performance while also permitting i

performance while also permitting improved terms and conditions for employees. But
how is it possible for a union presence to benefit both employers and employees
simultaneously? The most influential answer to this question derives from Freeman
and Medoff (1984), who argued that unions do not only operate through power-based
bargaining, but also through collective voice. Freeman and Medoff saw union bargaining
as largely negative for a firm’s performance and for economic efficiency, but
they argued that this was outweighed by the positive effects of voice. They described
various ways in which voice produced its effects, and of these the most relevant for
the present article can be classed as ‘informational’. Unions, by providing voice
services (e.g. bringing together, interpreting and amplifying employee voice; and also
communicating employers’ messages to employees), can help employers to obtain
valuable information from employees at a reduced cost and to communicate to
employees in a legitimated manner. At the same time unions, by organising the
collective voice of employees and ensuring that it is heard by management, help to
get a wider range of things employees want. Of course, the idea that unions could
produce positive effects was also familiar in pre-1980s debates about unionism: for
instance, it was often argued that unions provided an incentive for managerial efficiency
through wage bargaining pressure on profits (the ‘shock effect’). However, the
voice concept is increasingly attractive not only because of its firmer foundations in
mainstream economic theory, but also because it resonates with an era of rapid change
in work organisation (Bresnahan, 1999; Reich, 2001; White
et al.
, 2004), whereby
employers rely increasingly on the knowledge and active involvement of workers in
seeking to be competitive. Freeman and Medoff (1984) emphasise that cooperative
institutions between employer and union are crucial for voice-based efficiency.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประสิทธิภาพการทำงานในขณะที่ยัง อนุญาตให้ปรับปรุงข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับพนักงาน แต่วิธีจะสามารถอยู่ร่วมได้ประโยชน์ทั้งนายจ้างและพนักงานพร้อมกันหรือไม่ ตอบคำถามนี้มีอิทธิพลมากที่สุดมาจากฟรีแมนและ Medoff (1984), ที่โต้เถียงว่า สหภาพเท่านั้นทำงานโดยใช้ไฟฟ้าต่อรองราคา แต่ โดยรวมเสียง ฟรีแมนและ Medoff เห็นร่วมต่อรองราคาเป็นค่าลบเป็นส่วนใหญ่ประสิทธิภาพของบริษัท และ ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ แต่พวกเขาโต้เถียงว่า นี้เป็น outweighed โดยผลบวกของเสียง พวกเขาอธิบายวิธีต่าง ๆ ในเสียงที่ผลิตผล และ ของเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับบทความที่นำเสนอสามารถเป็น classed เป็น 'ข้อมูล' สหภาพแรงงาน ให้เสียงบริการ (เช่น นำ การตีความ และมือพนักงานเสียง และสื่อสารข้อความของนายจ้างพนักงาน), ช่วยให้นายจ้างได้รับข้อมูลจากพนักงาน ที่มีต้นทุนที่ลดลง และติดต่อสื่อสารกับพนักงานในลักษณะ legitimated ที่เดียวกันเวลาสหภาพแรงงาน โดยจัดเตรียมการรวมเสียงของพนักงานและมั่นใจว่า มีการได้ยิน โดยบริหาร ช่วยช่วงกว้างของสิ่งที่พนักงานต้องได้ แน่นอน ความคิดที่ว่า สหภาพแรงงานสามารถผลิตบวกผลที่ยังคุ้นเคยในไฟต์ก่อนดำเนินเกี่ยวกับ unionism: สำหรับอินสแตนซ์ มันถูกมักจะโต้เถียงว่า สหภาพแรงงานให้เพื่อจูงใจในประสิทธิภาพการบริหารจัดการผ่านความดันต่อรองค่าจ้างจากกำไร ('ช็อกผล') อย่างไรก็ตาม การแนวคิดเสียงไม่น่าสนใจมากขึ้นเท่านั้นเนื่องจากรากฐานที่แน่นมากขึ้นเท่านั้นในหลักทฤษฎีทางเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากมัน resonates กับยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในงานองค์กร (Bresnahan, 1999 Reich, 2001 สีขาวet al, 2004), โดยนายพึ่งมากความรู้และมีส่วนร่วมงานของผู้ปฏิบัติงานในไม่ต้องแข่งขัน ฟรีแมนและ Medoff (1984) ย้ำว่าสหกรณ์สถาบันระหว่างนายจ้างและสหภาพมีความสำคัญในการใช้เสียงอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการดำเนินงานในขณะนี้ยังอนุญาตให้แง่ที่ดีขึ้นและเงื่อนไขสำหรับพนักงาน แต่วิธีการที่เป็นไปได้สำหรับการแสดงตนที่ยูเนี่ยนจะได้รับประโยชน์ทั้งนายจ้างและลูกจ้างไปพร้อมๆ กัน? คำตอบที่มีอิทธิพลมากที่สุดกับคำถามนี้มาจากฟรีแมนและ Medoff (1984) ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันว่าสหภาพไม่เพียง แต่ดำเนินการผ่านพลังงานที่ใช้ในการต่อรองแต่ยังผ่านเสียงโดยรวม ฟรีแมนและ Medoff เห็นการเจรจาต่อรองของสหภาพแรงงานเป็นส่วนใหญ่ในเชิงลบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ แต่พวกเขาอ้างว่านี่คือนิเวศโดยผลในเชิงบวกของเสียง พวกเขาอธิบายวิธีการต่างๆในการที่ผลิตเสียงผลกระทบของมันและของเหล่านี้เกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับบทความในปัจจุบันสามารถจัดว่าเป็น'ข้อมูล' สหภาพแรงงานโดยการให้เสียงบริการ(เช่นการร่วมกันนำการตีความและขยายเสียงของพนักงานและยังสื่อสารข้อความนายจ้างให้กับพนักงาน) สามารถช่วยให้นายจ้างที่จะได้รับข้อมูลที่มีค่าจากพนักงานที่ค่าใช้จ่ายที่ลดลงและการสื่อสารกับพนักงานในลักษณะที่legitimated สหภาพแรงงานในเวลาเดียวกันโดยจัดเสียงของกลุ่มพนักงานและสร้างความมั่นใจว่ามันจะได้ยินผู้บริหารช่วยในการรับช่วงกว้างของสิ่งที่พนักงานต้องการ แน่นอนความคิดที่ว่าสหภาพจะมีผลกระทบในเชิงบวกยังเป็นที่คุ้นเคยในก่อนปี 1980 การอภิปรายเกี่ยวกับ unionism: สำหรับตัวอย่างเช่นมันก็มักจะอ้างว่าสหภาพให้แรงจูงใจให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการผ่านดันการเจรจาต่อรองค่าจ้างกำไร(ที่มีผลบังคับใช้ช็อต) . อย่างไรก็ตามแนวคิดเสียงเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นไม่เพียงเพราะรากฐานกระชับในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์กระแสหลักแต่ยังเพราะมันสะท้อนกับยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในองค์กรทำงาน (Bresnahan 1999; รีค 2001 สีขาว., et al, 2004) โดยนายจ้างต้องพึ่งพามากขึ้นเกี่ยวกับความรู้และการมีส่วนร่วมของคนงานในการแสวงหาที่จะมีการแข่งขัน ฟรีแมนและ Medoff (1984) เน้นที่ความร่วมมือสถาบันระหว่างนายจ้างและสหภาพแรงงานที่มีความสำคัญสำหรับประสิทธิภาพการใช้เสียงตาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประสิทธิภาพในขณะที่ยังอนุญาตให้ปรับปรุงเงื่อนไขสำหรับพนักงาน แต่
เป็นไปได้ยังไงที่สหภาพตนเพื่อประโยชน์ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
พร้อมกัน ? คำตอบสำหรับคำถามนี้มาจากอิทธิพลมากที่สุดและฟรีแมน
medoff ( 1984 ) , ที่ถกเถียงกันอยู่ว่าสหภาพไม่เฉพาะงานผ่านอำนาจ
ต่อรองตาม แต่ยังผ่านการรวมเสียงฟรีแมน medoff เห็นและสหภาพการเจรจาต่อรอง
เป็นส่วนใหญ่ลบประสิทธิภาพของ บริษัท และประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ , แต่พวกเขาโต้เถียงว่า นี้คือ
outweighed โดยผลบวกของเสียง พวกเขาอธิบาย
หลายวิธีที่เสียงผลิตผลของมัน และของเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ
บทความปัจจุบันสามารถ classed เป็น ' ข้อมูล ' สหภาพ โดยการให้บริการเสียง
( เช่นนำร่วมกัน การตีความและ amplifying เสียงพนักงาน และการสื่อสารข้อความ
นายจ้างให้พนักงาน ) , สามารถช่วยให้นายจ้างที่จะได้รับข้อมูลที่มีคุณค่าจาก
พนักงานที่ลดต้นทุน และสามารถสื่อสารกับพนักงานใน legitimated
ลักษณะ ที่สหภาพเวลาเดียวกัน โดยจัด
เสียงรวมของพนักงาน และมั่นใจว่า มันได้ยิน โดยการจัดการช่วย

