2nd February is Candlemas Day. This

2nd February is Candlemas Day. This ancient festival marks the midpoint of winter, halfway between the shortest day and the spring equinox. In olden times, many people used to say that the Christmas season lasted for forty days - until the second day of February.
Robert Herrick's poem 'Ceremonies for Candlemas Eve' writes,
DOWN with the rosemary and Bays,
Down with the misletoe
Instead of holly, now up-raise
The greener box (for show).
How did this 2nd February come to be called Candlemas?
It was the day of the year when all the candles, that were used in the church during the coming year, were brought into church and a blessing was said over them - so it was the Festival Day (or 'mass') of the Candles.
Candles were important in those days not only because there was no electric lights. Some people thought they gave protection against plague and illness and famine. For Christians, they were (and still are) a reminder of something even more important. Before Jesus came to earth, it was as if everyone was 'in the dark'. People often felt lost and lonely. Afraid. As if they were on their own, with no one to help them. Then came Jesus with his message that he is with his followers always ready to help and comfort them. As if he is a guiding light to them in the darkness. Christians often talk of Jesus as 'the light of the World' - and candles are lit during church services to remind Christians of this.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2 กุมภาพันธ์เป็นวันคริสต์ เทศกาลโบราณนับเป็นจุดกึ่งกลางของฤดูหนาวที่กึ่งกลางระหว่างวันที่สั้นที่สุดและฤดูใบไม้ผลิ ในสมัยโบราณหลายคนใช้ในการบอกว่าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสกินเวลานานถึงสี่สิบวัน - จนกว่าวันที่สองของเดือนกุมภาพันธ์.
โรเบิร์ตบทกวี Herrick ของ 'พิธีสำหรับคริสต์อีฟ'
เขียนลงกับโรสแมรี่และอ่าวลงกับ
misletoe
แทนฮอลลี่
ตอนนี้ขึ้นยกกล่องสีเขียว(การแสดง).
วิธีการที่ 2 กุมภาพันธ์นี้มาจะเรียกว่าคริสต์?
มันเป็นวันของปีเมื่อเทียนทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้ในคริสตจักรในช่วงปีที่ผ่านมาถูกนำเข้ามาใน คริสตจักรและให้ศีลให้พรก็บอกว่าพวกเขา -. เพื่อให้มันเป็นวันเทศกาล (หรือมวล)
ของเทียนเทียนที่มีความสำคัญในสมัยนั้นไม่เพียงแต่เพราะไม่มีไฟ บางคนคิดว่าพวกเขาให้การป้องกันภัยพิบัติและการเจ็บป่วยและความอดอยาก สำหรับคริสตชนที่พวกเขา (และยังมี) เตือนของบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมากกว่า ก่อนที่พระเยซูเสด็จมาบนโลกนี้มันก็เหมือนกับว่าทุกคนในที่มืด ' คนมักจะรู้สึกว่าหายไปและเหงา กลัว. ราวกับว่าพวกเขาด้วยตัวเองกับคนที่จะช่วยให้พวกเขาไม่มี จากนั้นก็มาพระเยซูกับข้อความของเขาที่เขาอยู่กับลูกน้องของเขาพร้อมเสมอที่จะช่วยให้พวกเขาและความสะดวกสบาย ราวกับว่าเขาเป็นแสงนำทางให้กับพวกเขาในความมืด คริสเตียนมักจะพูดคุยของพระเยซูเป็น 'แสงของโลก - และเทียนสว่างในช่วงคริสตจักรที่จะเตือนคริสเตียนนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 กุมภาพันธ์เป็น candlemas วัน เทศกาลโบราณนี้เป็นจุดกึ่งกลางของฤดูหนาว ครึ่งทางระหว่างวันที่มีกลางวันสั้นที่สุดและฤดูใบไม้ผลิ Equinox . ในสมัยโบราณ หลายคนเคยบอกว่า เทศกาลคริสต์มาส เป็นเวลาสี่สิบวัน จนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ บทกวีของโรเบิร์ต Herrick
' พิธีสำหรับ candlemas อีฟ ' เขียน
ลงกับโรสแมรี่และอ่าวช่อมิสเซิลโท

ลงแทนของฮอลลี่ตอนนี้อัพเพิ่ม
สีเขียวกล่อง ( โชว์ ) .
ยังไง 2 กุมภาพันธ์มาถูกเรียก candlemas ?
มันวันของปี เมื่อเทียนที่ใช้ในโบสถ์ช่วงปีใหม่พาเข้าไปในโบสถ์ และพระพรก็บอกว่าพวกมันเป็นเทศกาลวัน ( หรือ ' มวล ' ) ของเทียน
เทียนสำคัญในวันเหล่านั้นไม่เพียง แต่เพราะมี ไม่มีไฟไฟฟ้าบางคนคิดว่าพวกเขาให้ป้องกันโรคและการเจ็บป่วย และความอดอยาก สำหรับคริสเตียน พวกเขา ( และยังคงมี ) เตือนบางอย่างที่สำคัญกว่า ก่อนที่พระเยซูจะเสด็จมาในโลก มันเป็นเหมือนทุกคนคือ ' ความมืด ' คนมักจะรู้สึกหายเหงา กลัว ถ้าพวกเค้าเอง ไม่มีใครไปช่วยพวกเขาแล้วพระเยซูกับข้อความของเขาว่าเขาจะอยู่กับลูกศิษย์เสมอพร้อมที่จะช่วยเหลือและปลอบใจพวกเขา ถ้าเขาเป็นแสงสว่างนำทางให้พวกเขาอยู่ในความมืด คริสเตียนมักจะพูดของพระเยซูเป็นแสงสว่างของโลก ' - เทียนและจุดบริการในโบสถ์คริสเตียน
เตือนนี้