Like Westinghouse Electric Corporat

Like Westinghouse Electric Corporation’s licensing of the Thermalastic vacuum pressure impregnation (VPI) manufacturing system and materials to other motor and generator manufacturers, General Electric Company licensed the epoxy mica paper and resin-rich technology to its partners. Over time, as the early patents ran out, other manufacturers developed their own insulation systems, using both the VPI and resin-rich technologies. One variation was press curing of resin-rich, fully taped coils or bars in special presses, equipped with forms to follow the shape of the coil. It was found that a super-resin-rich tape, on the parts of coils
82 HISTORICAL DEVELOPMENT OF INSULATION MATERIALS AND SYSTEMS
Mankind has used natural mica since prehistoric times. The earliest uses were in the form of sparkling dust or powder for ornamental purposes, including body paints or cosmetics. Ground mica is still used as a special filler in paints, plastics, and cosmetics, and the largest tonnages of mica today are still in these applications. Because of its transparency and its resistance to fracture and heat, mica, also called isinglass, was widely used for lantern globes and for windows in coal, wood, and kerosene stoves. In recent years, there has been a revival of the use of mica for decorative electric-lamp shades and other decorative surfaces. In addition to these ordinary uses, the Russians found mica to be useful as a covering for portholes in warships, as it could stand the shock of cannon fire better than any glass available at that time. The Russian mica became known as muscovite, the term still used to describe white or India mica. Mineralogically, mica is the name given to a group of minerals of related composition and similar physical properties. Micas are characterized chiefly by having a perfect basal cleavage, so that they can be split readily in one direction into a great number of thin, tough, flexible laminae. Chemically, the micas are complex silicates of aluminum with potassium, magnesium, iron, sodium, lithium, fluorine, and traces of other elements. The principal micas are muscovite, H2KAl3(SiO4)3; phlogopite, [H,K(Mg,F)3]Mg3Al(SiO4)3; and biotite, (H,K)2 (Mg,Fe)2(Al,Fe)2(SiO4)3. Other micas that are not so well known are lepidolite, paragonite, and zinnwaldite. The micas have a hardness of 2–3, specific gravity of about 3, index of refraction from 1.5 to 1.7, and usable temperature limits of about 550°C (for muscovite) up to about 980°C (for some grades of Phlogopite). Muscovite and biotite occur chiefly in pegmatite dikes associated with feldspar and quartz, although they are abundant also in granites and syenites. They are chiefly obtained in India, Brazil, and the United States, although, for electrical uses, about 70% of the world supply comes from the first two countries. Phlogopite occurs in crystalline limestones, dolomites, and serpentines in Canada and Madagascar. Muscovite is also called India, white, or potassium mica. Phlogopite is called Canadian, ruby, amber, or magnesium mica. Biotite is called black or magnesium iron mica.