Mazda kicks off eco-car production

Mazda kicks off eco-car production in Thailand

Japanese car maker Mazda Motor Corporation yesterday officially kicked off its local eco-car production with a combined investment of 12.6 billion baht to produce the Mazda2 eco-car to premiere at the Thailand International Motor Expo on Nov 28. The Mazda2 meets all the requirements of the second phase of the government's eco-car programme including a 1,500cc diesel engine releasing less than 100 grammes of carbon dioxide per 100 kilometres and consuming 4.3 litres of fuel per 100 km and will remain subject to 17% excise tax with a new excise tax in early 2016. 158,000 vehicles and 200,000 auto parts annually will be made.

Mazda is the first eco-car manufacturer to apply for the Board of Investment's (BoI's) investment promotion in the second phase as well as one of five new car makers to apply. 10 car makers in total applied for the scheme which will make 1.58 million eco-cars combined. Thailand launched the first phase of the eco-car scheme in 2007, attracting investment of 28.8 billion baht from Mitsubishi, Honda, Toyota, Nissan and Suzuki.

Since 1995 Mazda has operated a production facility called AutoAlliance (AAT) in Rayong's Eastern Seaboard Industrial Estate as a joint venture with Ford Motor with an annual production capacity of 140,000 one-tonne pickup trucks and 100,000 passenger cars. Ford recently moved its passenger-car production line to a wholly owned manufacturing facility in Rayong, but pickup truck production remains at AAT.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มาสด้า kicks ปิดผลิตรถอีโคในประเทศไทยรถญี่ปุ่นเครื่องโตโยต้ามอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นเมื่อวานทางเตะออกผลิตรถอีโคในท้องถิ่นกับการลงทุนรวม 12.6 พันล้านบาทในการผลิตอีโครถ Mazda2 ที่รอบปฐมทัศน์ไทยอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์เอ็กซ์โปในวันที่ 28 พฤศจิกายน Mazda2 ตรงกับความต้องการของระยะที่สองของโครงการรถยนต์อีโคของรัฐบาลรวมถึง 1, 500cc เครื่องยนต์ดีเซลปล่อย grammes น้อยกว่า 100 ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อ 100 กิโลเมตร และใช้ 4.3 ลิตรของน้ำมันเชื้อเพลิงต่อ 100 กม. และยังคงเสียภาษีสรรพสามิต 17% กับภาษีสรรพสามิตใหม่ในช่วงต้นปี 2016 จะทำ 158,000 คันและชิ้นส่วนรถยนต์ 200000 ปี มาสด้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์อีโคแรกจะใช้สำหรับส่งเสริมการลงทุนคณะของเงินลงทุน (บีโอไอของ) ในระยะที่สองเป็นหนึ่งในห้าผู้ผลิตรถยนต์ใหม่เพื่อใช้ 10 ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่ใช้สำหรับแผนงานที่จะทำให้โครถ 1.58 ล้านรวมกัน ประเทศไทยเปิดตัวเฟสแรกของโครงร่างของรถอีโคใน 2007 ดึงดูดการลงทุนของ 28.8 ล้านบาทจากมิตซูบิชิ ฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน และซูซูกิ ตั้งแต่ 1995 มาสด้าได้ดำเนินการผลิตอำนวยความสะดวก AutoAlliance (AAT) ในระยองอีสเทิร์นซีบอร์ดนิคมอุตสาหกรรมเป็นบริษัทร่วมทุนกับฟอร์ดมอเตอร์มีการกำลังการผลิต 140000 tonne หนึ่งรถกระบะรถบรรทุกและรถยนต์โดยสาร 100000 ฟอร์ดเพิ่งย้ายสายการผลิตรถโดยสารที่ไปเจ้าของทั้งหมดผลิตที่ระยอง แต่ยังคงผลิตรถกระบะที่ AAT

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาสด้า kicks ปิดรถผลิตในไทย

รถมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ผู้ผลิตเมื่อวานนี้อย่างเป็นทางการ kicked off ท้องถิ่นอีโคคาร์การผลิตด้วยการลงทุนรวม 12.6 พันล้านบาทเพื่อสร้างยอดขายอีโคคาร์ที่จะฉายรอบปฐมทัศน์ที่ ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป เดือนพฤศจิกายน 28การตลาดที่ตรงกับความต้องการทั้งหมดของระยะที่สองของรัฐบาล โครงการอีโคคาร์ รวมถึง 1500cc เครื่องยนต์ดีเซลปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 100 กรัมต่อ 100 กิโลเมตร และใช้ 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และเชื้อเพลิงจะยังคงอยู่ภายใต้ 17% ภาษีสรรพสามิตกับภาษีสรรพสามิตใหม่ในช่วงต้นปี 2016 . 158000 ยานพาหนะและ 200000 อัตโนมัติส่วนเป็นรายปี จะถูกทำ

มาสด้าเป็นครั้งแรก โค ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อใช้สำหรับ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( บีโอไอ ) ในการส่งเสริมการลงทุนในเฟสที่สองเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตรถยนต์ใหม่ที่จะใช้ 10 ผู้ผลิตรถยนต์ในทั้งหมดใช้สำหรับโครงการซึ่งจะทำให้ 1.58 ล้านอีโคคาร์รวมกัน ประเทศไทยเปิดตัวเฟสแรกของโครงการอีโค คาร์ ในปี 2007 ดึงดูดการลงทุน 28.8 พันล้านบาทจาก มิตซูบิชิฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน และ ซูซูกิ

ตั้งแต่ 1995 มาสด้าได้ดำเนินการผลิตโรงงาน AutoAlliance เรียกว่า ( AAT ) ในเมืองระยองนิคมอุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลตะวันออกเป็น บริษัท ร่วมทุนกับ บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ด้วยกำลังการผลิตปีละ 140 , 000 1 ตันรถบรรทุกและรถกระบะ 100000 ผู้โดยสารรถฟอร์ดเพิ่งย้ายสายการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อ เป็นเจ้าของโรงงานผลิตในจังหวัดระยอง แต่การผลิตรถกระบะยังคงอยู่ที่ AAT .