ทิศทางต่างๆ ของสหรัฐอเมริกากำลังจะเปลี่ยนอีกครั้ง หลังผลการเลือกตั้งสห การแปล - ทิศทางต่างๆ ของสหรัฐอเมริกากำลังจะเปลี่ยนอีกครั้ง หลังผลการเลือกตั้งสห ไทย วิธีการพูด

ทิศทางต่างๆ ของสหรัฐอเมริกากำลังจะเ

ทิศทางต่างๆ ของสหรัฐอเมริกากำลังจะเปลี่ยนอีกครั้ง หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาครั้งล่าสุด ผลคะแนนส่วนใหญ่ต่างเทคะแนนให้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน มีชัยเหนือ นางฮิลลารี คลินตัน พรรคเดโมแครต อย่างไม่เป็นทางการ กลายเป็นสิ่งน่าประหลาดใจของโลกอีกครั้งหนึ่ง
นายโดนัลด์ ทรัมป์ กับการก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 สร้างความแปลกใจและหวั่นใจให้กับชาวโลกไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากการขึ้นเป็นผู้นำของเขา แม้จะเป็นสิ่งที่ท้าทายและแปลกใหม่ แต่สังคมก็ยังมีความไม่มั่นใจในตัวเขาอยู่สูงเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการบริหารและทิศทางทางการเมืองที่ต่างวิเคราะห์ว่า..ไร้ประสบการณ์
ที่ผ่านมา นายทรัมป์ มีถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองของเขาเสมอ เนื่องจากว่าเขาคือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในแผ่นดินสหรัฐอเมริกา เขาไม่เคยมีประสบการณ์ในเส้นทางการเมืองมาก่อน ไม่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สมาชิกวุฒิสภา แต่ขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้แบบก้าวกระโดด
นโยบายบริหารและการเมืองแบบสุดโต่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ มักเป็นที่สนใจทุกครั้งและมักตกเป็นข่าวอื้อฉาวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะนโยบายละเอียดอ่อนเกี่ยวกับผู้อพยพ นายทรัมป์ เคยประกาศสร้างกำแพงกั้นพรมแดงระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก เพื่อตัดช่องทางของผู้ลักลอบเข้าเมือง
อีกทั้งยังมีแผนจะให้เม็กซิโกต้องชำระจ่ายเงินทั้งหมด เนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลเม็กซิโกรู้เห็นเป็นใจให้พลเมืองตัวเองแอบเข้ามาหากินในแผ่นดินสหรัฐ นายทรัมป์ ยังประกาศกร้าวว่า หากพบผู้อพยพก่อคดีในสหรัฐฯ จะบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศทันที และเพิ่มบทลงโทษเข้มงวดสำหรับผู้ที่อยู่สหรัฐฯ เกิดกำหนดในวีซ่า พร้อมกับมีแนวคิดไม่ให้ชาวมุสลิมเข้าสหรัฐฯ ด้วย
เพราะนโยบายนี้เอง ทำให้ นายทรัมป์ ต่างได้ใจชาวอเมริกันผิวขาวส่วนใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับโพลสำรวจผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งที่พบว่า เกินกว่าร้อยละ 52 ต่างลงคะแนนให้ นายทรัมป์ แต่ขณะที่ชาวอเมริกันเชื้อสายลาติน หรือ ฮิสแปนิก ที่ไม่พอใจกับนโยบายนี้ ต่างเทคะแนนให้ นางคลินตัน กว่าร้อยละ 70
ขณะที่นโยบายบริหารเศรษฐกิจของนายทรัมป์ ที่เคยลั่นวาจาอย่างหนักแน่น ทำให้สื่อวิเคราะห์ว่า สหรัฐฯ อาจจะกลับไปเหมือนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บริหารโดดเดี่ยว ไม่พึ่งพาใคร นำการลงทุนจากต่างประเทศกลับมาประเทศตัวเอง เพื่อสร้างงานให้คนในประเทศ
