufficient, moderate, mentally restrained, and compassionate and generous. These factors are conducive to peaceful cohabitation in every nation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศาสนาได้เป็นส่วนหนึ่งของทุกประเทศที่เจริญแล้ว คนไทยให้ค่าสูงสุดในหลักสามเสาหลักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องสงสัย, ศาสนาได้รับการรับผิดชอบในการรักษาความสงบสุขของประเทศสำหรับทุกเพศทุกวัย ดังนั้นผมขอไม่เห็นด้วยกับคำสั่งที่บอกว่าไม่คำนึงถึงศาสนามนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ในความสงบและความสามัคคี เพราะนี่คือสังคมที่สงบสุขเป็นผลมาจากอิทธิพลของศาสนาที่ก่อให้เกิดคนที่จะปฏิบัติตามวิธีการของการเรียนการสอนทางศาสนาที่จะยับยั้งจิตใจและจะต้องมีความกลมกลืนในสังคม.
สันติภาพและความสามัคคีในสังคมที่สามารถเกิดขึ้นถ้าคนอย่างเคร่งครัด ทำตามวิธีของคำสอนทางศาสนา ตามหลักการทางพุทธศาสนาที่ชาวพุทธจะต้องมีความอดทนขยันซื่อสัตย์และยับยั้ง ถ้าสังคมทั้งประกอบด้วยคนที่มีคุณภาพเหล่านี้ความขัดแย้งใด ๆ ในสังคมจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ทุกคนมีการปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบที่ดีที่สุดของพวกเขา ในทำนองเดียวกันผู้คนสามารถใช้ศาสนาเป็นจิตยับยั้งในการควบคุมความโลภความโกรธและความต้องการทางเพศซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสังคมและความขัดแย้ง ยกตัวอย่างเช่นคนที่มีความเข้มงวดกับการปฏิบัติในระดับปานกลางจะพอใจกับสิ่งที่พวกเขาได้โดยไม่ต้องอิจฉาริษยาใด ๆ และการใช้ประโยชน์ ดังนั้นพวกเขาจะรู้สึกมีความสุขที่อยู่อาศัยในสังคม นอกจากนี้ศาสนานำไปสู่สังคมและประเทศที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติในฐานะสมาชิกของสังคมจะสอนให้เป็นความเห็นอกเห็นใจและมีน้ำใจซึ่งกันและกันในสังคม ในสังคมที่นับถือศาสนาคริสต์เช่นมีเพียงความบริสุทธิ์ใจมอบให้แก่กันและกันในหมู่ชาวคริสต์.
ในทางตรงกันข้ามไม่มีศาสนาคนสามารถกลายเป็นหลงทางเนื่องจากการขาดหลักการทางศาสนา พวกเขาสามารถผ่อนปรนเกินไปหรือแม้กระทั่งขี้เกียจที่จะทำให้ชีวิต ดังนั้นความยากจนสามารถเกิดขึ้นตามมาด้วยปัญหาความผิดทางอาญาในสังคม นอกจากนี้ถ้าคนจะขาดบางสิ่งบางอย่างที่จะช่วยยับยั้งใจของพวกเขาพวกเขามีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในตัณหาความโลภและความโกรธที่นำไปสู่การใช้ประโยชน์ในสังคม นอกเหนือจากนี้ไม่มีศาสนาคนจะไม่รู้ที่จะให้ความรักความเมตตาและความเอื้ออาทรให้กับผู้อื่น ดังนั้นสมาชิกของสังคมในที่สุดก็จะกลายเป็นความเห็นแก่ตัวและการดูแลเพียงเห็นแก่ตัวเอง ตามบริบทที่ไม่พึงประสงค์นี้สันติภาพและความสามัคคีในสังคมจะไม่เป็นที่ประจักษ์.
ในช่วงเวลาที่ไม่มีคนสามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมที่มีความสงบสุขและความสามัคคีโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับศาสนา เนื่องจากอิทธิพลของศาสนาที่ผู้คนสามารถเรียนรู้วิธีการที่จะพอเพียงในระดับปานกลางยับยั้งจิตใจและความเห็นอกเห็นใจและใจดี ปัจจัยเหล่านี้จะเอื้อต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในทุกชาติ