Social and Instrumental PrivacyWhen

Social and Instrumental Privacy
When the definition of the situation is not clear, performances on SNS become difficult in relation to privacy on mainly two levels: social privacy and instrumental
privacy .
The former can be defined, according to Raynes-Goldie ( 2010 ) as “the control of
information fl ow about how and when their personal information is shared with
other people”. It usually deals with disclosure .
The latter refers to the access by governments and corporations to users data,
usually via data mining techniques (boyd and Hargittai 2010 ). Instrumental privacy
in online environments deals with the problem of not awareness of people about
what happens with their personal information, i.e., who and why they are gathered
and the possibility for users to do something about it. In this scenario, individuals
often lack every ability to act in a meaningful way (Solove 2001 ).
Disclosure and data mining in social network services are two macro areas
including several privacy issues. Concerning the former area, main topics are selfdisclosure
(Krasnovaet al. 2009 ), context collapse (boyd and Ellison 2007 ) or context
collision (Raynes-Goldie 2010 ), and forced disclosure (Gross and Acquisti
2005 ). Concerning the latter area, both emergent and well known topics are represented
by filter bubble (Pariser 2011 ) and link prediction (Lü and Zhou 2011 ). All
these issues in both areas refer to major gaps in the architecture of SNS. These
makes it hard for users to interact, represent themselves and create communities and
on top of that bear in mind their social and instrumental privacy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนตัวสังคม และบรรเลงเมื่อกำหนดสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจน ยากเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในระดับที่สองส่วนใหญ่แสดงบน SNS: ความเป็นส่วนตัวสังคมและเพลงบรรเลงความเป็นส่วนตัวอดีตสามารถกำหนด ตาม Raynes-ปลาทอง (2010) เป็น "การควบคุมfl ข้อมูลอ่าว เกี่ยวกับวิธี และเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกับคนอื่น" มันมักจะเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลหลังอ้างถึงโดยรัฐบาลและองค์กรผู้ใช้ข้อมูลมักจะผ่านข้อมูลเทคนิคการทำเหมือง (boyd และ Hargittai 2010) เครื่องมือส่วนตัวในสภาพแวดล้อมที่ออนไลน์เสนอกับปัญหาของการไม่รับรู้ของบุคคลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ใครและทำไมพวกเขาจะรวบรวมและความเป็นไปได้สำหรับผู้ใช้ให้ทำบางสิ่งบางอย่างมัน ในสถานการณ์นี้ บุคคลมักจะขาดความสามารถในทุกการดำเนินการในทางความหมาย (Solove 2001)เปิดเผยและการทำเหมืองข้อมูลในบริการเครือข่ายสังคมเป็นพื้นที่แมโครที่สองรวมทั้งปัญหาส่วนบุคคลหลาย เกี่ยวข้องกับพื้นที่เดิม หัวข้อหลักคือ selfdisclosure(Krasnovaet al. 2009), ยุบบริบท (boyd และเอลลิสัน 2007) หรือบริบทชน (ปลาทอง Raynes 2010), และการเปิดเผยบังคับ (รวมและ Acquisti2005) . เกี่ยวกับบริเวณหลัง หัวข้อรู้จัก และโผล่ออกมาแสดงโดยกรองฟอง (Pariser 2011) และคาดเดา (ไทลื้อและโจว 2011) การเชื่อมโยง ทั้งหมดปัญหาเหล่านี้ในพื้นที่ทั้งสองหมายถึงช่องว่างที่สำคัญในสถาปัตยกรรมของ SNS เหล่านี้ทำให้ยากสำหรับผู้ใช้สามารถโต้ตอบ แสดงตัวเอง และสร้างชุมชน และด้านบนของที่ แปลก ๆ จิตใจความเป็นส่วนตัวของสังคม และบรรเลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเป็นส่วนตัวและสังคมประโยชน์เมื่อความหมายของสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจน, การแสดงบน SNS กลายเป็นเรื่องยากในความสัมพันธ์กับความเป็นส่วนตัวบนหลักสองระดับความเป็นส่วนตัวสังคมและเครื่องมือความเป็นส่วนตัว. อดีตสามารถกำหนดตาม Raynes-โกลดี้ (2010) ขณะที่ " การควบคุมของข้อมูลfl โอ๊ยเกี่ยวกับวิธีการและเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาจะใช้ร่วมกันกับคนอื่นๆ " มันมักจะเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูล. หลังหมายถึงการเข้าถึงโดยรัฐบาลและ บริษัท ข้อมูลผู้ใช้มักจะผ่านเทคนิคการทำเหมืองข้อมูล(บอยด์และ Hargittai 2010) เครื่องมือความเป็นส่วนตัวในสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของการรับรู้ไม่ได้เป็นของประชาชนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาคือใครและทำไมพวกเขาจะรวมตัวกันและเป็นไปได้สำหรับผู้ใช้ที่จะทำบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับมัน ในสถานการณ์นี้บุคคลที่มักจะขาดความสามารถที่จะทำหน้าที่ทุกอย่างมีความหมาย (Solove 2001). การเปิดเผยข้อมูลและการทำเหมืองข้อมูลในการให้บริการเครือข่ายสังคมเป็นสองพื้นที่แมโครรวมทั้งประเด็นความเป็นส่วนตัวหลาย เกี่ยวกับพื้นที่อดีตหัวข้อหลักคือ selfdisclosure (Krasnovaet al. 2009) การล่มสลายบริบท (บอยด์และเอลลิสัน 2007) หรือบริบทชน(โกลดี้ Raynes-2010), และการเปิดเผยบังคับ (ขั้นต้นและ Acquisti 2005) เกี่ยวกับพื้นที่หลังทั้งสองโผล่ออกมาและหัวข้อที่รู้จักกันดีเป็นตัวแทนจากฟองกรอง (Pariser 2011) และการทำนายการเชื่อมโยง (Lüและโจว 2011) ทุกปัญหาเหล่านี้ในพื้นที่ทั้งสองหมายถึงช่องว่างที่สำคัญในสถาปัตยกรรมของ SNS เหล่านี้ทำให้มันยากสำหรับผู้ใช้สามารถโต้ตอบเป็นตัวแทนของตัวเองและสร้างชุมชนและด้านบนของหมีที่ในใจความเป็นส่วนตัวสังคมและประโยชน์ของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สังคมและความเป็นส่วนตัวเครื่องมือเมื่อ
นิยามสถานการณ์ไม่ชัดเจน , การแสดงบนเครือข่ายสังคมออนไลน์กลายเป็นเรื่องยากในความสัมพันธ์กับความเป็นส่วนตัวบนสังคมความเป็นส่วนตัว และส่วนใหญ่เป็นสองระดับคือเพลงบรรเลง

อดีตความเป็นส่วนตัว สามารถกำหนดตามเรย์นึสโกลดี้ ( 2010 ) เป็น " การควบคุม
โอ๊ย FL ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการและเมื่อข้อมูล ส่วนบุคคลของพวกเขาร่วมกันกับ
คน " อื่น ๆมันมักจะเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูล .
หลังหมายถึงการเข้าถึงโดยรัฐบาลและองค์กรผู้ใช้ข้อมูล
มักจะผ่านเทคนิคการทำเหมืองข้อมูล ( บอยด์ และ hargittai 2010 )
ความเป็นส่วนตัวเครื่องมือในสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของความตระหนักของประชาชนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
ข้อมูลส่วนบุคคลคือใคร และทำไมพวกเขาจะรวบรวม
และเป็นไปได้สำหรับผู้ใช้ที่จะทำบางอย่างเกี่ยวกับมัน ในสถานการณ์สมมตินี้ บุคคล
มักจะขาดทุกความสามารถในการกระทำในทางที่มีความหมาย ( solove 2001 ) .
ข้อมูลและเหมืองข้อมูลในบริการเครือข่ายทางสังคมเป็นสองพื้นที่ที่แมโคร
รวมถึงประเด็นความเป็นส่วนตัวหลาย เกี่ยวกับพื้นที่ก่อน หัวข้อหลัก selfdisclosure
( krasnovaet อัล 2009 ) , ยุบบริบท ( บอยด์และเอลลิสัน (
) หรือบริบทชน ( เรย์นึสโกลดี้ 2010 ) และบังคับให้เปิดเผยข้อมูล ( ขั้นต้นและ acquisti
2005 ) เกี่ยวกับพื้นที่หลัง ทั้งเร่งด่วนและรู้จักกันดีหัวข้อแทน
โดยกรองฟอง ( Pariser 2011 ) และเชื่อมโยงคำทำนาย ( L üและโจว 2011 ) ปัญหาเหล่านี้ทั้งในพื้นที่ทั้งหมด
หมายถึงช่องว่างที่สำคัญในสถาปัตยกรรมของเครือข่ายสังคมออนไลน์ เหล่านี้
ทำให้ยากสำหรับผู้ใช้เพื่อโต้ตอบเป็นตัวแทนของตนเอง และสร้างชุมชนและ
ด้านบนของหมีในจิตใจของตนเอง สังคม และเป็นเครื่องมือความเป็นส่วนตัว .