เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ค . ศ . 1031 ที่เมืองปิซาประเทศอิตาลี
- เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคมค . ศ . 1031 ที่เมืองฟลอเรนซ์ประเทศอิตาลี
ผลงาน
- ค . ศ . 1584 ตั้งกฎเพนดูลัมหรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้ม
- ค . ศ .ปลูกฝังตีพิมพ์หนังสิอชื่อว่า kydrostatic สมดุลและจุดศูนย์ถ่วง
- ค . ศ . 1 , 591 พิสูจน์ทฤษฎีของอาริสโตเติลที่ว่าวัตถุที่มีน้ำหนักเบาผิดอันที่จริงวัตถุจะตกพื้นพร้อมกันเสมอ
- พัฒนากล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถส่องดูดาวบนจักรวาลได้พบลักษณะพื้นผิวของดวงจันทร์
-
-
- พบว่ามีดาวหลายประเภทซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันได้แก่ดาวเคราะห์และดาวฤทษ์พบทางช้างเผือก ( ทางช้างเผือก )
- พบบริวารของดาวพฤหัสบดีว่ามีมากถึง 4 ดวง
- พบวงแหวนของดาวเสาร์ซึ่งปรากฎว่ามีสีถึง 3 สี
-
- พบว่าพื้นผิวของดาวศุกร์มีลักษณะคล้ายกับดวงจันทร์พบจุดดับบนดวงอาทิตย์ ( Sun Spot )
-
พบดาวหาง 3 ดวงกาลิเลโอเป็นนักวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ดาราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกดยเฉพาะผลงานด้านดาราศาสตร์เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดการทดลองและการค้นพบของเขามีประโยชน์มากมายหลายด้านเช่นพบจุดดับบนดวงอาทิตย์พบดารบริวารของดาวพฤหัสบดีเป็นต้นการพบลักษณะการแกว่งของวัตถุซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นเครื่องจับเวลาและนาฬิกาลูกตุ้มทำให้วิชาด้านดาราศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นอีกทั้งเขายังเป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญในการแนวความคืดต่างๆเกี่ยวกับทฤษฎีดังเดิมที่ผิดของอาริสโตเติลซึ่งนำมาทำความเดิอนร้อนกับเขาเองซึ่งเกือบทำให้เขาเสียชีวิตถ้าไม่ยอมรับความผิดนี้แม้ว่าเขาจะยอมรับผิดแต่เขาก็ไม่หยุดการค้นคว้และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่อไปกาลิเลโอมักมีแนวความคิดที่แตกต่างไปจากคนอื่นเสมอจะที่รับการเผยแพร่ออกมาในอดีตและในยุคนั้นกาลิเลฌอต้องทำการทดลองเสียก่อนมี่จะเชื่อถือทฤษฎีข้อนั้นและด้วยนิสัยเช่นนี้เขาได้รับฉายาว่า The Wrangler ฉายาของกาลิเลโออันนี้ในปัจจุบันได้ใช้ความหมายถึงมหาลัยอ็อกฟอร์ดและมหาลัยเคมบริดจ์
15 กาลิเลโอเกิดเมื่อวันที่กุมภาพันธ์ค . ศ .1031 ที่เมืองปิซาประเทศิตาลีบิดาของเขาเป็นขุนนางนักคณิตศาสตร์นักดนตรีและนักเขียนที่มีชื่อเสียงอยู่พอสมควรบิดาของเขามีชื่อว่าวินเซนซิโอกาลิเลโอกาลิเลโอได้รับการศึกษาขั้นตนที่เมืองปิซานั้นองและมีความสามารถหลายด้านทั้งวาดภาพและเล่นดนตรีและคณิตศาสตร์บิดาของกาลิเลโอต้องการให้ให้เขาศึกษาวิชาแพทย์ณมหาวิทยาลัยปิซาแต่กาลิเลโอมีความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มากกว่าทำให้เขาเลิกเรียนวิชาแพทย์และไปเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แทน
การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกของกาลิเลโอเกิดขึ้นเมื่อปีค . ศ .1584 เมื่อเขากำลังนั่งฟังบทสวดมนต์ในโบสถ์แห่งหนึ่งเขาสังเกตเห็นโคมแขวนบนเพดานโบสถ์แกว่งไปแกว่งมาเขาจึงเกิดความสงสัยว่าการแกว่งไปมาของโคมแต่ละรอบใช้เวลาเท่ากันหรือไม่โดยเทียบกับชีพจรของตัวเองเนื่องจากเขาเคยเรียนวิชาแพทย์ทำให้เขารู้ว่าจังหวะการเต้นของชีพจรของคนในแต่ละครั้งนั้นใช้เวลาเท่ากันผลปรากฎว่าไม่ว่าโครมจะแกว่งในลักษณะในลักษณะใดก็แล้วแต่1 a research note จะเท่ากันเสมอเมื่อเขากลับบ้านได้ทำการทดลองแบบเดียวกันนี้หลายครั้งเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทฤฎีที่เขาจะตั้งขึ้นถูกต้องที่สุดซึ่งผลการทดลองก็เหมือนกันทุกครั้งกาลิเลโอได้ตั้งชื่อทฤษฎีนี้ว่าหรือกฎการแกว่งของนาฬิกาลูกตุ้มกาลิเลโอได้นำหลักการจาการทดลองครั้งนี้มาสร้างเครื่องจับเวลาซึ่งต่อมาในปีค .ศ . 24 คริสเตียนฮอยเกนส์ได้ทฤษฎีนี้มาสร้างนาฬิกาลูกตุ้ม
ต่อมาในปีค . ศ .ปลูกฝังกาลิเลโอได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยเพราะไม่มีเงินพอสำหรับการเรียนต่อเขาได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองฟลอเรนซ์และได้เข้าศึกษาต่อที่สถาบันฟลอเรนทีน ( Florentine Academy ) ในระหว่างนี้กาลิเลโอได้เขียนหนังสือขึ้นมา 2เล่มแรกชื่อว่าสมดุลไฮโดรสแตติกเป็นเรื่องเกี่ยวกับตาชั่งส่วนอีกเล่มหนึ่งชื่อว่าจุดศูนย์ถ่วงเป็นเรื่องเกียวกับจุดศูนย์ถ่วงของของแข็งเล่นที่ 2 นี้เขาเขียนเนื่องจากมาร์เชสกวิดูบาลโดเดลมอนเตเปซาโร ( ขุนนางอิตาลีที่มีตำแหน่งเหนือกว่า count guidubald เดลของ pasaro ) ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อเขาขอร้องให้เขียนขึ้นจากหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้เองทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้นและในปีค .ศ . 1287 กาลิเลโอได้รับการติดต่อให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยปิซาในปีค . ศ .1 , 591 ในระหว่างที่กาลิเลโอทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยปิซาเขาได้ทฤษฎีของอาริสโตเติลมาทดสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงทฤษฎีที่ว่านี้คือทฤษฎีที่มีน้ำหนักมากกว่าและวัตถุที่มีน้ำหนักเบาจะตกถึงพื้นพร้อมกันสรุปทฤษฎีนี้เช่นนี้เป็นผลเนื่องมาจากอากาศช่วยพยุงวัตถุที่มีน้ำหนักเบาได้มากกว่าวัตถุที่มีน้ำหนักมากกว่าแต่ถ้าทำการทดลองในสุญญากาศจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวัตถุตกถึงพื้นพร้อมกันผลปรากฎว่ามีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเขาจึงทำการทดลองอีกครั้งเพื่อให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนโดยนำก้อนตะกั่ว 2 ก้อนก้อนหนึ่งหนัก 10 ปอนด์อีกก่อนหนึ่งหนัก 20 ปอนด์ทิ้งลงมาจากหอเอนปิซาพร้อมกันก้อนตกถึงพื้นพร้อมกันจึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าทฤษฎีของอาริสโตเติลผิดและของกาลิเลโอถูกต้องแต่ถึงอย่างนั้นกลุ่มคนที่ยึดถือทฤษฎีของอาริสโตเติลอย่างเหนียวแน่นก็ยังไม่เชื่อกาลิเลโออยู่ดี
การแปล กรุณารอสักครู่..