,มีช่วงกว้างของสิ่งที่คนต้องการ แน่นอน ความคิดที่สหภาพแรงงาน
ผลิตผลในเชิงบวกก็คุ้นเคยในการอภิปรายเกี่ยวกับสหภาพแรงงานก่อน - 1980 :
อินสแตนซ์ มันมักจะแย้งว่าสหภาพให้จูงใจสำหรับการจัดการประสิทธิภาพ
ผ่านการต่อรองกดดันกำไรค่าจ้าง ( ' ช็อกผล ' ) อย่างไรก็ตาม
แนวคิดคือเสียงที่น่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะรากฐานของทฤษฎีเศรษฐศาสตร์กระแสหลักใน
กระชับ แต่ยังเพราะมันสะท้อนกับยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในองค์กรทำงาน
( เบร าฮาน , 1999 ; เยอรมัน , 2001 ; สีขาว

et al . , 2004 ) โดย
นายจ้างอาศัยยิ่งขึ้นในความรู้และดูแลการใช้งานของ คนงานใน
แสวงหาเพื่อที่จะแข่งขันฟรีแมน และ medoff ( 1984 ) เน้นว่าสถาบันสหกรณ์
ระหว่างนายจ้างและสหภาพเป็นสิ่งสำคัญเพื่อประสิทธิภาพการใช้เสียง