Prasat Muang SinghWestern most Khme

Prasat Muang Singh
Western most Khmer temple in Thailand
Ruins of Prasat Muang Singh Kanchanaburi
Prang of Prasat Muang Singh
Name Prasat Muang Singh Date 12th - 14th century Location Kanchanaburi
Muang Singh historical park marked the Western border of the Khmer in Thailand. At the height of its power, the vast Khmer empire stretched out all the way West to deep into present day Kanchanaburi province in the Western part of Thailand.

Besides being a temple dedicated to the Hindu God Shiva, Prasat Muang Singh and surrounding town most likely served as a military stronghold, to defend the Khmer empire from attacks from the West.

Muang Singh, meaning “Lion city”, is completely surrounded by a laterite wall. The Khwae Noi river runs along the South end of the complex.

The main temple that stands in the center of the complex was built between the 12th and 14th century in Bayon style, named after the Bayon temple in Angkor that was built around the same time.

Structures at Muang Singh historical park
In Khmer temple architecture, the central prang (Khmer style tower) in the inner sanctuary represents Mount Meru, the center of the universe in Hindu belief. The central prang enshrines the linga, the sacred symbol symbolizing the power of Shiva. Of another large temple, only the foundation remains. The historical park contains two other, smaller Khmer structures.

During the reign of King Rama I, the first King of the Rattanakosin era at the end of the 18th century, Muang Singh acted as a stronghold to protect the Kingdom from invasion from the West.


»» ALSO READ: Thailand’s largest Khmer temple »»
In 1974 the Thai Fine Arts Department started renovation of Muang Singh, that was mostly covered by soil and overgrown by vegetation by then. After completion of the renovation in 1987, Prasat Muang Singh was made into a national historical park.

Although Muang Singh is not nearly as impressive as well preserved as other Khmer temples like Phimai or Phanom Rung, it is well worth a visit. The historical park is set in a very attractive, relaxed setting with forests and the Khwae Noi river running past it.

There is a small museum that exhibits several artifacts discovered at the site, including a number of Buddha images.

