Anciently people didn't have enough

Anciently people didn't have enough food and eat nuts, berries and fruits for their snacks, distinguishing form their staple diets. Then they came to call those snacks "sweets". In those days, they had no skills to process food, so they regarded sweets which were originally sweet, as the special food.

Then, they acquired the skills to reserve food. For example, they dried nuts in the sun, and crush them with millstones, rubbing stones and stone hammers. In those days, they ate acorn too, but it has too harshness to eat just as it is. So they crushed and soaked in it to skim lye, make it a ball and heat it. It is said that this is the origin of the current dumplings. In this way, the kinds of the preserved foods have increased.

They also acquired the agricultural technology. And Then, the "rice cake" was made, which is regard as the oldest Japanese processed food. It has rice in it for the ingredients, actually rice is very very important in those days, so the rice cakes were regarded as the divine food.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Anciently คนไม่มีอาหารเพียงพอ และกินถั่ว ครบและผลไม้ในอาหารของพวกเขา แยกเป็นอาหารหลักของพวกเขา แล้ว จะมาเรียก "ขนม" ขนมเหล่านั้น ในวันเหล่านั้น พวกเขาไม่มีทักษะในการประมวลผลอาหาร ดังนั้นพวกเขาถือขนมซึ่งก็หวาน เป็นอาหารพิเศษแล้ว พวกเขาได้รับทักษะในการจองห้องพักอาหาร ตัวอย่าง พวกเขาแห้งถั่วในดวงอาทิตย์ และกำจัดพวกเขา ด้วย millstones ถูหินและค้อนหิน ใน กินเอคอร์นเกินไป แต่มันมีเกิน harshness กินเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาบด และเปี่ยมล้นไปด้วยในการอ่านอย่างคร่าว ๆ ไอ้ด่าง ทำให้ลูก และความร้อนได้ มีกล่าวว่า นี่คือที่มาของเกี๊ยวปัจจุบัน มีเพิ่มชนิดของอาหารที่รักษาด้วยวิธีนี้พวกเขายังได้รับเทคโนโลยีการเกษตร แล้ว "ข้าวเค้ก" ซึ่งเป็นสัมมาคารวะญี่ปุ่นเก่าแก่อาหารที่ประมวลผล มันมีข้าวในส่วนผสม จริง ข้าวความมากนั้น ดังนั้นเค้กข้าวถือว่าเป็นอาหารทิพย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสมัยโบราณคนไม่ได้มีอาหารเพียงพอและกินถั่วผลเบอร์รี่และผลไม้ของว่างของพวกเขาแตกต่างรูปแบบอาหารหลักของพวกเขา แล้วพวกเขาก็จะเรียกมาอาหารว่างบรรดา "ขนม" ในวันนั้นพวกเขามีทักษะในการประมวลผลอาหารเพื่อให้พวกเขาได้รับการยกย่องขนมหวานซึ่ง แต่เดิมเป็นอาหารพิเศษ. จากนั้นพวกเขาได้รับทักษะในการสำรองอาหาร ตัวอย่างเช่นพวกเขาแห้งถั่วในดวงอาทิตย์และบดขยี้พวกเขาด้วยการแบกถูหินและค้อนหิน ในวันนั้นที่พวกเขากินโอ๊กเกินไป แต่ก็มีความรุนแรงมากเกินไปที่จะกินเช่นเดียวกับที่มันเป็น ดังนั้นพวกเขาจึงบดและแช่ในน้ำด่างหางจะทำให้ลูกและความร้อน ว่ากันว่านี่คือจุดเริ่มต้นของเกี๊ยวปัจจุบัน ด้วยวิธีนี้ชนิดของอาหารที่เก็บรักษาไว้ได้เพิ่มขึ้น. พวกเขายังได้รับเทคโนโลยีทางการเกษตร และจากนั้น "เค้กข้าว" ที่ถูกสร้างขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอาหารแปรรูปญี่ปุ่น แต่ก็มีข้าวอยู่ในนั้นเป็นส่วนผสมที่จริงข้าวเป็นอย่างมากที่สำคัญมากในวันเหล่านั้นเพื่อให้เค้กข้าวถูกมองว่าเป็นอาหารของพระเจ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสมัยโบราณ คนไม่มีอาหารเพียงพอ และกินถั่ว , ผลเบอร์รี่และผลไม้ขนมของพวกเขาแยกแยะรูปแบบของหลักสูตรอาหาร แล้วพวกเขาก็เรียกขนม " ขนม " ในวันเหล่านั้น พวกเขาไม่มีทักษะอาหาร กระบวนการ ดังนั้นจึงถือเป็นขนมที่หวานเดิมเป็นอาหารที่พิเศษ

แล้ว พวกเขาได้รับ ทักษะ ใน อาหาร ตัวอย่างเช่นพวกเขาถั่วแห้งในดวงอาทิตย์และทำลายพวกเขาด้วย millstones rubbing หินและหินค้อน ในวันเหล่านั้น พวกเขากินลูกโอ๊กเหมือนกัน แต่มันหยาบเกินไปที่จะกินเป็น ดังนั้นพวกเขาบดและแช่เพื่อหางด่าง ทำให้ลูกและความร้อนมัน ว่ากันว่า นี่คือที่มาของซาลาเปา ปัจจุบัน ในวิธีนี้ , ชนิดของการเก็บรักษาอาหารได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้พวกเขาได้รับเทคโนโลยีการเกษตรแล้ว " เค้กข้าว " ขึ้น ซึ่งถือว่าเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น อาหารแปรรูป . มันมีข้าวให้ส่วนผสมจริงๆแล้วข้าวสำคัญมากในวันเหล่านั้น ดังนั้นเค้กข้าวยังถือว่าเป็นอาหารศักดิ์สิทธิ์