Procedure:Step 1. Identify the cond

Procedure:
Step 1. Identify the conducting side of a tin oxide-coated piece of glass by using a multimeter to measure resistance. The conducting side will have a finite resistance of 20-30 ohms.

Step 2. Use double-stick tape to attach indium-tin oxide glass with the conductive. Remove fingerprints from the glass.

Step 3. Use a cotton applicator to spread a layer of [Ru(bpy)3](BF4)2 polyvinylalcohol solution on the center of the glass. Surround with a splatter shield and spin at 2500 rpm for 10-60 seconds. Repeat for a total of 3-4 applications, trying to keep some uncoated regions at the edges. Instead of using the preferred spin coating method in the previous step, use double-stick tape to attach indium-tin oxide glass with the conductive side up to the benchtop. Use a cotton applicator to spread a very thin layer of [Ru(bpy)3](BF4)2 polyvinylalcohol solution on the glass. Evaporate using a heat gun or hair drier. Repeat for a total of 3-4 applications, trying to keep some uncoated regions at the edges.

Step 4. Obtain a template mask or prepare one using a piece of duct tape on aluminum foil and punching a 2/16 inch hole.

Step 5. Remove any remaining moisture in the film by heating for at least a minute in a hair drier. The primary reason for failure of oLEDs to light is insufficient drying of the polymer layer before adding the active metal layer.

Step 6. Use a cotton swab to paint through the template with liquid gallium-indium alloy to add an active metal electrode. (This eutectic mixture of 75.5% gallium and 24.5% indium is a liquid above 16.5 degrees centigrade.)

Step 7. Touch the positive lead of a 4.5-volt power supply to the tin-oxide glass (not the [Ru(bpy)3](BF4)2 coating). Gently touch the negative lead to the gallium-indium. In humid environments the lifetime is greatly shortened.

View from under the indium-tin oxide glass (left) or view in the dark (right).

Is the circuit a diode? What happens if you reverse the polarity of the applied voltage?