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เช่น Westinghouse ไฟฟ้าของ บริษัทอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ของการ Thermalastic ความดันสูญญากาศทำให้มีขึ้น (VPI) ผลิตระบบและวัสดุอื่น ๆ ผู้ผลิตมอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า บริษัทไฟฟ้าทั่วไปได้รับกระดาษแก้วอีพ็อกซี่และเทคโนโลยียางริชคู่ เวลา เป็นสิทธิบัตรก่อนวิ่งออก ผู้ผลิตอื่น ๆ พัฒนาตนระบบฉนวนกันความร้อน ใช้ VPI และเทคโนโลยียางริช รูปแบบหนึ่งถูกกดบ่มยางริช บันทึกเทปทั้งหมดขดลวดหรือแถบในกดพิเศษ พร้อมแบบฟอร์มตามรูปร่างของม้วน ก็พบว่า super-resin-rich เทป ในส่วนของขดลวดพัฒนาศาสตร์ 82 ของวัสดุฉนวนกันความร้อนและระบบมนุษย์ได้ใช้แก้วธรรมชาติตั้งแต่ยุค ใช้เร็วที่สุดอยู่ในรูปแบบของผงฝุ่นประกายสำหรับประดับ รวมถึงสีเนื้อหรือเครื่องสำอาง ไมกาดินยังคงใช้เป็นฟิลเลอร์พิเศษ ในสี พลาสติก เครื่องสำอาง และ tonnages ที่ใหญ่ที่สุดของไมกาปัจจุบันก็ยังอยู่ในโปรแกรมประยุกต์เหล่านี้ ความโปร่งใสและความต้านทานความร้อนและแตกหัก ไมกา หรือที่เรียกว่า isinglass อย่างกว้างขวางใช้ลูกโลก และ windows ในปิ้งถ่านหิน ไม้ และน้ำมันก๊าด ในปีที่ผ่านมา มีการฟื้นฟูการใช้แก้วสำหรับตกแต่งโคมไฟสีและพื้นผิวอื่น ๆ ตกแต่ง นอกจากนี้ใช้ธรรมดา นี่พบแก้วเป็นประโยชน์เป็นความครอบคลุมสำหรับนาซา portholes เกี่ยวกับในเรือรบ มันสามารถยืนกระแทกของปืนใหญ่กว่าแก้วใด ๆ พร้อมใช้งานในขณะนั้น ไมการัสเซียกลายเป็นเรียกว่าแร่กลีบหินขาว คำที่ใช้อธิบายถึงขาวหรือแก้วอินเดีย Mineralogically ไมกาเป็นชื่อกลุ่มของแร่ที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบและคุณสมบัติทางกายภาพคล้ายคลึงกัน Micas มีลักษณะส่วนใหญ่ โดยมีความสมบูรณ์แบบโรคปริ เพื่อให้พวกเขาสามารถแบ่งพร้อมทิศทางหนึ่งเป็นจำนวน laminae บาง ยาก มีความยืดหยุ่นดี สารเคมี micas มีซับซ้อน silicates มิเนียมกับโพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก โซเดียม ลิเทียม ฟลูออรีน และร่องรอยขององค์ประกอบอื่น ๆ Micas หลักแร่กลีบหินขาว H2KAl3 (SiO4) 3 phlogopite, [H, K (Mg, F) 3] Mg3Al (SiO4) 3 biotite, (H, K) และ 2 (Mg, Fe) 2 (Al, Fe) 2 (SiO4) 3 อื่น ๆ micas ที่ไม่ดังไม่รู้จักคือ lepidolite, paragonite และ zinnwaldite Micas มีความแข็งความถ่วงจำเพาะประมาณ 3 หักเหของดัชนีจาก 1.5 การวงเงิน 1.7 และใช้อุณหภูมิประมาณ 550 องศาเซลเซียส (ตัวสินค้า) ถึงประมาณ 980 ° C (ในบางเกรดของ Phlogopite) 2-3 แร่กลีบหินขาวและ biotite เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในประเทศเพกมาไทต์ที่เกี่ยวข้องกับเฟลด์สปาร์และควอตซ์ แม้ว่าพวกเขาจะอุดมสมบูรณ์นอกจากนี้ในหินแกรนิตและ syenites พวกเขาส่วนใหญ่จะรับ ในอินเดีย บราซิล สหรัฐ อเมริกา แม้ว่า สำหรับการใช้ไฟฟ้า ประมาณ 70% ของโลกมาจากสองประเทศ Phlogopite เกิดขึ้นในผลึกพึง dolomites และ serpentines ในแคนาดาและมาดากัสการ์ แร่กลีบหินขาวจะเรียกว่าแก้วอินเดีย สีขาว หรือโพแทสเซียม Phlogopite คือแคนาดา ทับทิม แอมเบอร์ หรือไมกาแมกนีเซียม Biotite