Statue of Lokeshvara, the Bodhisattva of compassion
Statue of Lokeshvara
Ban Kao National Museum
About 8 kilometers from Prasat Muang Singh is the Ban Kao National Museum. This museum built at the site of a Neolithic burial site displays items found there, such as earthenware pots, skeletons, axes, stone tools and other thousands of years old items discovered at the site.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปราสาทเมืองสิงห์วัดเขมรส่วนใหญ่ตะวันตกในประเทศไทยซากปรักหักพังของปราสาทเมืองสิงห์กาญจนบุรีปรางค์ของปราสาทเมืองสิงห์ชื่อปราสาทเมืองสิงห์วัน 12-14 ศตวรรษกาญจนบุรีสถานอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ทำเครื่องหมายเส้นขอบตะวันตกของเขมรในประเทศไทย ที่ความสูงของการใช้พลังงาน อาณาจักรเขมรใหญ่ยืดออกทางทิศตะวันตกลึกเข้าไปในจังหวัดกาญจนบุรีปัจจุบันในส่วนตะวันตกของประเทศไทยนอกเหนือจาก สถาปัตยกรรมที่พระอิศวรให้พระฮินดู ปราสาทเมืองสิงห์และเมืองโดยรอบมักทำหน้าที่เป็นปราการทางทหาร เพื่อปกป้องอาณาจักรเขมรจากการโจมตีจากตะวันตกเมืองสิงห์ หมายถึง "เมืองสิงโต" เป็นทั้งหมดล้อมรอบ ด้วยกำแพงศิลาแลง แม่น้ำแควน้อยเลียบใต้สิ้นสุดซับซ้อนวัดหลักที่ยืนอยู่ในซับซ้อนถูกสร้างขึ้นระหว่าง 12 และศตวรรษที่ 14 ในสไตล์ปราสาทบายน ชื่อหลังจากปราสาทในนครที่สร้างขึ้นช่วงเวลาเดียวกันโครงสร้างที่อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์สถาปัตยกรรมวัดเขมร ปรางกลาง (อาคารสไตล์เขมร) ในวิหารภายในแทนเขาพระสุเมรุ ศูนย์กลางของจักรวาลในศาสนาฮินดูความเชื่อ ปรางเซ็นทรัลเป็น linga สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์สัญลักษณ์ของพลังของพระอิศวร ของวัดอื่น เพียงพื้นฐานยังคงเดิม อุทยานประวัติศาสตร์ประกอบด้วยสอง เล็กเขมรโครงสร้างอื่น ๆในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ ฉัน ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อสิ้นสุดศตวรรษที่ 18 เมืองสิงห์ทำหน้าที่เป็นฐานมั่นเพื่อปกป้องอาณาจักรจากการรุกรานจากตะวันตก» » ยัง อ่าน: วัดเขมรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย» »ในปี 1974 ไทยกรมศิลปากรเริ่มบูรณะของเมืองสิงห์ ซึ่งส่วนใหญ่ปกคลุม ด้วยดิน และโดยพืชนั้น หลังเสร็จสิ้นการปรับปรุงในปี 1987 ปราสาทเมืองสิงห์ถูกทำเป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติแม้ว่าเมืองสิงห์ไม่ได้เกือบเป็นที่น่าประทับใจเป็นอย่างดีไว้เป็นวัดเขมรอื่น ๆ เช่นพิมายพนมรุ้ง ก็บรรยากาศดีมาก สวนประวัติศาสตร์ตั้งอยู่ในบรรยากาศผ่อนคลาย น่าสนใจมากกับป่าและแม่น้ำแควน้อยที่ไหลผ่านมันมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่ค้นพบในเว็บไซต์ นับเป็นพระพุทธรูปรูปปั้นพระโพธิสัตว์แรงกว่า Lokeshvaraรูปปั้นของ Lokeshvaraพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่าจากปราสาทเมืองสิงห์ประมาณ 8 กิโลเมตรเป็นพิพิธภัณฑ์ แห่งชาติ บ้าน เก่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นที่เว็บไซต์ของไซต์งานศพยุคหินใหม่แสดงรายการที่พบมี เช่นหม้อดินเผา โครงกระดูก แกน เครื่องมือหิน และอื่น ๆ พันปีรายการเก่าที่ค้นพบในเว็บไซต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปราสาทเมืองสิงห์ตะวันตกที่สุดของเขมรวัดในประเทศไทยซากปรักหักพังของปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรีปรางค์ของปราสาทเมืองสิงห์ชื่อปราสาทเมืองสิงห์ วันที่ 12 - ศตวรรษที่ 14 กาญจนบุรีอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์เครื่องหมายตะวันตกชายแดนเขมร ในไทย ที่ความสูงของอำนาจของอาณาจักรขอมที่ใหญ่โตยืดตลอดทางตะวันตกไปลึกเข้าไปในวันปัจจุบัน จังหวัดกาญจนบุรี ในภาคตะวันตกของประเทศไทยนอกจากจะเป็นวัดที่อุทิศตนเพื่อพระเจ้าของฮินดู ชีวา ปราสาทเมืองสิงห์ และ ล้อมรอบเมืองส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร เพื่อปกป้องอาณาจักร ขอมจากการโจมตีจากตะวันตกเมืองสิง , ความหมาย " เมืองสิงโต " สมบูรณ์ ล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง . แม่น้ำแควน้อยวิ่งตามปลายใต้ของซับซ้อนวัดหลักที่ยืนอยู่ในศูนย์กลางของซับซ้อนถูกสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 12 และ 14 ในบายน , ชื่อหลังจากที่ Bayon วัดในนครที่ถูกสร้างขึ้นรอบ ๆในเวลาเดียวกันโครงสร้างที่เมืองสิง อุทยานประวัติศาสตร์ในวัดสถาปัตยกรรมเขมร พระปรางค์กลาง ( ตึกสไตล์เขมร ) ในวิหารด้านใน หมายถึง เขาพระสุเมรุ ศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อของฮินดู พระปรางค์กลาง enshrines ที่ลิงก้า สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ คือ พลังของพระศิวะ อีกวัดใหญ่เพียงพื้นฐานยังคงอยู่ อุทยานประวัติศาสตร์ที่มีสองอื่น ๆขนาดเล็ก เขมร โครงสร้างสมัยรัชกาลที่ , กษัตริย์พระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 18 เมืองสิงห์ทำตัวเป็นป้อมปราการเพื่อปกป้องแผ่นดินจากการรุกรานจากตะวันตก»»ยังอ่าน : »»วัดเขมรที่ใหญ่ที่สุดของไทยใน 2517 ศิลปะอาหารไทยแผนกเริ่มปรับปรุงเมือง ซิงห์ ที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยดินและรกด้วยต้นไม้แล้ว หลังเสร็จสิ้นการบูรณะในปี 1987 , ปราสาทเมืองสิงห์ ถูกทำให้เป็น อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ .แม้ว่า เมือง สิงห์ไม่ได้เกือบเป็นที่น่าประทับใจเป็นอย่างดีเก็บรักษาไว้เป็นวัดเขมรชอบพิมายหรือพนมรุ้งมันเป็นอย่างดีคุ้มค่าเข้าชม อุทยานประวัติศาสตร์ตั้งอยู่ในมีเสน่ห์มาก ผ่อนคลายกับการตั้งค่าป่าและแควน้อยวิ่งผ่านมันมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่ค้นพบในหลายเว็บไซต์ รวมถึงหมายเลขของพระพุทธรูปรูปปั้นของ lokeshvara , พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตารูปปั้นของ lokeshvaraพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่าประมาณ 8 กิโลเมตร จาก ปราสาทเมืองสิงห์ เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเก่า . พิพิธภัณฑ์นี้สร้างขึ้นที่เว็บไซต์ของรายการเว็บไซต์การฝังศพยุคแสดงพบว่ามี เช่น หม้อดินเผา หม้อ , โครงกระดูก , แกน , เครื่องมือหิน และพันอื่น ๆของปีรายการที่พบในเว็บไซต์