Conclusions
How many layers of the [Ru(bpy)3](BF4)2 polyvinylalcohol solution did you apply? What would you recommend?
How many gallium-indium dots did you apply? How many of them could be made to give off light?
How does the circuit produce light? Draw an energy level diagram to illustrate your answer.
Is the circuit a diode? How do you know?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นตอน:ขั้นตอนที่ 1 ระบุด้านทำของดีบุกออกไซด์เคลือบชิ้นส่วนของแก้ว โดยการใช้มัลติมิเตอร์การวัดความต้านทาน ด้านที่ทำจะมีความต้านทานจำกัดของโอห์ม 20-30ขั้นตอนที่ 2 ใช้เทปคู่ติ๊กเพื่อแนบกระจกอินเดียมทินออกไซด์กับการไฟฟ้า เอาลายนิ้วมือออกจากแก้วขั้นตอนที่ 3 ใช้งานฝ้ายฟุ้งชั้นของ [Ru (bpy) 3] (BF4) 2 polyvinylalcohol โซลูชันบนศูนย์กลางของแก้ว รอบทิศทาง ด้วยโล่กระเซ็นและหมุนที่ 2500 รอบต่อนาที 10-60 วินาที ทำซ้ำสำหรับผลรวมของการใช้งาน 3-4 พยายามให้บางภูมิภาคเคลือบที่ขอบ แทนที่จะใช้วิธีเคลือบที่ต้องการหมุนในขั้นตอนก่อนหน้านี้ ใช้เทปคู่ติ๊กเพื่อแนบกระจกอินเดียมทินออกไซด์กับด้านไฟฟ้าถึง benchtop ใช้งานฝ้ายแพร่กระจายมากบางชั้นของ [Ru (bpy) 3] (BF4) 2 polyvinylalcohol โซลูชันบนแก้ว ระเหยโดยใช้ยางกันความร้อนหรือเครื่องเป่าผม ทำซ้ำสำหรับผลรวมของการใช้งาน 3-4 พยายามให้บางภูมิภาคเคลือบที่ขอบขั้นตอนที่ 4 ขอรับรูปแบบของแม่แบบ หรือเตรียมใช้ชิ้นส่วนของท่อเทปอลูมิเนียมฟอยล์ และการเจาะรู 2/16 นิ้วหนึ่งขั้นตอนที่ 5 เอาความชื้นใด ๆ เหลืออยู่ในฟิล์ม โดยความร้อนสำหรับน้อยนาทีในเครื่องเป่าผม เหตุผลหลักสำหรับความล้มเหลวของ oLEDs แสงไม่พอให้แห้งชั้นพอลิเมอร์ก่อนที่จะเพิ่มชั้นโลหะที่ใช้งานอยู่ขั้นตอนที่ 6 ใช้สำลีเป็นสีผ่านแม่แบบโลหะผสมแกลเลียมอินเดียมเหลวเพิ่มอิเล็กโทรดโลหะใช้งานอยู่ (ส่วนผสมนี้ eutectic ของอินเดียมแกลเลียมและ 24.5% 75.5% เป็นของเหลวเหนือ 16.5 องศาเซนติเกรด)ขั้นตอนที่ 7 สัมผัสไฟฟ้า 4.5 โวลต์นำบวกกับแก้วดีบุกออกไซด์ (ไม่ [Ru (bpy) 3] (BF4) เคลือบ 2) เบา ๆ สัมผัสนำลบไปอินเดียมแกลเลียม ในสภาพแวดล้อมที่ชื้น อายุการใช้งานเป็นอย่างมากลดลงดูอย่างแก้วอินเดียมทินออกไซด์ (ซ้าย) หรือดูในมืด (ขวา)คือวงจร ไดโอดแบบ เกิดอะไรขึ้นกลับขั้วของแรงดันไฟฟ้าที่ใช้บทสรุปจำนวนชั้น [Ru (bpy) 3] (BF4) 2 polyvinylalcohol โซลูชันได้คุณใช้ อะไรจะแนะนำไหมคุณไม่ได้ใช้จำนวนจุดอินเดียมแกลเลียม จำนวนของพวกเขาสามารถทำให้ปิดไฟวงจรไม่ผลิตไฟอย่างไร วาดไดอะแกรมการระดับพลังงานเพื่อแสดงคำตอบของคุณคือวงจร ไดโอดแบบ คุณทราบได้อย่างไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นตอน:
ขั้นตอนที่ 1 ระบุด้านการดำเนินการของชิ้นออกไซด์เคลือบดีบุกแก้วโดยใช้มัลติมิเตอร์เพื่อวัดความต้านทาน ด้านการดำเนินการจะมีความต้านทาน จำกัด 20-30 โอห์ม. ขั้นตอนที่ 2. ใช้เทปสองติดแนบอินเดียมดีบุกออกไซด์แก้วกับสื่อกระแสไฟฟ้า นำลายนิ้วมือจากแก้ว. ขั้นตอนที่ 3. ใช้ applicator ผ้าฝ้ายเพื่อกระจายชั้นของ [Ru (BPY) 3] (BF4) 2 การแก้ปัญหา polyvinylalcohol ตรงกลางของกระจก ล้อมรอบด้วยโล่สาดน้ำและสปินที่ 2,500 รอบต่อนาทีสำหรับ 10-60 วินาที ทำซ้ำรวมของการใช้งาน 3-4, พยายามที่จะให้ภูมิภาคเคลือบผิวบางที่ขอบ แทนการใช้วิธีการเคลือบสปินที่ต้องการในขั้นตอนก่อนหน้านี้ใช้เทปสองติดแนบอินเดียมดีบุกออกไซด์แก้วกับด้านสื่อกระแสไฟฟ้าได้ถึง benchtop ใช้ applicator ผ้าฝ้ายเพื่อกระจายชั้นบางมากของ [Ru (BPY) 3] (BF4) 2 การแก้ปัญหา polyvinylalcohol บนกระจก ระเหยใช้ปืนความร้อนหรือแห้งผม ทำซ้ำรวมของการใช้งาน 3-4, พยายามที่จะให้ภูมิภาคเคลือบผิวบางที่ขอบ. ขั้นตอนที่ 4 ได้รับแม่แบบหน้ากากหรือเตรียมโดยใช้ชิ้นส่วนของท่อเทปฟอยล์อลูมิเนียมและไล่ 2/16 นิ้วหลุม. ขั้นตอนที่ 5 . นำความชื้นใด ๆ ที่เหลืออยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความร้อนเป็นเวลาอย่างน้อยในนาทีผมแห้ง เหตุผลหลักสำหรับความล้มเหลวของ OLEDs กับแสงคือการอบแห้งไม่เพียงพอของชั้นลิเมอร์ก่อนที่จะเพิ่มชั้นโลหะที่ใช้งาน. 6 ขั้นตอนที่ใช้สำลีในการวาดผ่านแม่แบบด้วยโลหะผสมแกลเลียม-อินเดียมเหลวในการเพิ่มขั้วโลหะที่ใช้งาน (นี่ผสมยูเทคติกของแกลเลียม 75.5% และ 24.5% อินเดียมเป็นของเหลวด้านบน 16.5 องศาเซนติเกรด.) ขั้นตอนที่ 7 สัมผัสตะกั่วบวกของแหล่งจ่ายไฟ 4.5 โวลต์เพื่อแก้วดีบุกออกไซด์ (ไม่ [Ru (BPY) 3 ] (BF4) 2 เคลือบ) สัมผัสเบา ๆ นำไปสู่ในทางลบต่อแกลเลียม-อินเดียม ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นอายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก. ดูจากใต้อินเดียมดีบุกออกไซด์แก้ว (ซ้าย) หรือมุมมองในที่มืด (ขวา). เป็นวงจรไดโอด? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณกลับขั้วของแรงดันไฟฟ้าที่ใช้หรือไม่สรุปวิธีการหลายชั้น [Ru (BPY) 3] (BF4) 2 การแก้ปัญหา polyvinylalcohol ไม่ที่คุณใช้? สิ่งที่คุณอยากจะแนะนำ? วิธีการหลายจุดแกลเลียม-อินเดียมที่คุณใช้ไม่? จำนวนของพวกเขาอาจจะทำเพื่อให้ปิดไฟ? อย่างไรแสงผลิตวงจร? วาดแผนภาพระดับพลังงานเพื่อแสดงให้เห็นคำตอบของคุณ. คือวงจรไดโอด? คุณรู้ได้อย่างไร?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นตอน :
ขั้นตอนที่ 1 ระบุการดำเนินการด้านของดีบุกออกไซด์เคลือบชิ้นส่วนของแก้ว โดยการใช้มัลติมิเตอร์วัดความต้านทาน การทำข้างจะมีความต้านทานจำกัด 20-30 โอห์ม