ทั้งนี้ นายทรัมป์ ยังประกาศลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 15% จากเดิม 35% กลายเป็นนโยบายที่ทำให้ได้ใจผู้คน แต่ความเสี่ยงหลักๆ เรื่องการตัดขาดทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกีดกันสินค้าจากประเทศจีน เป็นสิ่งที่เด็ดเดี่ยวของเขา เนื่องจากอาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากยังต้องพึ่งพากำลังการผลิตจากจีนอยู่มาก
หากมองถึงนโยบายบริหารภายในประเทศของนายทรัมป์ เขาตั้งใจจะลดสถิติอาชญากรรมในประเทศให้ได้ หลังจากระยะหลังๆ มักเกิดกรณีความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับคนผิวสีหลายครั้ง พร้อมฟื้นเอาบทลงโทษการประหารชีวิตผู้ต้องหากลับมา ส่วนปัญหาอัตราการว่างงานและสวัสดิการของรัฐบาลต่างๆ ที่จะยกเลิกกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายเก่าของ บารัค โอบามา โดยเฉพาะประกันสุขภาพที่เป็นปัญหาเรื้อรังที่จะเปลี่ยนให้ประชาชนจ่ายเอง รักษาเอง
ปิดท้ายด้วยนโยบายเรื่องกลุ่มก่อการร้าย นายทรัมป์ วางแผนใช้วิธีเจรจาและแทรกแซงเข้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากเขามองเห็นว่า ประเทศลิเบีย ล่มสลายเพราะการไม่เข้าไปแทรกแซงช่วยเหลือ เขาต้องการจะเข้าไปเจรจากับประเทศอิหร่าน ทำข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ และร่วมมือกันถล่มกลุ่มไอซิสให้หมดไป รวมทั้งจะไม่ให้สหรัฐฯ ร่วมปฏิบัตินาโต ถ้าประเทศในสมาชิกไม่ช่วยลงขันด้วย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ทิศทางต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกากำลังจะเปลี่ยนอีกครั้งหลังผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาครั้งล่าสุดผลคะแนนส่วนใหญ่ต่างเทคะแนนให้นายโดนัลด์ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันมีชัยเหนือนางฮิลลารีคลินตันพรรคเดโมแครตอย่างไม่เป็นทางการกลายเป็นสิ่งน่าประหลาดใจของโลกอีกครั้งหนึ่ง นายโดนัลด์ทรัมป์กับการก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 สร้างความแปลกใจและหวั่นใจให้กับชาวโลกไปพร้อม ๆ กันเนื่องจากการขึ้นเป็นผู้นำของเขาแม้จะเป็นสิ่งที่ท้าทายและแปลกใหม่แต่สังคมก็ยังมีความไม่มั่นใจในตัวเขาอยู่สูงเช่นเดียวกันโดยเฉพาะการบริหารและทิศทางทางการเมืองที่ต่างวิเคราะห์ว่า... ไร้ประสบการณ์ ที่ผ่านมานายทรัมป์มีถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองของเขาเสมอเนื่องจากว่าเขาคือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในแผ่นดินสหรัฐอเมริกาเขาไม่เคยมีประสบการณ์ในเส้นทางการเมืองมาก่อนไม่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาแต่ขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้แบบก้าวกระโดด นโยบายบริหารและการเมืองแบบสุดโต่งของโดนัลด์ทรัมป์มักเป็นที่สนใจทุกครั้งและมักตกเป็นข่าวอื้อฉาวบ่อยครั้งโดยเฉพาะนโยบายละเอียดอ่อนเกี่ยวกับผู้อพยพนายทรัมป์เคยประกาศสร้างกำแพงกั้นพรมแดงระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโกเพื่อตัดช่องทางของผู้ลักลอบเข้าเมือง อีกทั้งยังมีแผนจะให้เม็กซิโกต้องชำระจ่ายเงินทั้งหมดเนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลเม็กซิโกรู้เห็นเป็นใจให้พลเมืองตัวเองแอบเข้ามาหากินในแผ่นดินสหรัฐนายทรัมป์ยังประกาศกร้าวว่าหากพบผู้อพยพก่อคดีในสหรัฐฯ จะบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศทันทีและเพิ่มบทลงโทษเข้มงวดสำหรับผู้ที่อยู่สหรัฐฯ เกิดกำหนดในวีซ่าพร้อมกับมีแนวคิดไม่ให้ชาวมุสลิมเข้าสหรัฐฯ ด้วย เพราะนโยบายนี้เอง ทำให้ นายทรัมป์ ต่างได้ใจชาวอเมริกันผิวขาวส่วนใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับโพลสำรวจผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งที่พบว่า เกินกว่าร้อยละ 52 ต่างลงคะแนนให้ นายทรัมป์ แต่ขณะที่ชาวอเมริกันเชื้อสายลาติน หรือ ฮิสแปนิก ที่ไม่พอใจกับนโยบายนี้ ต่างเทคะแนนให้ นางคลินตัน กว่าร้อยละ 70 ขณะที่นโยบายบริหารเศรษฐกิจของนายทรัมป์ ที่เคยลั่นวาจาอย่างหนักแน่น ทำให้สื่อวิเคราะห์ว่า สหรัฐฯ อาจจะกลับไปเหมือนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บริหารโดดเดี่ยว ไม่พึ่งพาใคร นำการลงทุนจากต่างประเทศกลับมาประเทศตัวเอง เพื่อสร้างงานให้คนในประเทศ ทั้งนี้ นายทรัมป์ ยังประกาศลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 15% จากเดิม 35% กลายเป็นนโยบายที่ทำให้ได้ใจผู้คน แต่ความเสี่ยงหลักๆ เรื่องการตัดขาดทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกีดกันสินค้าจากประเทศจีน เป็นสิ่งที่เด็ดเดี่ยวของเขา เนื่องจากอาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากยังต้องพึ่งพากำลังการผลิตจากจีนอยู่มาก
หากมองถึงนโยบายบริหารภายในประเทศของนายทรัมป์ เขาตั้งใจจะลดสถิติอาชญากรรมในประเทศให้ได้ หลังจากระยะหลังๆ มักเกิดกรณีความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับคนผิวสีหลายครั้ง พร้อมฟื้นเอาบทลงโทษการประหารชีวิตผู้ต้องหากลับมา ส่วนปัญหาอัตราการว่างงานและสวัสดิการของรัฐบาลต่างๆ ที่จะยกเลิกกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายเก่าของ บารัค โอบามา โดยเฉพาะประกันสุขภาพที่เป็นปัญหาเรื้อรังที่จะเปลี่ยนให้ประชาชนจ่ายเอง รักษาเอง
ปิดท้ายด้วยนโยบายเรื่องกลุ่มก่อการร้าย นายทรัมป์ วางแผนใช้วิธีเจรจาและแทรกแซงเข้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากเขามองเห็นว่า ประเทศลิเบีย ล่มสลายเพราะการไม่เข้าไปแทรกแซงช่วยเหลือ เขาต้องการจะเข้าไปเจรจากับประเทศอิหร่าน ทำข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ และร่วมมือกันถล่มกลุ่มไอซิสให้หมดไป รวมทั้งจะไม่ให้สหรัฐฯ ร่วมปฏิบัตินาโต ถ้าประเทศในสมาชิกไม่ช่วยลงขันด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ทิศทางต่างๆของสหรัฐอเมริกากำลังจะเปลี่ยนอีก ครั้งหลังผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาครั้งล่าสุดผลคะแนนส่วนใหญ่ต่างเทคะแนนให้นายโดนัลด์ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันมีชัยเหนือนางฮิลลารีคลินตัน พรรคเดคุณโมแครตอย่างไม่เป็นทางการกลายเป็นสิ่งน่าประหลาดใจของโลกอีกครั้งคุณหนึ่ง
ที่คุณนายโดนัลด์ทรัมป์กับหัวเรื่อง: การก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของคุณคนที่ 45 สร้างความแปลกใจและหวั่นใจให้ กับชาวโลก ไปพร้อม ๆ กันเนื่องจากการขึ้นเป็น ผู้นำของเขาแม้จะเป็นสิ่งที่ท้าทายและแปลกใหม่ แต่สังคมก็ยังมีความไม่มั่นใจในตัวเขาอยู่สูงเช่นเดียวกันโดยเฉพาะการบริหารและทิศทางทางการเมืองที่ต่างวิเคราะห์ว่า ..ไร้ประสบการณ์
ที่ทางทหารผ่านมาที่คุณนายทรัมป์มีถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองของเขาเสมอเนื่องจากว่าได้เขาคือนักธุรกิจที่ประสบความสามารถสำเร็จในห้างหุ้นส่วนจำกัดแผ่นดินสหรัฐอเมริกาเขาไม่เคยมีประสบการณ์ในห้างหุ้นส่วนจำกัดเส้นทางการเมืองมาก่อนไม่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ สมาชิกวุฒิสภา แต่ขึ้นมาเป็นคุณผู้ท้าชิงตำแหน่งสมัครประธานาธิบดีได้แบบก้าวกระโดด