คือไมกาเหล็กดำหรือแมกนีเซียม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เช่นเดียวกับการออกใบอนุญาต Westinghouse Electric Corporation ของการทำให้ความดันสูญญากาศ Thermalastic (VPI) ระบบการผลิตและวัสดุเพื่อยนต์อื่น ๆ และผู้ผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า, บริษัท General Electric ได้รับใบอนุญาตกระดาษแก้วอีพ็อกซี่เรซิ่นและเทคโนโลยีที่อุดมไปด้วยคู่ค้า เมื่อเวลาผ่านไปเป็นสิทธิบัตรต้นวิ่งออกมาจากผู้ผลิตอื่น ๆ ที่พัฒนาระบบฉนวนกันความร้อนของตัวเองใช้ทั้ง VPI และเทคโนโลยีเรซินที่อุดมไปด้วย รูปแบบหนึ่งคือการบ่มกดของเรซินที่อุดมไปด้วยขดลวดเทปอย่างเต็มที่หรือแถบในการกดพิเศษพร้อมกับรูปแบบที่จะปฏิบัติตามรูปร่างของขดลวด มันก็พบว่าเทปซุปเปอร์เรซินที่อุดมไปด้วยในส่วนของขดลวด
82
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของฉนวนวัสดุและระบบมนุษย์ได้ใช้ไมกาธรรมชาติตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ การใช้งานที่เร็วที่สุดเท่าที่เป็นในรูปแบบของฝุ่นผงประกายหรือเพื่อวัตถุประสงค์ประดับรวมทั้งสีของร่างกายหรือเครื่องสำอาง ไมกาพื้นดินยังคงใช้เป็นฟิลเลอร์ที่พิเศษในสีพลาสติกและเครื่องสำอางและตันที่ใหญ่ที่สุดของแก้วในวันนี้ยังคงอยู่ในโปรแกรมเหล่านี้ เพราะของความโปร่งใสและความต้านทานต่อการแตกหักและความร้อนของแก้วที่เรียกว่าวุ้นถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับลูกโลกโคมไฟและหน้าต่างถ่านหิน, ไม้, และเตาน้ำมันก๊าด ในปีที่ผ่านมาได้มีการฟื้นตัวของการใช้แก้วสำหรับเฉดสีไฟฟ้าโคมไฟตกแต่งและพื้นผิวการตกแต่งอื่น ๆ นอกเหนือไปจากการใช้งานธรรมดาเหล่านี้รัสเซียพบว่าแก้วจะเป็นประโยชน์ที่ครอบคลุมสำหรับผูเรือรบในขณะที่มันสามารถยืนช็อกของปืนใหญ่ยิงได้ดีกว่ากระจกที่มีอยู่ในเวลานั้น ไมการัสเซียกลายเป็นที่รู้จักกรุงมอสโกในระยะที่ยังคงใช้เพื่ออธิบายแก้วสีขาวหรืออินเดีย Mineralogically แก้วเป็นชื่อที่กำหนดให้กับกลุ่มของแร่ธาตุขององค์ประกอบที่เกี่ยวข้องและคุณสมบัติทางกายภาพที่คล้ายกัน Micas มีลักษณะส่วนใหญ่โดยมีความแตกแยกพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้พวกเขาสามารถแบ่งออกได้อย่างง่ายดายในทิศทางเดียวเป็นจำนวนมากบางยาก laminae มีความยืดหยุ่น เคมี Micas เป็นซิลิเกตที่ซับซ้อนของอลูมิเนียมที่มีโพแทสเซียมแมกนีเซียมเหล็กโซเดียมลิเธียมฟลูออรีนและร่องรอยขององค์ประกอบอื่น ๆ Micas หลักคือกรุงมอสโก, H2KAl3 (SiO4) 3; Phlogopite [H, K (Mg, F) 3] Mg3Al (SiO4) 3; และ biotite (H, K) 2 (Mg, Fe) 2 (อัลเฟ) 2 (SiO4) 3 Micas อื่น ๆ ที่จะไม่ให้เป็นที่รู้จักกันดี lepidolite, paragonite และ zinnwaldite Micas มีความแข็งของ 2-3 ความถ่วงจำเพาะประมาณ 3, ดัชนีหักเห 1.5-1.7 และข้อ จำกัด ของการใช้งานที่อุณหภูมิประมาณ 550 ° C (สำหรับกรุงมอสโก) ได้ถึงประมาณ 980 ° C (สำหรับเกรดบางส่วนของ Phlogopite) . กรุงมอสโกและ biotite เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในคู pegmatite เกี่ยวข้องกับเฟลด์สปาร์และควอทซ์แม้ว่าพวกเขาจะมีความอุดมสมบูรณ์ในหินแกรนิตและ syenites พวกเขาจะได้รับส่วนใหญ่ในอินเดียบราซิลและสหรัฐอเมริกาแม้ว่าสำหรับการใช้ไฟฟ้าประมาณ 70% ของอุปทานโลกมาจากครั้งแรกที่ทั้งสองประเทศ Phlogopite เกิดขึ้นในหินปูนผลึก Dolomites และ serpentines ในประเทศแคนาดาและประเทศมาดากัสการ์ กรุงมอสโกจะเรียกว่าอินเดียสีขาวหรือไมกาโพแทสเซียม Phlogopite