ขั้นตอนที่ 2 ใช้คู่ ติดเทปให้อินเดียมออกไซด์ดีบุกด้วยกระแสไฟฟ้าแก้ว . ลบลายนิ้วมือจากแก้ว

ขั้นตอนที่ 3ใช้ผ้า applicator กระจายชั้นของ [ Ru ( bpy ) 3 ] ( bf4 ) โซลูชันที่ 2 polyvinylalcohol บนศูนย์กลางของแก้ว ล้อมรอบด้วยโล่สาดน้ำและสปินที่ 2500 รอบต่อนาที 10-60 วินาที ทำซ้ำสำหรับจำนวน 3-4 งาน พยายามที่จะทำให้บางภูมิภาคที่ไม่มีขอบ แทนที่จะใช้วิธีเคลือบหมุนที่ต้องการในขั้นตอนก่อนหน้านี้ใช้คู่ ติดเทปให้อินเดียมออกไซด์ดีบุกด้วยกระแสไฟฟ้ากระจกด้านข้างไป แบบตั้งโต๊ะ . ใช้ผ้า applicator แพร่กระจายเป็นชั้นบาง ๆของ [ Ru ( bpy ) 3 ] ( bf4 ) โซลูชันที่ 2 polyvinylalcohol บนกระจก ใช้ปืนความร้อนระเหยหรือผมแห้ง ทำซ้ำสำหรับจำนวน 3-4 งาน พยายามที่จะทำให้บางภูมิภาคที่ไม่มีขอบ .

ขั้นตอนที่ 4ได้รับแม่แบบหน้ากาก หรือเตรียมการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยใช้ชิ้นส่วนของเทปกาวบนอลูมิเนียมฟอยล์เจาะรู 2 รู

/ 16 นิ้ว ขั้นตอนที่ 5 เอาความชื้นใด ๆที่เหลืออยู่ในฟิล์มด้วยความร้อนอย่างน้อยนาทีในเส้นผมแห้ง เหตุผลหลักของความล้มเหลวของ oleds แสงสว่างไม่เพียงพอการแห้งของพอลิเมอร์ชั้นก่อนที่จะเพิ่มชั้นเหล็กปราดเปรียว

ขั้นตอนที่ 6 .ใช้ผ้าฝ้ายระบายผ่านแม่แบบด้วยแกลเลียมอินเดียมผสมของเหลวเพื่อเพิ่มขั้วโลหะที่ใช้งานอยู่ ( ส่วนผสมนี้เทคติคของอินเดียมแกลเลียม 75.5 % และ 24.5% เป็นของเหลวด้านบน 16.5 องศาเซนติเกรด )

ขั้นตอนที่ 7 สัมผัสตะกั่ว บวกของ 4.5-volt แหล่งจ่ายไฟกับดีบุกออกไซด์แก้ว ( ไม่รุ ( bpy ) [ 3 ] ( bf4 ) 2 เคลือบ ) เบา ๆสัมผัสตะกั่วลบต่อแกลเลียมอินเดียมในสภาพแวดล้อมที่ชื้น อายุการใช้งานจะลดลงอย่างมาก

ดูจากใต้อินเดียมทินออกไซด์แก้ว ( ซ้าย ) หรือดูในที่มืด ( ขวา )

เป็นวงจรไดโอด ? เกิดอะไรขึ้นถ้าคุณกลับขั้วของความต่างศักย์ ?

สรุปวิธีการหลายชั้นของ RU ( bpy ) [ 3 ] ( bf4 ) 2 polyvinylalcohol โซลูชั่นที่คุณใช้ ? คุณจะให้ผมทำยังไง
กี่แกลเลียมอินเดียมจุดที่คุณใช้ ?หลายวิธีที่พวกเขาสามารถทำเพื่อให้แสง ?
ทำไมวงจรผลิตไฟ วาดเป็นแผนภาพแสดงระดับพลังงานคำตอบ
เป็นวงจรไดโอด ? คุณรู้ได้อย่างไร ?