INTRODUCTIONMany economists and pol

INTRODUCTION
Many economists and policymakers believe that the global
financial crisis has negatively affected consumers’ trust in financial
service providers (e.g., Sapienza and Zingales, 2012).
For instance, recent research and commentaries have suggested
that “the economic crisis of 2008 led to a loss in confidence
in financial institutions” (Uslaner, 2010, p. 110) and
that “the new ‘normal’ in business functions aims to rebuild
trust” (Krutza and Wiff, 2012).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำนักเศรษฐศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายมากมายเชื่อว่าโลกวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในทางการเงินผู้ให้บริการ (เช่น Sapienza และ Zingales, 2012)ตัวอย่าง การวิจัยล่าสุดและอรรถกถาได้แนะนำว่า "วิกฤตเศรษฐกิจ 2008 นำขาดความเชื่อมั่นในในสถาบันการเงิน" (Uslaner, 2010, p. 110) และว่า "ตัวใหม่ 'ปกติ' ในธุรกิจงานมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่น" (Krutza และ Wiff, 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำนักเศรษฐศาสตร์หลายคนและผู้กำหนดนโยบายเชื่อว่าทั่วโลกเกิดวิกฤตทางการเงินที่ได้รับผลกระทบในเชิงลบความไว้วางใจของผู้บริโภคในทางการเงินผู้ให้บริการ(เช่น Sapienza และ Zingales 2012). ยกตัวอย่างเช่นงานวิจัยล่าสุดและข้อคิดเห็นได้ชี้ให้เห็นว่า "วิกฤตเศรษฐกิจของปี 2008 นำไปสู่การ การสูญเสียความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน"(Uslaner 2010, น. 110) และว่า" ใหม่ 'ปกติ' ในการทำงานทางธุรกิจมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างความไว้วางใจ"(Krutza และ wiff 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
มากนักเศรษฐศาสตร์และนโยบาย เชื่อว่าวิกฤตการเงินโลก
มีกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในบริการทางการเงิน
( เช่น Sapienza zingales และ 2012 ) .
ตัวอย่าง วิจัย และวิจารณ์ล่าสุดได้ชี้ให้เห็น
" วิกฤติเศรษฐกิจ 2008 นำไปสู่การสูญเสียความมั่นใจ
ในสถาบันการเงิน” uslaner , 2010 , หน้า 110 ) และ
" ใหม่ ' ปกติ ' ในฟังก์ชันทางธุรกิจ มุ่งสร้าง
เชื่อ " ( krutza และ wiff , 2012 )