เรียกว่าแคนาดา, ทับทิม, สีเหลือง, ไมกาหรือแมกนีเซียม biotite เรียกว่าสีดำหรือแมกนีเซียมเหล็กไมกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชอบเวสติงเฮาส์ไฟฟ้า บริษัท การออกใบอนุญาตของ thermalastic สุญญากาศความดันเคลือบ ( VPI ) การผลิตระบบและวัสดุอื่น ๆและผู้ผลิตมอเตอร์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า บริษัท General Electric อนุญาต epoxy แก้วกระดาษและรวยเทคโนโลยีเรซินกับคู่ของมัน ผ่านเวลาที่เป็นสิทธิบัตรก่อนวิ่งออกไป ผู้ผลิตรายอื่นพัฒนาระบบฉนวนของพวกเขาเองใช้ทั้ง CPI และเทคโนโลยีมากมาย เรซิน หนึ่งการเปลี่ยนแปลงคือกดการบ่มเรซินรวย อย่างเทปม้วนหรือแถบกดพิเศษพร้อมกับแบบฟอร์ม ตามรูปร่างของขดลวด พบว่า เรซิน ซุปเปอร์รวย เทป ในส่วนของขดลวด
82 ประวัติศาสตร์การพัฒนาของวัสดุฉนวนกันความร้อนและมวลมนุษยชาติ
ได้ใช้ระบบแบบธรรมชาติตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ใช้เร็วที่สุดคือในรูปแบบของฝุ่นหรือแป้งเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ สี ร่างกาย หรือ เครื่องสำอาง ไมกา พื้นดินยังคงใช้เป็นสารพิเศษ สี เครื่องสำอาง พลาสติก และแก้ว และเป็นผลที่ใหญ่ที่สุดวันนี้ยังคงอยู่ในการใช้งานเหล่านี้ เพราะความโปร่งใสและความต้านทานของการแตกหักและความร้อน สารที่เรียกว่า , แก้วถูกใช้อย่างกว้างขวางสำหรับลูกโลกโคมไฟสำหรับ Windows ในถ่านหิน ไม้ และน้ำมันเตา ใน ปี ล่าสุด ได้มีการฟื้นฟูการใช้แก้วสีโคมไฟตกแต่งพื้นผิวและตกแต่งอื่น ๆ นอกจากใช้ธรรมดาเหล่านี้ รัสเซีย พบ ไมกา เพื่อประโยชน์เป็นเครื่องหน้าต่างในเรือรบ ,มันสามารถยืนช็อกปืนใหญ่กว่าแก้ว ใช้ได้ที่ที่เวลาใด ๆ ไมการัสเซียกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ Muscovite , ระยะยังคงใช้เพื่ออธิบายสีขาวหรืออินเดียแร่ไมกา เกี่ยวกับการศึกษาแร่ไมกาเป็นชื่อกลุ่มของแร่ธาตุขององค์ประกอบที่เกี่ยวข้องและคุณสมบัติทางกายภาพที่คล้ายกัน ไมกาเป็นลักษณะส่วนใหญ่โดยสมบูรณ์แบบแรกเริ่มแตกแยก ,เพื่อให้พวกเขาสามารถแบ่งได้อย่างง่ายดายในทิศทางเดียวเป็นจํานวนมาก บาง เหนียว ลามิน่าที่ยืดหยุ่น เคมี , ไมกาเป็นอลูมิเนียม มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก โซเดียม ซิลิเกต ลิเธียม ฟลูออรีน และร่องรอยขององค์ประกอบอื่น ๆ ส่วนไมกาหลักคือ Muscovite , h2kal3 ( sio4 ) 3 ; Phlogopite [ H , K ( มก. , f ) 3 ] mg3al ( sio4 ) 3 ; และไบโอไทต์ ( H , K ) 2 ( Mg , Fe ) 2 ( Al , Fe ) 2 ( sio4 ) 3 .ไมกา อื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นที่รู้จัก เป็นเลพิโดไลท์พาราโกไนต์ และ zinnwaldite , . ส่วนไมกามีความแข็ง 2 – 3 ความถ่วงจำเพาะของเกี่ยวกับ 3 , ดัชนีการหักเหของแสงจาก 1.5 กับ 1.7 และสามารถใช้งานได้ประมาณ 550 องศา C อุณหภูมิจำกัด ( Muscovite ) ถึงประมาณ 980 ° C ( บางชั้นของโฟลโกไพต์ ) และเกิดขึ้นส่วนใหญ่ในไบโอไทต์มัสโคไวต์เขื่อนเพกมาไทต์ที่เกี่ยวข้องกับเฟลด์สปาร์และควอตซ์แม้ว่าพวกเขาจะมากมายใน แกรนิต syenites . พวกเขาส่วนใหญ่ได้รับในอินเดียบราซิลและสหรัฐอเมริกา แม้ว่าที่ใช้ไฟฟ้าประมาณ 70% ของอุปทานโลกที่มาจากสองประเทศแรก โฟลโกไพต์เกิดขึ้นในผลึกหินปูนโดโลไมต์ , และ serpentines ในแคนาดา และมาดากัสการ์ มัสโคไวต์เรียกว่าอินเดีย ขาว หรือโพแทสเซียมแร่ไมกาโฟลโกไพต์เรียกว่าแคนาดา , ทับทิม , แอมเบอร์ หรือแมกนีเซียม แร่ไมกา ไบโอไทต์เรียกว่าดำ หรือแมกนีเซียมแก้วเหล็ก