Writer Charlie Kaufman has come up

Writer Charlie Kaufman has come up with some pretty heavy premises in his time, but his best foray into the realms of the strange and bizarre came in 2004’s Eternal Sunshine of the Spotless Mind, a sci-fi romance story notable for its mind-bending plot and mesmerizing visual style. Jim Carrey and Kate Winslet star as Joel and Clementine, two former lovers whose dysfunctional relationship leads them to a technology company that specializes in erasing painful memories from subjects’ minds. This ingenious premise allows director Michel Gondry to really have some fun playing with time and space, and in some scenes objects and people will disappear out of the shot as they are systematically being erased from a character’s memory. All this makes for some amazing sequences, but what really makes Eternal Sunshine such a weird trip are all the questions it forces the viewers to ask themselves: are we nothing but the sum total of our memories? Would it be worth it to delete bad experiences from your mind even if you lost a little of yourself in the process? That kind of depth of subject matter is a rare find in movies, and it’s a big part of what makes this film such a strange and memorable experience.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Kaufman ชาร์ลีผู้เขียนได้เกิดขึ้นกับบางสถานที่สวยหนักในเวลาของเขา แต่เขาจู่โจมครั้งสุดไปเป็นของแปลก และแปลกประหลาดมาซันไชน์นิรันดร์ของ 2004 จิตใจสะอาด เรื่องโรแมนติกวิทยาศาสตร์โดดใจดัดแปลงและรูปแบบอย่างมีเสน่ห์ มแคร์และเคตวินสเล็ตดาว Joel และคลีเมนไทน์ สองอดีตคนรักซึ่งความสัมพันธ์นบานำพวกเขาเข้าไปยังบริษัทเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญในการลบความทรงจำที่เจ็บปวดจากความคิดของเรื่อง หลักฐานนี้แยบยลให้ผู้กำกับ Michel Gondry จริง ๆ มีความสนุกสนานเล่นกับเวลาและพื้นที่ และในบางฉาก วัตถุและคนจะหายไปการถ่ายภาพที่พวกเขามีระบบถูกลบออกจากหน่วยความจำของตัวละคร ทั้งหมดนี้ทำให้ลำดับบางอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่จริง ๆ ทำให้ซันไชน์นิรันดร์เที่ยวแปลกคำถามทั้งหมดที่จะบังคับให้ผู้ชมต้องถามตัวเอง: เรามีอะไรแต่ผลรวมผลรวมของความทรงจำของเรา มันจะคุ้มลบประสบการณ์เลวร้ายจากใจของคุณแม้ว่าคุณสูญเสียเพียงเล็กน้อยของตัวเองในกระบวนการ ว่าชนิดของความลึกของเรื่องหายากในภาพยนตร์ และเป็นส่วนใหญ่ของสิ่งที่ทำให้นี้ภาพยนตร์ดังกล่าวแปลก และ น่าจดจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเขียนชาร์ลีคอฟแมนได้เกิดขึ้นกับสถานที่หนักสวยบางในเวลาที่เขา แต่การโจมตีที่ดีที่สุดของเขาเข้าไปในอาณาจักรของแปลกและแปลกประหลาดมาในปี 2004 ของนิรันดร์ซันไชน์ของมายด์ Spotless เป็นเรื่องโรแมนติกไซไฟที่น่าทึ่งสำหรับใจดัดพล็อตของ และรูปแบบภาพ mesmerizing จิมแคร์รี่และเคทวินสเล็ตดาวที่โจเอลและเคลเมนไท, สองอดีตคนรักที่มีความสัมพันธ์ที่จะนำพวกเขาไปยัง บริษัท เทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญในการลบความทรงจำที่เจ็บปวดจากจิตใจอาสาสมัครสมบูรณ์ นี้หลักฐานแยบยลช่วยผู้อำนวยการฝ่ายมิเชล Gondry จริงๆมีความสนุกสนานเล่นกับเวลาและสถานที่และในบางฉากวัตถ​​ุและผู้คนจะหายไปจากการยิงที่พวกเขาจะเป็นระบบถูกลบจากความทรงจำของตัวละคร ทั้งหมดนี้ทำให้สำหรับลำดับที่น่าตื่นตาตื่นใจบางส่วน แต่จริงๆสิ่งที่ทำให้นิรันดร์ซันไชน์เช่นการเดินทางแปลกทุกคำถามมันบังคับให้ผู้ชมที่จะถามตัวเอง: พวกเราจะได้อะไร แต่ผลรวมของความทรงจำของเราหรือไม่ มันจะคุ้มค่าที่จะลบประสบการณ์เลวร้ายจากความคิดของคุณได้ถ้าคุณสูญเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองในกระบวนการ? ชนิดของความลึกของเรื่องที่หายากในหนังและมันเป็นส่วนใหญ่ของสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่แปลกและน่าจดจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเขียน ชาร์ลี คอฟแมน มีบางสถานที่ในเวลาที่ค่อนข้างหนัก แต่สิ่งที่ดีที่สุดของเขาจู่โจมเข้าไปในอาณาจักรของแปลกและแปลกประหลาดมาในปี 2004 แสงแดดนิรันดร์ของจิตใจสะอาด โรแมนติก เรื่องเด่น Sci - Fi ของจิตใจดัดแปลงรูปแบบภาพและความทรงจำ จิม แคร์รี่ย์ และ เคท วินสเล็ตดารา โจเอล คลีเมนไทน์และ ,สองอดีตคนรักที่มีความสัมพันธ์ที่ผิดปกติของพวกเขาเพื่อนำเทคโนโลยีของ บริษัท ที่เชี่ยวชาญในการลบความทรงจำที่เลวร้ายจากจิตใจคน ' สถานที่แยบยลนี้ช่วยให้ผู้กำกับมิเชล gondry จริงๆมีความสนุกสนานในการเล่นกับเวลา และในบางฉากวัตถุและผู้คนจะหายไปจากการยิงที่พวกเขาจะถูกลบออกจากระบบหน่วยความจำของตัวอักษรทั้งหมดนี้ทำให้ยีนที่น่าทึ่งบางอย่าง แต่สิ่งที่ทำให้นัล ซันไชน์เช่นการเดินทางแปลกทั้งหมด คำถามมันบังคับผู้ชมให้ถามตัวเองว่าเราเป็นอะไร แต่ผลรวมของความทรงจำของเรา ? มันจะคุ้มค่าที่จะลบประสบการณ์ที่ไม่ดีจากจิตใจของคุณ แม้ว่าคุณจะสูญเสียเล็กน้อยของตัวเองในกระบวนการ ? ชนิดที่ความลึกของเรื่องคือหายากมากในหนังและมันเป็นส่วนสำคัญของสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้แปลกๆ และประสบการณ์ที่น่าจดจำ