หมดนโยบายบริหารและการเมืองแบบสุดโต่งของโดนัลด์ทรัมป์มักเป็นที่สนใจทุกครั้งและมักตกเป็นข่าวหุ้นไทยอื้อฉาวบ่อยครั้งโดยเฉพาะหมดนโยบายละเอียดอ่อนเกี่ยวกับคุณผู้ อพยพที่คุณนายทรัมป์เคยประกาศสร้างกำแพงกั้นพรมแดงระหว่างสหรัฐฯกับเม็กซิโกเพื่อตัดช่องทางของคุณผู้ลักลอบเข้าเมือง
อีกทั้งยังมีแผนจะให้เม็กซิโกคุณต้องชำระจ่ายเงินทั้งหมดเนื่องจากเชื่อว่าได้รัฐบาลเม็กซิโกรู้เห็นเป็นใจให้พลเมืองคุณตัวเองแอบเข้า มาหากินในแผ่นดินสหรัฐนายทรัม ป์ยังประกาศกร้าวว่าหากพบผู้อพยพก่อคดีในสหรัฐฯจะบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศทันทีและเพิ่มบทลงโทษเข้มงวดสำหรับคุณผู้ที่ขณะนี้สหรัฐฯเกิดกำหนดในห้างหุ้นส่วนจำกัดวีซ่าพร้อมกับมีแนวคิดไม่ให้ชาวมุสลิมเข้าสหรัฐฯด้วย
เพราะหมดนโยบายนี้เองทำให้ที่คุณนายทรัมป์ต่างได้ใจชาวอเมริกันผิวขาวตั้งส่วนใหญ่ซึ่งสอดคล้องกับโพลสำรวจคุณผู้ ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งที่พบว่า เกินกว่าร้อยละ 52 ต่างลงคะแนนให้นายทรัมป์ แต่ขณะที่ชาวอเมริกันเชื้อสายลาตินหรือฮิสแปนิกที่ไม่พอใจกับนโยบายนี้ต่างเทคะแนนให้นางคลิน ตันกว่าร้อยละ 70
ขณะที่นโยบายบริหารเศรษฐกิจของนายท รัมป์ที่เคยลั่นวาจาอย่างหนักแน่นทำให้สื่อวิเคราะห์ว่าสหรัฐฯอาจจะกลับไปเหมือนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บริหารโดดเดี่ยวไม่พึ่งพาใครนำการ ลงทุนจากต่างประเทศกลับมาประเทศ คุณตัวเองเพื่อสร้างงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายให้ของคุณคนในห้างหุ้นส่วนจำกัดออกประเทศ
ทั้งนี้ที่คุณนายทรัมป์ยังประกาศลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 15% จากเดิม 35% กลายเป็นนโยบายที่ทำให้ได้ใจผู้ คน แต่ความเสี่ยงหลัก ๆ เรื่องการตัดขาดทางการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะ กีดกันสินค้าจากประเทศจีนเป็นสิ่งที่เด็ดเดี่ยวของเขาเนื่องจากอาจจะส่งผลต่อหัวเรื่อง: การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯเนื่องจากยังคุณต้องพึ่งพากำลังหัวเรื่อง: การผลิตจากเนชั่จีนขณะนี้มาก
หากมองถึงหมดนโยบายบริหารภายในออกประเทศของที่คุณนายทรัมป์เขาตั้งใจจะลดสถิติอาชญากรรมในห้างหุ้นส่วนจำกัดออกประเทศให้ได้ หลังจากระยะหลัง ๆ มักเกิดกรณีความ ขัดแย้งระหว่างตำรวจกับคนผิวสีหลายครั้งพร้อมฟื้นเอาบทลงโทษการประหารชีวิตผู้ต้องหากลับมาส่วนปัญหาอัตราการว่างงานและสวัสดิการของรัฐบาลต่างๆที่จะยกเลิกกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับนโยบายเก่าของบารั คโอบามาโดยเฉพาะประกันสุขภาพที่เป็นปฐมวัยเรื้อรังที่จะเปลี่ยนให้ประชาชนจ่ายเองรักษาเอง
ปิดท้ายด้วยหมดนโยบายเรื่องกลุ่มก่อการร้ายที่คุณนายทรัมป์วางแผนใช้วิธีเจรจาและแทรกแซงเข้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายเนื่องจากเขามองเห็นว่าได้ออกประเทศ ลิเบียล่มสลายเพราะการไม่เข้าไปแทรกแซง ช่วยเหลือเขาต้องการจะเข้าไปเจรจากับประเทศอิหร่านทำข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์และร่วมมือกันถล่มกลุ่มไอซิสให้หมดไปรวมทั้งจะไม่ให้สหรัฐฯร่วมปฏิบัตินาโตถ้าประเทศในสมาชิกไม่ช่วยลงขันด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: