This year Americans elect on a new

This year Americans elect on a new president on November 4th. It's an important event that happens once every four years. Currently, the president is always elected from one of the two main parties in the United States: the Republicans and the Democrats. There are other presidential candidates. However, it is unlikely that any of these "third party" candidates will win. It certainly hasn't happened in the last one hundred years.

In order to become the presidential nominee of a party, the candidate must win the primary election. Primary elections are held throughout each state in the United States in the first half of any election year. Then, the delegates attend their party convention in order to nominate their chosen candidate. Usually, as in this election, it's clear who will be the nominee. However, in the past parties have been divided and choosing a nominee has been a difficult process.

Once the nominees have been selected, they campaign throughout the country. A number of debates are usually held in order to better understand the candidates' points of view. These points of view often reflect their party's platform. A party platform is best described as the general beliefs and policies a party holds. Candidates cross the country by plane, bus, train or by car giving speeches. These speeches are often called 'stump speeches'. In the 19th century candidates would stand on tree stumps to deliver their speeches. These stump speeches repeat the candidates basic views and aspirations for the country. They are repeated many hundred of times by each candidate.

Many people believe that campaigns in the United States have become too negative. Each night you can see many attack ads on the television. These short ads contain sound bites which often distort the truth, or something the other candidate has said or done. Another recent problem has been voter turnout. There is often less than 60% turnout for national elections. Some people don't register to vote, and some registered voters don't show up at the voting booths. This angers many citizens who feel that voting is the most important responsibility of any citizen. Others point out that not voting is expressing an opinion that the system is broken.

The United States maintains an extremely old, and some say inefficient, voting system. This system is called the Electoral College. Each state is assigned electoral votes based on the number of senators and representatives that state has in Congress. Each state has two Senators. The number of representatives is determined by the states population but is never less than 1. The electoral votes are decided by the popular vote in each state. One candidate wins all of the electoral votes in a state. In other words, Oregon has 8 electoral votes. If 1 million people vote for the Republican candidate and one million and ten people vote for the Democratic candidate ALL 8 electoral votes go to the democratic candidate. Many people feel that this system should be abandoned.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปีนี้คนอเมริกันเลือกกับประธานคนใหม่ในวันที่ 4 พฤศจิกายน มันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นหนึ่งครั้งทุกสี่ปี ปัจจุบัน ประธานาธิบดีถูกเสมอเลือกจากหนึ่งในสองฝ่ายหลักในสหรัฐอเมริกา: Republicans นี้และประชาธิปัตย์ มีผู้สมัครอื่น ๆ ประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม ก็ไม่น่าที่ใด ๆ ของผู้สมัครเหล่านี้ "บุคคล" จะชนะ มันแน่นอนไม่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งร้อยปี ให้ รายชื่อประธานาธิบดีของฝ่าย กรรมการต้องชนะการเลือกตั้งหลัก หลักการเลือกตั้งมีขึ้นทั่วทุกรัฐในสหรัฐอเมริกาในครึ่งแรกของปีเลือกตั้ง แล้ว ผู้แทนเข้าร่วมการประชุมพรรคเพื่อเสนอชื่อผู้สมัครของท่าน โดยปกติ ในการเลือกตั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนที่จะแทนที่ อย่างไรก็ตาม ในอดีตพรรคได้ถูกแบ่ง และเลือก แทนที่แล้วกระบวนการที่ยาก เมื่อมีการเลือกชื่อที่ จะรณรงค์ทั่วประเทศ จำนวนของการดำเนินถูกจัดขึ้นเพื่อให้เข้าใจเห็นใจผู้สมัคร มุมมองของจุดเหล่านี้มักสะท้อนแพลตฟอร์มของพรรค แพลตฟอร์มพรรคจะอธิบายเป็นความเชื่อทั่วไปและบุคคลถือนโยบาย สมัครข้ามประเทศ โดยเครื่องบิน รถบัส รถไฟ หรือรถให้สุนทรพจน์ สุนทรพจน์เหล่านี้มักจะเรียกว่า 'ซุงสุนทรพจน์' ในศตวรรษที่ 19 ผู้สมัครจะยืนบนตอไม้ส่งสุนทรพจน์ของพวกเขา สุนทรพจน์นี้ซุงซ้ำมุมมองพื้นฐานของผู้สมัครและความปรารถนาของประเทศ พวกเขาจะซ้ำหลายร้อยครั้ง โดยกรรมการแต่ละ หลายคนเชื่อว่า ส่งเสริมการขายในสหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นค่าลบมากเกินไป แต่ละคืนคุณจะเห็นจำนวนมากโจมตีโฆษณาบนโทรทัศน์ได้ โฆษณาสั้นเหล่านี้ประกอบด้วยเสียงกัดซึ่งมักบิดเบือนความจริง หรือสิ่งที่ผู้อื่นพูด หรือทำ ปัญหาอีกล่าสุดได้รับใหญ่ฯ มักจะมีน้อยกว่า 60% turnout สำหรับการเลือกตั้ง บางคนไม่ลงทะเบียนลง และผู้ลงคะแนนบางทะเบียนไม่แสดงค่าที่บูธคะแนน นี้ angers ประชาชนจำนวนมากที่รู้สึกว่า มติเป็นหน้าที่สำคัญของพลเมืองใด ๆ ผู้อื่นชี้ออกมาว่า ไม่ลงคะแนนเสียงจะแสดงความเห็นว่า ระบบถูกตัดขาด สหรัฐอเมริการักษาเก่ามาก และบางคนกล่าวว่า ระบบต่ำ คะแนน ระบบนี้เรียกว่าวิทยาลัย Electoral แต่ละรัฐกำหนดให้ลงคะแนนเลือกตั้งตามจำนวน senators และตัวแทนที่ได้ในสภา แต่ละรัฐมีสอง Senators จำนวนผู้แทนตามประชากรในอเมริกา แต่ไม่น้อยกว่า 1 ลงคะแนนเลือกตั้งจะตัดสินใจ โดยลงคะแนนนิยมในแต่ละรัฐ หนึ่งผู้ชนะทั้งหมดลงคะแนนเลือกตั้งในรัฐ ในคำอื่น ๆ ออริกอนมีการโหวตเลือกตั้ง หาก 1 ล้านคนลงคะแนนสำหรับผู้สมัครพล และคนหนึ่งล้าน และ 10 คะแนนสำหรับผู้สมัครประชาธิปไตยเลือกตั้งทั้งหมด 8 คะแนนไปฟังประชาธิปไตย หลายคนรู้สึกว่า ควรยกเลิกระบบนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปีนี้ชาวอเมริกันเลือกที่ประธานาธิบดีคนใหม่เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน มันเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นหนึ่งครั้งในทุกสี่ปี ขณะนี้ประธานได้รับการเลือกตั้งเสมอจากหนึ่งในสองฝ่ายหลักในประเทศสหรัฐอเมริกา: รีพับลิกันและเดโมแคร มีผู้สมัครประธานาธิบดีอื่น ๆ แต่ก็ไม่น่าที่ใด ๆ ของเหล่านี้ "บุคคลที่สาม" ผู้สมัครที่จะเป็นผู้ชนะ แน่นอนมันไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งร้อยปีในการที่จะกลายเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคผู้สมัครจะต้องชนะเลือกตั้ง เลือกตั้งที่จะมีขึ้นตลอดทั้งแต่ละรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของปีการเลือกตั้งใด ๆ จากนั้นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมพรรคของพวกเขาเพื่อที่จะเสนอชื่อผู้สมัครที่ได้รับการแต่งตั้ง มักจะเป็นในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้ท้าชิง แต่ในกิจการที่ผ่านมาได้รับการแบ่งและการเลือกผู้ท้าชิงได้เป็นกระบวนการที่ยากเมื่อการเสนอชื่อได้รับเลือกพวกเขารณรงค์ทั่วประเทศ จำนวนของการอภิปรายมักจะจัดขึ้นในเพื่อให้เข้าใจถึงจุดที่ผู้สมัครในมุมมองของ จุดเหล่านี้ในมุมมองของมักจะสะท้อนให้เห็นถึงแพลตฟอร์มของพรรค แพลตฟอร์มของบุคคลที่ได้รับการอธิบายที่ดีที่สุดเป็นความเชื่อทั่วไปและนโยบายของบุคคลที่ถือ ผู้สมัครข้ามประเทศโดยเครื่องบินรถบัสรถไฟหรือโดยรถยนต์สุนทรพจน์ กล่าวสุนทรพจน์เหล่านี้มักจะเรียกว่า 'กล่าวสุนทรพจน์ตอ' ในศตวรรษที่ 19 ผู้สมัครที่จะยืนอยู่บนตอไม้ที่จะส่งมอบการกล่าวสุนทรพจน์ของพวกเขา เหล่านี้กล่าวสุนทรพจน์ตอซ้ำผู้สมัครมุมมองพื้นฐานและแรงบันดาลใจให้กับประเทศ พวกเขาจะทำซ้ำหลายร้อยครั้งโดยผู้สมัครแต่ละคนหลายคนเชื่อว่าแคมเปญในประเทศสหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นเชิงลบเกินไป ในแต่ละคืนที่คุณสามารถดูโฆษณาโจมตีจำนวนมากในโทรทัศน์ โฆษณาสั้นเหล่านี้มีการกัดเสียงซึ่งมักจะบิดเบือนความจริงหรือสิ่งที่ผู้สมัครอื่น ๆ ที่ได้พูดหรือทำ อีกปัญหาที่ผ่านมาได้รับเลือกผลิตภัณฑ์ มักจะมีผลิตภัณฑ์น้อยกว่า 60% สำหรับการเลือกตั้งระดับชาติ บางคนไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อออกเสียงลงคะแนนและบางส่วนคะแนนเสียงที่ลงทะเบียนจะไม่แสดงขึ้นที่คูหาลงคะแนน โทสะนี้ประชาชนจำนวนมากที่รู้สึกว่าการลงคะแนนเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญที่สุดของประชาชนใด ๆ คนอื่น ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าการลงคะแนนไม่เป็นที่แสดงความคิดเห็นว่าระบบเสียสหรัฐอเมริกายังคงเก่ามากและบางคนบอกว่าไม่มีประสิทธิภาพระบบการลงคะแนน ระบบนี้เรียกว่าการเลือกตั้งวิทยาลัย แต่ละรัฐที่ได้รับมอบหมายลงมติเลือกขึ้นอยู่กับจำนวนของสมาชิกวุฒิสภาและตัวแทนที่รัฐมีอยู่ในสภาคองเกรส แต่ละรัฐมีสองวุฒิสมาชิก จำนวนของผู้แทนจะถูกกำหนดโดยประชากรรัฐ แต่จะไม่น้อยกว่า 1 คะแนนเลือกตั้งจะตัดสินใจโดยคะแนนความนิยมในแต่ละรัฐ ผู้สมัครคนหนึ่งชนะทั้งหมดของการลงมติเลือกในรัฐ ในคำอื่น ๆ , โอเรกอนมี 8 คะแนนเลือก ถ้า 1 ล้านคนลงคะแนนให้ผู้สมัครพรรครีพับลิและเป็นหนึ่งในล้านบาทและสิบคนลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครประชาธิปัตย์ทั้งหมด 8 คะแนนเลือกไปที่ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ หลายคนรู้สึกว่าระบบนี้ควรจะถูกทอดทิ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปีนี้คนอเมริกันเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 4 มันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นทุกสี่ปี ปัจจุบันประธานคือมักจะเลือกจากหนึ่งของทั้งสองฝ่ายหลักในสหรัฐอเมริกา : รีพับลิกันและเดโมแครต มีประธานาธิบดีผู้สมัครอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม มันไม่น่าที่ใด ๆของเหล่านี้ " พรรคที่สาม”ผู้สมัครจะต้องชนะมันไม่เคยเกิดขึ้นในรอบหนึ่งร้อยปี

เพื่อที่จะได้เป็นผู้ท้าชิงประธานาธิบดีของพรรค ผู้สมัครจะต้องชนะการเลือกตั้งเบื้องต้น การเลือกตั้งจะจัดขึ้นตลอดแต่ละรัฐในสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของปีเลือกตั้ง . จากนั้นคณะผู้แทนเข้าร่วมการประชุมพรรคเพื่อเสนอชื่อผู้สมัครของพวกเขาเลือก โดยปกติในการเลือกตั้งครั้งนี้มันชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้ท้าชิง . อย่างไรก็ตาม ในงานเลี้ยงที่ผ่านมาได้รับการแบ่งและการเลือกผู้ท้าชิงมีขั้นตอนยุ่งยาก

เมื่อเสนอชื่อที่ได้รับเลือก เขารณรงค์ทั่วประเทศ หมายเลขของการอภิปรายมักจะจัดขึ้นเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นของผู้สมัคร ' จุดของมุมมอง เหล่านี้มักจะสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของแพลตฟอร์มพรรคของพวกเขางานเลี้ยงแพลตฟอร์มมีการอธิบายที่ดีที่สุดเป็นความเชื่อทั่วไปและนโยบายของพรรคเป็นอย่างไร ผู้สมัครข้ามประเทศโดยเครื่องบิน , รถบัส , รถไฟ หรือ รถยนต์ให้กล่าวสุนทรพจน์ . คำพูดเหล่านี้มักจะเรียกว่า ' ตอสุนทรพจน์ ' ศตวรรษที่ 19 ในผู้สมัครอยากยืนอยู่บนตอไม้เพื่อให้คำพูดของพวกเขา สุนทรพจน์ตอไม้เหล่านี้ย้ำผู้สมัครพื้นฐานมุมมองและแรงบันดาลใจให้กับประเทศพวกเขาจะทำซ้ำหลายร้อยครั้ง โดยผู้สมัครแต่ละคน .

หลายคนเชื่อว่า แคมเปญในสหรัฐอเมริกากลายเป็นลบ ในแต่ละคืนคุณจะเห็นโฆษณาโจมตีมากมายบนโทรทัศน์ โฆษณาสั้น ๆเหล่านี้ประกอบด้วยเสียงกัดซึ่งมักจะบิดเบือนความจริง หรือสิ่งที่ผู้สมัครอื่น ๆได้พูดหรือทำ เมื่อเร็ว ๆ นี้อีก ปัญหาได้รับการโหวตที่ออกมามีมักจะน้อยกว่า 60% ลงคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งแห่งชาติ คนบางคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อออกเสียงลงคะแนน และบางลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่แสดงขึ้นที่การลงคะแนนบูธ นี้ อองเช่ร์ หลายประชาชนที่รู้สึกว่า การโหวต ความรับผิดชอบที่สำคัญที่สุดของใด ๆพลเมือง คนอื่นบอกว่าไม่โหวตแสดงความเห็นว่าระบบเสีย

สหรัฐอเมริกายังคงเป็นเก่ามากบางคนว่าไม่มีประสิทธิภาพ ระบบการออกเสียงลงคะแนน ระบบนี้เรียกว่าวิทยาลัยการเลือกตั้ง แต่ละรัฐจะได้รับการโหวตจากจำนวนสมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐได้ในรัฐสภา แต่ละรัฐมี 2 วุฒิสมาชิก จำนวนของตัวแทนจะถูกกำหนดโดยรัฐประชากร แต่ไม่เคยน้อยกว่า 1 โหวตเลือกตัดสินใจ โดยโหวตความนิยมในแต่ละรัฐหนึ่งในผู้สมัครชนะทั้งหมดของคะแนนเสียงเลือกตั้งในรัฐ ในคำอื่น ๆ , Oregon มี 8 คะแนนเลือกตั้ง ถ้าคน 1 ล้านคน ลงคะแนนให้ผู้สมัครรีพับลิกันและหนึ่งล้านบาท และ 10 คน ลงคะแนนให้ผู้สมัครประชาธิปไตยทั้งหมด 8 คะแนนเลือกตั้งไปให้ผู้สมัครประชาธิปไตย หลายคนรู้สึกว่า ระบบนี้ควรถูกทิ้ง